Please wait...
CLOUD IT UPDATE
Cloud repatriation คืออะไร

Cloud repatriation คืออะไร?




บางองค์กรกำลังหันกลับไปใช้วิธีส่งคืนข้อมูลกลับจากระบบคลาวด์ เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและความต้องการที่เริ่มเปลี่ยนทิศทาง
 
Cloud repatriation คือการโยกย้ายข้อมูลงานและแอปพลิเคชันจากระบบคลาวน์สาธารณะกลับสู่ระบบที่ตั้งเดิมของข้อมูล ซึ่งอาจเป็นการย้ายไปสู่โซลูชันภายในสถานประกอบการ หรือย้ายไปยังผู้ให้บริการที่สามารถเป็นโฮสต์และสามารถส่งมอบองค์ประกอบข้อมูลต่างๆ เช่น ความปลอดภัยของข้อมูลและการรับรองกการทำงานได้
 
การส่งกลับคืนข้อมูลระบบคลาวด์ (cloud repatriation) อาจดูเหมือนกลยุทธ์ที่ขัดแย้งกับกลยุทธ์ของการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลที่ส่วนใหญ่เน้นการย้ายไปสู่คลาวด์ แต่มีข้อโต้แย้งที่น่าสนใจว่าการส่งกลับข้อมูลเช่นนี้เป็นการปรับตัวตามธรรมชาติของการประมวลผลของระบบบคลาวด์
 
การมีส่วนร่วมในการส่งกลับคืนข้อมูลเดิม ก็ถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งของคลาวด์ ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลทุกอย่างในสภาพแวดล้อมคลาวด์สาธารณะเสมอไป และเชื่อว่ามีประโยชน์ในการนำข้อมูลและงานไปยังสภาพแวดล้อมที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น เช่น สภาพแวดล้อมแบบไฮบริด หรือบนตำแหน่งที่ตั้งขององค์กร
 
แม้ว่าแนวโน้มการส่งกลับคืนข้อมูล (cloud repatriation) จะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้นทุนของคลาวด์เพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าคลาวด์สาธารณะกำลังจะถูกทำลายไปเสียทีเดียว อย่างไรก็ตามการตัดสินใจว่าจะดำเนินการเลิกใช้คลาวด์หรือไม่นั้นเป็นงานที่ซับซ้อน
 

ทำไมภาคธุรกิจถึงมีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งกลับคืนข้อมูลระบบคลาวด์ (cloud repatriation)

 
ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงไปสู่คลาวด์สาธารณะ หลายองค์กรได้มีการปฏิบัติตนอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมความพร้อมด้านดิจิทัล ขั้นตอนเหล่านี้รวมถึงการลบข้อมูลที่แยกกันออก (data siloes) การสำรวจความจำเป็นของข้อมูลที่เก็บรวบรวม การจัดการและใช้งานข้อมูลให้เป็นประโยชน์ รวมถึงการทำความสะอาดข้อมูลเพื่อลดความซ้ำซ้อน ลบข้อมูลที่ล้าสมัย และรักษาข้อมูลที่เก็บรวบรวมให้มีคุณค่าจริงๆ
 
ในปี 2021, Gartner ระบุการเกิดปัญหาในกระบวนการย้ายข้อมูลไปยังคลาวด์ (cloud migration) ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็นหกสาเหตุหลัก ได้แก่:
  • การเลือกคู่ค้าที่ไม่เหมาะสมในการย้ายข้อมูลไปยังคลาวด์
  • การใช้วิธี "ยกและย้าย" (lift and shift) แทนการใช้วิธีที่มีการวัดค่าให้แม่นยำ
  • การเร่งการประเมินแอปพลิเคชัน
  • สภาพแวดล้อมของการทำงานที่ออกแบบไม่ดีพอ
  • ความล่าช้าในการย้ายข้อมูลเนื่องจากการไม่เข้าใจเกี่ยวกับระบบการทำงานของแอปพลิเคชัน
  • ต้นทุนที่ไม่รู้จักและซ่อนเร้น
สำหรับองค์กรหลายแห่ง การกระโดดเข้าสู่กระบวนการย้ายไปสู่คลาวด์สาธารณะโดยไม่ได้ทำการวิเคราะห์ล่วงหน้าอาจหมายความว่าปัญหาเหล่านี้จะเปิดเผยเมื่อการย้ายข้อมูลเสร็จสิ้น  อาจมีการระบุว่าประหยัดต้นทุนต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้  อุปสรรคทางกฎหมาย การขาดทักษะ ความยากลำบากในการสร้างความปลอดภัยของข้อมูล และการปรับใช้ที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นธุรกิจหลายแห่งอาจมีความสนใจที่จะย้อนกลับคืนข้อมูลบางส่วนใหม่อีกครั้ง


การส่งกลับคืนข้อมูลเดิม (cloud repatriation) เหมาะกับธุรกิจใดบ้าง?

 
มีองค์กรบางส่วนที่เหมาะกับการส่งกลับคืนข้อมูลเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่ต้องการลดความล่าช้า หรือพบว่าผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะทำให้เกิดความยากและไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบได้อย่างเต็มที่ หรืออาจไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบได้
 
ทุกธุรกิจควรดำเนินการคำนวณทางการเงินเพื่อประเมินว่าการส่งกลับคืนข้อมูลเดิมบนคลาวด์เป็นอย่างไรในเรื่องความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ หรือว่าอาจจะดีกว่าที่จะใช้งบประมาณในขอบเขตของคลาวด์สาธารณะต่อ แม้ว่าการใช้จ่ายในทุกวันอาจจะดีกว่า แต่กระบวนการส่งกลับคืนข้อมูลเดิมบนคลาวด์เองอาจเป็นการใช้งบประมาณที่มีมูลค่ามหาศาลที่องค์กรขนาดใหญ่เท่านั้นที่อาจจะสามารถรับได้
 
ในขณะที่หลายองค์กรกำลังลงมือทำการย้ายไปสู่คลาวด์ องค์กรอื่นอาจตัดสินใจหลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียว่าอาจไม่เหมาะสมกับองค์กรของตนเอง หรือบางทีอาจเป็นแค่เพราะว่ายังไม่เหมาะสมในขณะนี้


การส่งกลับข้อมูลเดิมบนคลาวด์มีประโยชน์อย่างไร?

 
องค์กรที่ตัดสินใจที่จะมีส่วนร่วมในกระบวนการส่งกลับข้อมูลบนคลาวด์ จะมองหาวิธีในการเอาชนะปัญหาที่เหล่านี้ แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลในกระบวนการนี้ด้วย
 
ปัญหาการติดตั้งกับผู้ให้บริการอาจกลายเป็นเรื่องที่ชัดเจนมากขึ้นเมื่อองค์กรตัดสินใจใช้บริการคลาวด์สาธารณะไปสักพัก สิ่งที่ดูเหมือนเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและดีเยี่ยมตอนแรกอาจจำกัดและมีข้อจำกัดในระยะยาว เนื่องจากผู้ให้บริการคลาวด์จะเสนอเฉพาะซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์บางประการเท่านั้น  ปัญหาแฝงเรื่องเวลาอาจเกิดขึ้นเมื่อต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วซึ่งมีความสำคัญในภาคธุรกิจที่มีการแข่งขัน สถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลต่อธุรกิจได้
 
เราไม่สามารถแก้ไขภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลกได้ ซึ่งทำให้หลายองค์กรต้องกลับไปพิจารณาเรื่องงบประมาณใหม่ โดยเฉพาะในการดำเนินงานด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คลาวด์สาธารณะช่วยลดต้นทุนการใช้งานฮาร์ดแวร์และพื้นที่จัดเก็บ แต่ก็ยังคงมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นทุกเดือนสำหรับบริการทั้งหมด ผู้ร่วมทุน Andreessen Horowitz ได้กล่าวถึงหลักการทั่วไปของการเรียกกลับคืนข้อมูลเดิมบนคลาวด์ จะทำให้ต้นทุนลดลงไปประมาณหนึ่งในสาม หรือครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับการใช้งานในระบบคลาวด์
 
Andreessen กล่าวว่า "มีความตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบด้านต้นทุนในระยะยาวของระบบคลาวด์" เนื่องจากต้นทุนของระบบคลาวด์เริ่มมีส่วนสำคัญต่อต้นทุนรวมของรายได้ (COR)  หรือต้นทุนการผลิตสินค้า (COGS)  บางบริษัทได้ดำเนินการ "เรียกคืน" โอกาสในการทำงานส่วนใหญ่ (เช่นตัวอย่างของ Dropbox) หรือในบางกรณีที่ใช้แนวทางไฮบริด (เช่น CrowdStrike และ Zscaler) ฝั่งผู้ที่ดำเนินการเช่นนี้ ได้รายงานว่าประหยัดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ
 
แต่บริษัทส่วนใหญ่พบว่า เป็นกาารยากที่จะยอมรับการย้ายข้อมูลออกจากระบบคลาวด์ เนื่องจากเป็นการดำเนินการที่ยุ่งยาก และความเชื่อที่แพร่หลายในวงการอุตสาหกรรมว่า "คลาวด์เป็นระบบที่ยอดเยี่ยม"
 
เนื่องจากการเติบโต (บ่อยครั้ง) ชะลอตัวลงเมื่อมีขนาดใหญ่ขึ้น ประสิทธิภาพในระยะสั้นจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญของมูลค่าทางการตลาด ต้นทุนส่วนเกินของระบบคลาวด์นั้นมีผลกระทบอย่างมากต่ออัตรากำไรที่ต่ำลง


ข้อเสียของการส่งกลับข้อมูลเดิมบนคลาวด์คืออะไร


ผลลัพธ์ท้ายสุดของการส่งกลับคืนข้อมูลระบบคลาวด์ (cloud repatriation) อาจเป็นไปในทางที่ดี แต่ก็ยังมีอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการดำเนินการ ซึ่งไม่น่าจะเป็นแค่การ"ยกและย้าย" (lift and shift) แล้วเสร็จ แต่กระบวนการการทำงานอาจใช้เวลาสักพัก ควรวางแผนให้มีเวลาหยุดใช้งาน (downtime) โดยการเตรียมแผนการสำรอง เพื่อให้ทีมเทคนิคสามารถส่งมอบก่อนกำหนดเวลาหากเป็นไปได้แทนที่จะชะลอการดำเนินงานออกไป ซึ่งอาจทำให้บางคนอาจตีความว่าเป็นการแก้ไขการดำเนินการที่ผิดพลาดได้
 
จะมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องไม่เพียงแค่เรื่องโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนที่สามารถดำเนินการเรียกคืนและจัดการรักษาสิ่งที่ถูกเรียกคืนไปได้ในอนาคต การวางงบประมาณอย่างรอบคอบและพิจารณาทุกปัจจัยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดที่อาจมีบางส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในการเรียกคืนข้อมูล
 
ขึ้นอยู่กับปริมาณข้อมูลที่จะถูกเรียกคืนจากระบบคลาวด์ด้วย ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการย้ายอาจมีราคาสูง องค์กรที่ตัดสินใจเลือกใช้โซลูชันในสถานที่ (on-premise) จะต้องมีฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมและพื้นที่ที่เพียงพอสำหรับการติดตั้ง รวมถึงยังต้องมีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคด้วย ในระยะยาวจะต้องใช้พลังงานและความสามารถที่เกี่ยวข้องในการทำให้ระบบทำงานได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา 24/7 เช่น อุปกรณ์สำรองพลังงาน (uninterrupted power supplies; UPS) และแหล่งพลังงานสำรองในกรณีไฟฟ้าดับ
 
ธุรกิจยังต้องการความสามารถทางเทคนิคภายในองค์กรเพื่อรักษาและพัฒนาการกำหนดค่าใหม่ๆ นอกจากนี้ยังมีต้นทุนทางพลังงานที่สูงขึ้นและบุคลากรที่ขาดแคลน อาจจำเป็นต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อควบคุมการเข้าถึง ส่วนบางองค์ประกอบอาจไม่จำเป็นในกรณีที่ระบบคลาวด์อยู่นอกสถานที่ แต่องค์ประกอบอื่นๆ อาจยังจำเป็นอยู่ นอกจากนี้ยังมีความต้องการเร่งด่วนในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและการค้นหาผู้ให้บริการที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา: 
https://bit.ly/439RBhQ

ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์