ไมโครซอฟท์ ประกาศเปิดตัวเครื่องมือสำหรับช่วย CSP ตัวใหม่ สามารถใช้งานได้บนระบบคลาวด์เนทีฟ

Telcos ได้รับประโยชน์บางส่วนจากเครื่องมือของ AI และ ML บน Azure โดยพยายามเพิ่มการเปิดตัว และความเสถียรของเครือข่าย
 
ไมโครซอฟต์ ได้ประกาศเปิดตัวเครื่องมือคลาวด์ตัวใหม่แบบสาธารณะ เพื่อส่งเสริมการนำ 5G บนคลาวด์เนทีฟมาใช้งาน เรียกใช้ฟังก์ชันเครือข่าย เช่น vRAN และการจัดการข้อมูลสมาชิก ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
 
Azure Operator Nexus เป็นแพลตฟอร์มระบบคลาวด์แบบไฮบริด มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุน telcos ในการทำงานของเครือข่ายต่างๆ สามารถจัดรันไทม์ที่จำเป็นสำหรับเครือข่ายผู้ให้บริการ ด้วยการสนับสนุนให้ปรับคอนเทนเนอร์ให้เหมาะสม และสนับสนุนเพื่อให้ปรับขยายตั้งเวลาที่โดเมนหยุดทำงานได้ รวมถึงความน่าเชื่อถือของเครือข่ายหลักอีกด้วย
 
ทางไมโครซอฟท์ได้ประกาศในงาน Mobile World Congress (MWC) ของปีนี้ในเมืองบาร์เซโลนา โดยได้ประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือ AIOps แบบใหม่ Azure Operator Insights และ Azure Operator Service Manager
 
โดยแบบแรก ใช้เพื่อดึงข้อมูลเชิงลึกจากทราฟฟิกเครือข่ายผ่านแมชชีนเลิร์นนิง (ML) และแบบหลังจะช่วยทำให้การกำหนดค่าเครือข่ายง่ายขึ้น ถือเป็นชุดการทำงานแบบ end-to-end ชุดเดียวบน Azure
 
Azure Operator Service Manager ยังรวมการวิเคราะห์และการทำงานร่วมกันบนคลาวด์ เพื่อช่วยให้ผู้บริการบนเครือข่ายปรับปรุงประสิทธิภาพและลดเวลาหยุดทำงานได้
 
AT&T ใช้ Azure Operator Nexus อยู่แล้ว และขณะนี้บริการดังกล่าวสามารถขยายไปยังลูกค้าโทรคมนาคมได้หลากหลายกลุ่ม โดยที่ Comtech บริษัทด้านการเชื่อมต่อได้ประกาศว่า จะเข้าร่วมกับ Azure Operator Nexus Ready Program เช่นกัน เพื่อให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นมากขึ้นในระบบคลาวด์
 
Yousef Khalidi รองประธานบริษัท Azure for Operators ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า "ประโยชน์หลักอย่างหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์แบบไฮบริด คือความสามารถในการสังเกตการณ์ที่สอดคล้องกัน สำหรับทั้งโครงสร้างพื้นฐานและแอปพลิเคชัน
 
“นั่นหมายความว่าเราสามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย ทำให้มั่นใจได้ว่าระบบจะทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ”
 
“แพลตฟอร์มนี้ได้รวมบันทึกตัวชี้วัด และการติดตามจากโครงสร้างพื้นฐานของฟังก์ชันเครือข่ายเสมือน (NFVI) และฟังก์ชันเครือข่าย (NFs) นอกจากนี้ยังมีชุดเครื่องมือเชิงวิเคราะห์ที่ใช้ AI/ML เพื่อพัฒนาการวิเคราะห์เชิงบรรยาย โดยเป้าหมายของเราที่สังเกตได้นี้คือการนำข้อมูลของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดมาไว้ใน Data Lake เดียว ซึ่งทำให้สามารถประมวลผลเพื่อให้ได้มุมมองเครือข่ายทั่วโลก และยังเก็บเกี่ยวข้อมูลเชิงลึกด้านการดำเนินงานและธุรกิจด้วย “
 
ไมโครซอฟท์ อ้างว่าการวิเคราะห์โดยบริษัทที่ปรึกษา Analysys Mason พบว่าบริษัทโทรคมนาคมที่ต้องการปรับใช้เครือข่าย 5G แบบสแตนด์อโลนบนคลาวด์เนทีฟ (5G SA) ผ่าน Azure Operator Nexus สามารถลดต้นทุนรวมได้ถึง 38% ในช่วงห้าปี เมื่อเทียบกับการดำเนินการด้วยตัวของมันเอง
 
โดยไมโครซอฟท์ยังได้เปิดตัวบริการใหม่สองบริการที่จับคู่กับ Azure Operator Nexus และพยายามเสริมศักยภาพให้กับบริษัทโทรคมนาคมด้วย AIOps ผ่านเครือข่ายคลาวด์ บริษัทยักษ์ใหญ่อันทรงนั่นเอง
 
Google Cloud ยังใช้ MWC เป็นแพลตฟอร์มในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์โทรคมนาคมใหม่ 3 รายการทโดยมุ่งเป้าไปที่ผู้ให้บริการคลาวด์ (CSP) ได้แก่ Telecom Data Fabric, Telecom Network Automation และ Telecom Subscriber Insights ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยลูกค้าปรับใช้ จัดการ  และวิเคราะห์เครือข่ายผ่านโมเดลไฮบริดคลาวด์
 
Telecom Network Automation จะช่วยให้ telcos เพิ่มความเร็วในการปรับใช้ผ่านเครื่องมืออัตโนมัติที่มีสายดินใน Kubernetes และได้ถูกใช้งานโดย Telco titan Bell Canada เพื่อปรับโครงสร้างเครือข่ายหลัก 5G
 
ในขณะเดียวกัน Telecom Data Fabric และ Telecom Subscriber Insights ช่วยให้ CSP สร้างกลยุทธ์เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ดึงมาจากสถาปัตยกรรม BigQuery ของ Google Cloud
 
การอัปเดตเพิ่มเติมสำหรับ Google Distributed Cloud Edge จะทำให้บริษัทโทรคมนาคมสามารถเชื่อมต่อขอบของ RAN กับ Google Cloud ได้
 
AWS มีบริการ AWS Telco Network Builder (TNB) ของตัวเอง ซึ่ง CSP สามารถใช้เพื่อจัดเตรียมทรัพยากรเครือข่ายตามความต้องการของแต่ละบุคคลได้ เช่นเดียวกับบริการของคู่แข่ง TNB ซึ่งช่วยให้ลูกค้าดูและจัดการเครือข่ายเหล่านี้ได้จากแดชบอร์ดส่วนกลาง
 
ที่มา: https://bit.ly/3LKikvF