Please wait...
IT UPDATE COMMERCIAL
Chrome, Firefox,Microsoft Edge เว็บเบราว์เซอร์ใดมีประสิทธิภาพที่สุด


เราเปรียบเทียบบราวเซอร์ทั้งสามแบบตัวต่อตัว หนึ่งในนั้นจะได้คะแนนสูงสุด?

พวกเราหลายคนเคยใช้เว็บเบราเซอร์ตัวใดตัวหนึ่งแล้วใช้ชีวิตอยู่กับมันอย่าง
ซื่อสัตย์ตลอดมานานหลายปี คุ้นเคยกับรูปแบบและตอบสนองต่อสิ่งที่น่าตื่นใจเล็กน้อยเมื่อมีการอัปเดตเป็นครั้งคราว แต่หากเบราว์เซอร์ที่คุณใช้อยู่ไม่ใช่ตัวที่ดีที่สุดสำหรับคุณหล่ะ?


บางครั้งคนเรามักจะไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เพราะอาจคิดอยู่เสมอว่าคนอื่นอยู่ในสถานะที่ดีกว่าเราเสมอ ดังนั้นลองพิจารณาเว็บเบราเซอร์ยอดนิยมบางส่วน

รวมทั้งเครื่องมือตัวอื่น ๆ ที่อาจเอาชนะใจคุณได้ เมื่อคุณอ่านบทความนี้แล้วคุณจะรู้ว่าเบราว์เซอร์ Chrome, Firefox, Safari หรือ Microsoft Edge แต่ละตัวตัวใดกันแน่ ที่เหมาะสมสำหรับคุณ


เราได้ทดสอบเบราเซอร์บนแล็ปท็อปรุ่น Acer Aspire V3-572G-7105 และ MacBook Pro ซึ่งแล็ปท็อปมีสเปกดังนี้ ใช้ Intel Core i7 4510U - 2GHz Processor, 8GB RAM, Nvidia GeForce 840M(2GB) ทำงานบน Windows 10 และมี Hard Drive ขนาด 1TB

ตามเกณฑ์มาตรฐานการทดสอบของเรา สำหรับบนเครื่อง MacBook เราได้เปลี่ยน Microsoft Edge เป็น Safari แทน เนื่องจากเราไม่สามารถติดตั้ง Edge ได้

 


 ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

 


ความปลอดภัย (Security) ถือเป็นความสำคัญสูงสุดอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้ในปัจจุบันตระหนักและไม่สามารถละเลยได้ ลองย้อนกลับไปในยุคนั้นที่ Internet Explorer มีประวัติที่แย่มากเกี่ยวข้องกับการละเมิดและข้อบกพร่องต่าง ๆ ของโค้ดโปรแกรมที่ก่อให้เกิดช่องโหว่ซ้ำ ๆ


Microsoft อ้างว่าได้ออกแบบ Edge สำหรับ Windows 10 เป็นพิเศษ โดยมีการปรับปรุงความปลอดภัยเช่น Windows Hello ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ตรวจสอบความถูกต้อง

ทั้งของผู้ใช้และเว็บไซต์ ตลอดจน Smartscreen ซึ่งป้องกันการฟิชชิง (phishing) อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีการอัปเดตใหม่อยู่เสมอไม่ได้หมายความว่าปลอดภัยเต็ม 100%


Firefox มีความมุ่งมั่นในด้านการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกโปรแกรมประกาศเงินรางวัลสูงและมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นบราวเซอร์ทางเลือกที่มืออาชีพหลายคนเลือกใช้งาน

ผู้สร้างอย่าง Mozilla ได้ตระหนักถึงเรื่องการปกป้องข้อมูลเป็นประเด็นสำคัญหลัก โดยกำหนดเอาไว้ในนโยบายของบริษัทว่า ความปลอดภัย “ส่วนบุคคล” และความเป็นส่วนตัว บนอินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นรากฐานสำคัญและจะต้องไม่ถือว่าเป็นประเด็นรอง


Chrome เป็นหนึ่งในเบราว์เซอร์ที่ดีที่สุดในด้านความปลอดภัย แต่น่าเสียดาย คะแนนลดลงเมื่อพูดถึงเรื่องความเป็นส่วนตัว นักวิเคราะห์ Google อ้างว่า Chrome ปรารถนาต้องการข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อช่วยลดรายละเอียดในการค้นหาและการเข้าชมเว็บไซต์แก่คุณ ด้วยเหตุนี้เองผู้ใช้ที่ใส่ใจความเป็นส่วนตัวอาจต้องหลีกเลี่ยงเบราว์เซอร์ตัวนี้ หากต้องการทดสอบอย่างรวดเร็ว?

ลองเปิดการตั้งค่าตำแหน่งบนโทรศัพท์ของคุณสักหนึ่งวัน แล้วไปที่แอป Google Maps คลิกที่ 'Timeline' บนแถบป๊อปอัพด้านขวามือ และมันจะแสดงตำแหน่งที่คุณอยู่ตลอดทั้งวันออกมา


การแข่งขัน Pwn2Own 2017 งานอีเวนต์ที่เหล่าแฮ็กเกอร์จะเจาะช่องโหว่อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเอาชนะชิงรางวัล และงานจัดแสดงบริษัทเทคโลโนโลยีเกี่ยวกับแพตช์ (patche) ต่าง ๆ ที่ต้องจัดการ

ผลการแข่งขันออกมาแล้ว Edge เป็นเบราว์เซอร์ที่มีความปลอดภัยแย่ที่สุด แฮ็กเกอร์ประสบความสำเร็จสามาถเจาะช่องโหว่ได้ถึง 5 ครั้ง Chrome มีความปลอดภัยมากที่สุดเนื่องจากไม่ได้ถูกแฮ็กเลย ขณะที่ Firefox ถูกโจมตีเพียงครั้งเดียว และ Safari ถูกบุกรุก 3.5 ครั้ง

โดยผู้ตัดสินใจให้อีกครึ่งจุดกับการแก้ไขช่องโหว่บราวเซอร์ในรุ่นเบต้า และแฮ็กเกอร์สามารถปลดล็อกข้อความบนแถบสัมผัสของ Macbook Pro ได้

 


เบราว์เซอร์มาตรฐาน
 

เราเรียกใช้งานเบราว์เซอร์แต่ละตัวโดยทดสอบผ่านเกณฑ์การทดสอบต่าง ๆ ทั้งบนแล็ปท็อป Acer และ Macbook Pro ต่อไปนี้คือ ผลการทดสอบแต่ละข้อ
 


 จาวาสคริปต์ (JavaScript)


 

 

เราทดสอบ Ares 6 เพื่อวัดการทำงานของคุณสมบัติใหม่ล่าสุดของ JavaScript โดยเรียกใช้งานเบราว์เซอร์ด้วยการทดสอบที่แตกต่างกันถึง 4 แบบ เพื่อวัดความเร็วในการทำงานเริ่มต้น


Chrome ปรากฎขึ้นมาบนหน้าแล็ปท็อป Acer เป็นเวลา 114.67 มิลลิวินาที ส่วน Edge ช้ากว่าอยู่ที่ 232.13 มิลลิวินาที และ Firefox ใช้เวลา 182.58 มิลลิวินาที


ส่วนบน MacBook นั้น Safari ปรากฎขึ้นมาและรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อใช้เวลา 31.89 มิลลิวินาที ตามมาด้วย Chrome ที่ความเร็ว 50.47 มิลลิวินาที ขณะที่ Firefox ใช้เวลา 121.34 มิลลิวินาที


เกณฑ์เปรียบเทียบสมรรถนะถัดไปคือ Jetstream ซึ่งวัดค่ามาตรฐาน JavaScript หลายแบบ มุ่งเน้นที่ความหลากหลายของงานขั้นสูงและเทคนิคการเขียนโปรแกรม และจะรายงานผลคะแนนเพียงตัวเลขเดียวโดยใช้ค่าเฉลี่ยเรขาคณิต ตัวเลขที่สูงกว่าแสดงว่าได้คะแนนดีกว่า


Edge พยายามทวงคืนตำแหน่งด้วยคะแนนสูงที่ 138.79 มิลลิวินาที ในขณะที่ Firefox และ Chrome ขับสู้กันได้อันดับที่สองด้วยคะแนน 98.844 มิลลิวินาที และ 98.424 มิลลิวินาที ตามลำดับ


ส่วนบน Macbook นั้น อีกครั้งที่ Safari เป็นผู้ชนะด้วยคะแนน 181.09 มิลลิวินาที แน่นอนว่า Chrome ชนะ Firefox ในครั้งนี้ด้วยคะแนนสูงถึง 164.43 มิลลิวินาที เมื่อเทียบกับ Firefox ที่คะแนน 142.52 มิลลิวินาที


การทดสอบ JavaScript เกณฑ์สุดท้ายที่เราดำเนินการคือเกณฑ์มาตรฐาน Octane benchmark ซึ่งเป็นเอนจินเครื่องมือวัดประสิทธิภาพ JavaScript โดยใช้ช่วงของการทดสอบซึ่งเป็นตัวแทนของกรณีการใช้งานบางอย่างในแอ็พพลิเคชัน JavaScript Octane วัดเวลาที่ใช้ในการทดสอบจนเสร็จสมบูรณ์และกำหนดคะแนนที่เป็นสัดส่วนผกผันกับเวลาในการรัน โดยพื้นฐานแล้วหากคะแนนออกมาสูงและประสิทธิภาพก็จะสูงเช่นกัน


Edge ขยับแข้งขยับขาและทำคะแนนได้ถึง 20047 บนแล็ปท็อปของ Acer และคะแนนนำหน้าตัวอื่นอีกครั้ง ส่วน Chrome ตามมาติด ๆ ด้วยคะแนน 18999 และ FireFox ทำคะแนนต่ำสุดได้ 17691


Chrome และ Safari คู่คี่กันมาก บน Macbook โดยที่ Chrome ชนะเฉือนไปด้วยคะแนน 29582 เมื่อเทียบกับ Safari ที่คะแนน 29253 ส่วน Firefox นั้นรั้งท้ายตามมาด้วยคะแนน 25204

 

 กราฟฟิก (Graphic) 


 

MotionMark เป็นชุดวัดประสิทธิภาพของกราฟิกบนเว็บจากการสร้างฉากที่ซับซ้อนโดยใช้อัตราเฟรมเป้าหมาย สำหรับการทดสอบนี้คะแนนมากเท่าไรเบราเซอร์ก็ทำงานได้ดีขึ้นเท่านั้น


บนแล็ปท็อป Acer นั้น Edge ได้อันดับหนึ่ง ด้วยคะแนน 151.23 ตามด้วย Chrome ที่คะแนน 147.55 ส่วน Firefox รั้งท้ายได้คะแนนไป 94.26


บน Macbook นั้น คะแนนห่างกันเห็นได้ชัดเจน แต่คราวนี้ Safari เข้าเส้นชัยด้วยคะแนน 455.20 ตามมาด้วย Chrome ที่คะแนน 324.86 และ Firefox ที่คะแนน 107.76



การตอบสนองของเว็บแอ็พพลิเคชัน
 

สุดท้าย เราใช้เกณฑ์วัดความเร็ว (Speedometer benchmark) ที่วัดการตอบสนองของเว็บแอ็พพลิเคชัน ดีที่สุดโดยทำซ้ำ ๆ และจำลองหลายครั้ง จนเสร็จสมบูรณ์ และลดเรื่องความยุ่งยากออกไป

Chrome คะแนนนำหน้าอีกเป็นครั้งที่ 2 ด้วยคะแนน 81.4 ต่อนาที บนแล็ปท็อป Acer ส่วน Firefox คะแนนสูงกว่า Edge ด้วยคะแนน 34.6 ต่อนาที โดยที่เบราว์เซอร์ของ Microsoft ได้คะแนน 32.33  สำหรับบน Macbook Pro นั้น Safari ชนะ Chrome ด้วยคะแนน 130 ต่อนาที และ 116 ตามลำดับ ส่วน Firefox น่าแปลกใจมาก รั้งท้ายด้วยคะแนน 47.4



การออกแบบ (Design)


 


หากคุณใช้ซอฟต์แวร์ตัวหนึ่งในแต่ละวันอย่างไม่หยุดหย่อน คุณจะคาดหวังว่ามันจะเป็นที่น่าพอใจในมุมมองสายตาของคุณ ทว่าเบราว์เซอร์เป็นที่พอใจในแง่ของสุนทรียภาพด้วยหรือไม่?
 

ดูเหมือนว่า Chrome จะเป็นเบราว์เซอร์ที่มีการออกแบบได้ยอดเยี่ยมที่สุด ออกแบบได้เรียบง่ายและสวยงามเป็นระเบียบ คุณสามารถเข้าถึงสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง

อาจไม่ใช่แท็บเดียวที่เรียกใช้งานบราวเซอร์ขึ้นมา แต่แน่นอนว่าแต่ละแท็บทำงานได้ยอดเยี่ยม และคุณสมบัติ Omnibox นั้นมีประโยชน์อย่างมาก


Firefox ตามหลังมาติด ๆ อย่างไรก็ดี ค่อนข้างคล้ายกับ Chrome ทว่าจะมีความคล่องตัวน้อยกว่า แต่ก็มีเครื่องมือปรับแต่งที่เรียบง่ายกว่า ช่วยให้คุณสามารถทำเบราว์เซอร์ของคุณเองได้ คุณสมบัติพิเศษนี้เรียกว่า คุณสมบัติความเป็นส่วนตัว และเป็นสิ่งที่คุณต้องการมิใช่หรือ?


ไมโครซอฟท์ได้ออกแบบ Edge ให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น ทีม Edge เพิ่งประกาศว่าพวกเขานำระบบชื่อว่า Fluent Design System แนวทางดีไซน์ใหม่นำไปใช้กับเบราว์เซอร์ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2017 นี้

เพื่อทำให้ส่วนติดต่อผู้ใช้ (user interface) และในแง่ประสบการณ์การใช้งานน่าสนใจยิ่งกว่าปัจจุบันมาก ดังนั้นจึงเป็นการปรับปรุงครั้งใหม่ที่คุณต้องติดตามอย่างกระชั้นชิดไม่ให้คลาดสายตา

 


คุณสมบัติอื่น ๆ
 

สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาอย่างคร่าว ๆ ว่ามีอะไรที่เบราว์เซอร์มีนอกเหนือจากข้อกำหนดต่าง ๆ คุณสมบัติบางอย่างเป็นคุณสมบัติสากลทั่วไป อาทิ เบราว์เซอร์ทุกตัวรองรับมีแท็บบราวเซอร์ และค้นหาจากแถบแอดเดรสบาร์ (Address bar) ได้

ตัวอย่างเช่น

จาก การอัพเดตครบรอบ 10 ปีของ Edge Microsoft ซึ่ง Microsoft ออกเบราว์เซอร์รุ่นใหม่ ๆ ที่มีคุณสมบัติใหม่ล่าสุดจำเป็นต้องใช้งานมาก ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนส่วนขยาย (extension) มากยิ่งขึ้น

รวมแล้วกว่า 44 รายการ มีทั้ง AdBlock, Ghostery และ LastPass เป็นต้น การซิงค์ข้อมูลผู้ใช้กับระบบคลาวด์มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ง่ายต่อการสลับใช้งานคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องได้

รวมถึงผู้ช่วยเสมือน (voice assistant) อย่าง Cortana ก็ถูกผนวกรวมเข้ามาด้วย การอัปเดต Creators Edge ได้เปิดตัวคุณสมบัติที่มีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างกลุ่มแท็บ ช่วยให้สามารถบันทึกคั่นรายการระหว่างท่องเว็บได้


Chrome เป็นที่ทราบกันดีว่ามีส่วนขยายของบุคคลที่สามจำนวนมาก (third-party extension) ซึ่งหลายรายการมีความจำเป็นมาก นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการผสานรวมของบุคคลที่หนึ่ง (first-party integration)

ซึ่งเป็นบริการต่าง ๆ ของ Google ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยความสะดวกในการเข้าถึงจาก Chrome กลายเป็นเรื่องง่ายมากๆ ผู้ใช้งานสามารถดู Gmail ปฏิทิน ไดรฟ์และบริการอื่น ๆ เพียงภายในสองคลิกหลังเปิดแท็บใหม่ขึ้นมา


Firefox มีส่วนเสริม (add-on) จำนวนมากที่ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น แม้ว่าจะมีจำนวนไม่มากเท่ากับ Chrome ก็ตาม อย่างไรก็ดี มันก็แสดง Add-on ในแนวทางที่ง่ายมาก เพียงวางเมาส์เหนือสิ่งที่คุณสนใจแล้วมันจะโชว์ข้อมูลสำคัญออกมา

อย่างเช่น สิ่งที่มันทำได้และกับเวอร์ชันของบราวเซอร์ที่มันสามารถทำงานเข้ากันได้ น่าเสียดายที่ Edge อยู่รั้งท้ายสุด มีจำนวนส่วนขยาย (extension) ไม่มากเท่าตัวอื่น ดังนั้นหากคุณต้องการติดตั้งโปรแกรมที่หลากหลายควรใช้ Chrome หรือ Firefox ดีกว่า


ผลการตัดสินชี้ขาด
 



ผลจากการทดสอบเกณฑ์มาตรฐานพบว่า Edge นั้นทำงานได้ดีที่สุดบนแล็ปท็อป Acer แต่ Chrome ดีกว่าทั้งบน Acer และ MacBook น่าเสียดายว่า Firefox ไม่ติดอันดับและอยู่รั้งท้ายลำดับสองหรือไม่ก็ลำดับสามในแต่ละเกณฑ์ทดสอบ

ส่วน Safari บน Macbook นั้นไม่น่าจะเชื่อว่าจะเป็นไปได้โดยชนะการทดสอบถึง 4 ครั้ง แต่แพ้ Chrome เพียงครั้งเดียว น่าผิดหวังมากที่ Firefox ค่าย Mozilla แพ้ทุกการทดสอบบน MacBook


Chrome มีประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งสามารถก้าวข้ามแพลทฟอร์มและสามารรถสร้างความประทับใจแก่เรา ด้วยการเอาชนะ Safari จาก MacBook อย่างท่วมท้น ใช้งานสะดวกง่ายดาย ไหลลื่น และทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นโดยทำงานได้เร็วมาก

ดังที่เราเห็นผลจากการทดสอบ มีการสนับสนุนรองรับมากมาย มีความปลอดภัยค่อนข้างสูงและเอาชนะใจเราไปจนได้


คงจะเป็นเรื่องดีที่สุดหากทดลองใช้เบราว์เซอร์ทั้งสามตัวด้วยตัวเอง หรือไม่ก็สักสองในสามตัวก็ยังดีโดยใช้งานที่แตกต่างกัน คุณสามารถทำงานประจำวันโดยใช้ Chrome แต่เมื่อดูวิดีโอก็ใช้ความสามารถด้านกราฟิกของ Edge แทน

หากคุณกังวลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและต้องการทำลายหลักฐานแล้วหล่ะก็ firefox ถือเป็นตัวเลือกที่ดี และหากคุณมี Macbook Pro  แล้วตัดสินด้วยผลการทดสอบของเรา แน่นอนว่า คุณต้องพิจารณาทดสอบ Safari ดูสักครั้ง



ที่มา: http://www.itpro.co.uk/
ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์