BootMGR is Missing – หมายความว่าอย่างไร
Please wait...
SOLUTIONS CORNER
BootMGR is Missing – หมายความว่าอย่างไร

BootMGR is Missing – หมายความว่าอย่างไร? และคุณจะทำการแก้ไขได้อย่างไร?

 

ข้อผิดพลาดที่เป็นเหมือนฝันร้ายนี้ ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คุณคิด

Windows Boot Manager หรือ BOOTMGR เป็นซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก ที่โหลดไว้ในระบบปฏิบัติการ Microsoft (Microsoft Operating Systems) และยังรับผิดชอบในการนำคอมพิวเตอร์เข้าสู่กระบวนการบูตเข้าสู่ระบบปฏิบัติการและเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้งาน
 
BOOTMGR จัดว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับ Windowsเนื่องจาก หากไม่มีสิ่งนี้ ระบบปฏิบัติการ (OS) ก็จะไม่สามารถเริ่มต้นกระบวนการได้โดยอัตโนมัติ และนอกจากนี้คุณยังจะถูกบังคับให้บูตเครื่องด้วยตนเองโดยใช้ BIOS ของตัวเอง ด้วยการเรียกใช้ winload.exe หรือจัดการโดยBoot Manager
 
อย่างไรก็ตามตัวจัดการการบูต (Boot Manager) ที่ขาดหายไปนั้น เป็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากการปิดคอมพิวเตอร์ผิดวิธี, การอัพเกรดระบบที่ผิดพลาด หรือฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟมีปัญหา โดยจะพบข้อความที่ระบุว่า "BootMGR is Missing" บนหน้าจอ Windows แม้ว่านี่จะเป็นเหตุการณ์ที่น่าวิตก ที่อยู่ๆ พีซีของคุณก็ปฏิเสธที่จะบู๊ต (Boot)  ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อนเท่าใดนัก แม้ว่าจะต้องใช้เวลาอยู่บ้างก็ตาม
 
จากที่มีข้อความเตือนว่า "BootMGR is Missing" มันเป็นข้อผิดพลาดที่บ่งชี้ว่าเครื่องไม่สามารถระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดการ ดังนั้นจึงไม่สามารถเรียกใช้งานได้ ตามที่ได้กล่าวไว้นี่เป็นข้อผิดพลาดทั่วๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกิดจากปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่เป็นอันตรายอย่างการอัพเดตWindows ที่ล้มเหลว หรือบางอย่างที่ร้ายแรงมากกว่านั้น เช่น ไวรัส
 
ทั้งหมดที่คุณจะต้องใช้สำหรับแก้ไขปัญหานี้ก็คือ คอมพิวเตอร์อีกเครื่อง และเวลาว่าง (Spare Time)
 

วิธีการแก้ปัญหา

อย่างแรก บางทีนี่อาจจะเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างเข้าใจง่าย ที่จะถูกนำมาใช้เมื่อเครื่องของคุณแสดงข้อความ "BootMGR is Missing" โดยให้ทำการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณแล้วเปิดใหม่อีกครั้ง แม้ว่ามันจะดูเหมือนว่าเป็นวิธีที่ง่ายมากๆ และผู้คนก็มักจะพูดติดตลกเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า"ลองปิดแล้วเปิดเครื่องเครื่องใหม่อีกที" ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ได้ผลที่สุด สำหรับปัญหาหรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นแบบไม่ต่อเนื่อง(Intermittent Problem)
 
แต่ถ้าวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้ผล คุณควรถอดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อภายนอกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ USB,ไดร์ฟ NAS หรือ CD/DVD เพราะไม่แน่ว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้เครื่องของคุณเกิดข้อผิดพลาดในส่วนของข้อมูลคอมพิวเตอร์ (Data Corruption) ซึ่งทำให้มันไม่สามารถเริ่มการทำงานได้ตามปกติ ดังนั้น ให้คุณลองบูตเครื่องใหม่อีกครั้ง(Rebooting)
 
หากคอมพิวเตอร์ยังไม่รีสตาร์ท ก็คงถึงเวลาที่จะต้องเข้าสู่ส่วนกลางของเครื่องและเข้าถึงการตั้งค่า BIOSของพีซี ซึ่งคุณสามารถทำได้โดยกดปุ่ม F2, F12 หรือ Del ทันทีที่เปิดเครื่องขึ้นมาอีกครั้งและในขั้นตอนนี้จำเป็นต้องพิจารณาลำดับการบู๊ตของระบบอย่างรอบครอบ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันถูกตั้งค่าให้เริ่มต้นจากไดร์ฟ Windowsเป็นอันดับแรก
 

ซ่อมแซมและแก้ไขปัญหาการบูต

หากวิธีแรกยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ คุณจะต้องใช้วิธีการดำเนินการขั้นเด็ดขาด และพยายามแก้ไขขั้นตอนการบู๊ตด้วยตัวเอง ขั้นตอนแรกของวิธีนี้ก็คือ การตั้งค่าเครื่องของคุณให้บู๊ตจากภายนอก (External Source) ไม่ว่าจะเป็น แผ่นสำหรับติดตั้งWindows 10  ที่เป็นต้นฉบับ หรือจาก USB
 
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่การตั้งค่าBIOS ของคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสามารถทำได้โดยการกดปุ่ม F2 หรือ Del เป็นอันดับแรกหลังจากที่เปิดเครื่อง ในส่วนของตัวเลือกการบูต ต้องเลือกที่จะให้เครื่องบูตจากดิสก์ไดร์ฟ (Disk Drive) หรือ USB ต่อจากนั้น ออกจากการตั้งค่า BIOSและบันทึกการเปลี่ยนแปลง
 

การแก้ปัญหา BootMGR is Missing บน Windows 10 และWindows8ด้วย Startup Repair 

Startup Repair นั้นเป็นเครื่องมือที่ใช้ตรวจเช็คและแก้ไขปัญหาเบื้องต้นในกรณีที่ไม่สามารถบูตเข้าระบบวินโดวส์ได้ตามปกติ ซึ่งโดยทั่วไปถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถบูตเข้าระบบได้ตามปกติ วินโดวส์จะบูตเข้า Startup Repair ให้เองโดยอัตโนมัติ ซึ่งภารกิจของStartup Repair ก็คือการซ่อมแซมไฟล์ต่างๆ บน Windows ที่อาจเกิดความเสียหายหรือหายไป ดังนั้นมันจึงถูกจัดว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างมาก แม้แต่สิ่งที่มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบปฏิบัติการหลัก (Operating System) เช่น BootMGR ก็สามารถแก้ไขได้ ตราบใดที่คุณมีสื่อการติดตั้ง (Installation Media) ของ Windows System คุณก็ยังสามารถบูตเข้าStartup Repair ผ่านทางตัวติดตั้งวินโดวส์(บูตผ่านUSB, CD หรือDVD ที่มีอิมเมจดิสก์สำหรับบูต) ได้เช่นกัน
 
ในกรณีที่คุณไม่มีสำเนาของ Windows 10 หรือ Windows 8 คุณจะต้องสร้างสำเนาใหม่ขึ้นมาก่อนที่คุณจะเริ่มต้นกระบวนการ ซึ่งคุณสามารถทำได้โดยไปที่หน้าดาวน์โหลดของ Microsoftจากนั้นให้คลิกที่ลิงค์เพื่อทำการดาวน์โหลด MediaCreationTool
 
เมื่อคุณมี USB, CD หรือDVD ที่กำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการรีสตาร์ทเครื่องของคุณ และเมื่อมีข้อความปรากฏขึ้นมาว่า "Press any key to boot from CD or DVD" (กดปุ่มใดๆ เพื่อบูตจากซีดีหรือดีวีดี) ให้กดที่ปุ่ม Enterจากนั้นให้เลือกการกำหนดค่าในส่วนของภาษา (Language), เวลา (Time) และแป้นพิมพ์ (Keyboard) หลังจากนั้นให้คลิกไปที่ Next เพื่อเลือก “Repair your computer” (ซ่อมแซมคอมพิวเตอร์ของคุณ) ที่ด้านล่างซ้ายของหน้าจอให้กดเลือก Troubleshoot จากนั้น เลือกหัวข้อ Advanced options และ Startup repair ตามลำดับ
 
เมื่อคอมพิวเตอร์ทำตามกระบวนดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว คุณสามารถลองและบูตเครื่อง Windows 10 หรือWindows 8 ของคุณอีกครั้ง หากคอมพิวเตอร์เริ่มทำงานเป็นปกติ โดยที่ไม่ปรากฏข้อความ "Bootmgr is missing" นั่นก็แสดงว่าคุณเพิ่งจะแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ! หรือถ้าไม่ คุณอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพแล้วล่ะสำหรับงานนี้
 

การใช้งาน Startup Repair บน Windows 7 

การแก้ปัญหา BootMGR is Missing ในWindows 7 นั้น คล้ายคลึงกับการแก้ไขใน Windows 10 และ Windows 8 โดยในส่วนของ Windows 7 นั้น คุณจะต้องบูตจากแผ่นดิสก์ Windows 7 และคุณควรรอให้กระบวนการติดตั้งเพื่อโหลดไฟล์ จากนั้นให้เลือกภาษาที่จะใช้ในการติดตั้ง, รูปแบบของเวลาและสกุลเงิน (Currency),แป้นพิมพ์ (Keyboard)หรือวิธีป้อนข้อมูลที่คุณต้องการใช้ จากนั้นคลิกไปที่ "Next" และที่ด้านล่างซ้ายของหน้าต่าง Install Windows ให้คลิกที่ลิงค์ "Repair your computer" (ซ่อมแซมคอมพิวเตอร์ของคุณ)และนี่ก็จะเป็นการเริ่มต้นของตัวเลือกการกู้คืนระบบ(System Recovery Options) ใน Windows 7 ซึ่งจะมีเครื่องมือสำหรับวินิจฉัย (Diagnostic)และซ่อมแซม (Repair)ที่เหมาะสมหลายๆ อย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือ Startup Repair
ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์