8 เว็บเบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยที่สุด
8 เว็บเบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยที่สุด
Image credit: twenty20
ปกป้องข้อมูลของคุณโดยใช้เบราว์เซอร์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นอันดับแรก
เว็บเบราว์เซอร์ของคุณเป็นเส้นทางสู่เวิลด์ไวด์เว็บ เนื่องมันจากช่วยให้คุณตรวจสอบเว็บไซต์ที่มีจำนวนนับไม่ถ้วน, ค้นหาคำตอบเกี่ยวกับอะไรก็ได้, ช้อปปิ้งได้โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่เบราว์เซอร์ที่ไม่มีหลักประกันก็สามารถเป็นประตูสำหรับแฮ็กเกอร์ได้เช่นกัน ผู้ไม่หวังดีเหล่านี้สามารถใช้เว็บเบราว์เซอร์ของคุณเพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณ, ขโมยข้อมูลส่วนตัวของคุณ หรือแม้แต่ขโมยข้อมูลประจำตัวหรือข้อมูลทางการเงินของคุณได้ และถ้าหากสิ่งนี้เกิดขึ้นคุณอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ หลายเดือนหรือนานขนาดหลายปี กว่าจะทำให้ทุกอย่างกลับมาดังเดิม
ที่แย่ไปกว่านั้น นักคุกคามเหล่านี้มีความซับซ้อนในการโจมตีทางไซเบอร์มากขึ้นทุกวัน
เมื่อท่องโลกของอินเทอร์เน็ต ควรใช้เว็บเบราว์เซอร์ที่ให้ความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับแรก โดยเบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยเหล่านี้สามารถป้องกันภัยคุกคามความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคุณได้ ภัยคุกคาม เช่น การหลอกลวงแบบฟิชชิง,เนื้อหาที่เป็นอันตราย และโฆษณาที่ก่อให้เกิดความน่ารำคาญต่างๆ
เว็บเบราว์เซอร์บางเว็บให้ความปลอดภัยที่ไม่เท่ากัน เบราว์เซอร์บางตัวมีความปลอดภัยมากกว่าเบราว์เซอร์อื่นๆและมีคุณสมบัติมากมายเพื่อปกป้องคุณ โดยเบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยควรให้คุณเข้าถึงตัวเลือกความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวขั้นสูงที่ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งการป้องกันของคุณเองได้
นอกจากเว็บเบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยแล้ว คุณยังสามารถดำเนินการอื่นๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในขณะท่องเว็บได้อีกด้วย สิ่งง่ายๆ เช่น การใช้ VPN หรือส่วนขยายการบล็อกโฆษณาที่สามารถเพิ่มความปลอดภัยของคุณไปอีกระดับได้ โดยการบล็อกคุกกี้และเครื่องมือติดตามอื่นๆ
พร้อมรึยังสำหรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยที่สุดในปี 2021?
ถ้าพร้อมแล้ว เลื่อนลงไปอ่านต่อเพื่อดูว่าเบราว์เซอร์ใดที่เหมาะกับความต้องการในการท่องเว็บของคุณมากที่สุด
Tor
“เมื่อฉันสนใจที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวทางออนไลน์ ฉันได้รับการสนับสนุนให้ตรวจสอบ Tor ” Tor ไม่เพียงแต่ปิดบังตัวตนของคุณด้วยการตีกลับการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่เข้ารหัสของคุณผ่านโหนดทอร์หลายโหนด แต่ยังช่วยล้างคุกกี้ของคุณทุกครั้งหลังคุณเลิกใช้งาน
Tor ได้รับการรับรองโดย Edward Snowden และยังเป็นเครื่องมือสำคัญในช่วงอาหรับสปริง (Arab Spring) เพราะมันไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องตัวตนของผู้คนทางออนไลน์ แต่มันยังช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าถึงทรัพยากรที่สำคัญ, แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ที่รัฐบาลบล็อกได้
ข้อดีของ Tor :
คุณสมบัติที่เน้นความปลอดภัย เช่น NoScript, HTTPS Everywhere และข้อมูลที่เข้ารหัส ทำให้ Tor เป็นเบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยอย่างน่าทึ่ง
Tor สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรี และผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซและอ่านโค้ดได้
Tor สามารถเข้าถึงเว็บเชิงลึกได้ ซึ่งแตกต่างจากเบราว์เซอร์กระแสหลัก, ไซต์ต่างๆที่ลงท้ายด้วย .onion ก็จะสามารถเห็นได้เมื่อใช้เว็บเบราว์เซอร์ Tor
ข้อเสียของ Tor :
Tor ส่งผ่านการเชื่อมต่อของคุณออกจากหลายโหนด ทำให้การทำงานช้ากว่าเบราว์เซอร์อื่นมาก
ไม่ใช่ทุกเว็บไซต์ที่สามารถทำงานบน Torได้ เพราะเบราว์เซอร์ Tor บล็อก Javascript และการติดตามสคริปต์ที่ทำให้บางเว็บไซต์หยุดทำงาน และถึงแม้ว่าคุณจะเลือกสคริปต์ที่อนุญาตได้ แต่ก็ยังสามารถส่งผลต่อความปลอดภัยของเบราว์เซอร์ได้
ความเร็วที่ช้าลงของ Tor ไม่เหมาะสำหรับการสตรีม
Brave
Brave เป็นมืออาชีพในการบล็อกโฆษณาและเครื่องมือติดตามที่ดูดข้อมูล โดยการใช้เบราว์เซอร์ Brave นี้จะช่วยบล็อกโฆษณาติดตามข้อมูลส่วนใหญ่, มีการป้องกัน HTTPS โดยอัตโนมัติ และสามารถโหลดเว็บไซต์ อย่างเช่น ช่องข่าวหลักๆ ได้เร็วกว่าเบราว์เซอร์อื่นๆเกือบหกเท่า ที่รวมไปถึง Chrome, Safari และ Firefox บนมือถือหรือเดสก์ท็อป
Brave ยังได้รวม Tor เข้ากับคุณสมบัติการท่องเว็บแบบส่วนตัว ดังนั้นคุณจึงสามารถปิดบังตำแหน่งของคุณและซ่อนประวัติอินเทอร์เน็ตของคุณได้
สิ่งที่เราพบว่าน่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับ Brave คือโปรแกรม Brave Rewards ที่มีความแตกต่างจากเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่ เพราะผู้ใช้ Brave สามารถรับ Basic Attention Tokens (BAT) เพื่อดูโฆษณาที่เคารพความเป็นส่วนตัวได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้ใช้สามารถใช้โทเค็นเหล่านี้เพื่อสนับสนุนผู้สร้างเว็บได้เท่านั้น แต่ Brave ได้มีการอ้างว่า ผู้ใช้จะสามารถใช้โทเค็นของตนในเนื้อหาพรีเมียม, บัตรของขวัญ และอื่นๆได้ในไม่ช้านี้
ข้อดีของ Brave:
Brave ใช้การเชื่อมต่อ HTTPS ที่ปลอดภัย, ไม่รวบรวมหรือขายข้อมูลผู้ใช้ และบล็อกเครื่องมือติดตามโฆษณาโดยอัตโนมัติ
การรวมกันของการบล็อกโฆษณาและตัวติดตามโฆษณา ทำให้ Brave โหลดไซต์ได้เร็วกว่าเบราว์เซอร์อื่นๆ เกือบ 6 เท่า
Brave สร้างขึ้นจาก Chromium ซึ่งเป็นแหล่งโค้ดเดียวกับที่ใช้ใน Chrome
ข้อเสีย Brave cons:
ในขณะที่เบราว์เซอร์อย่างเช่น Chrome, Firefox และ Opera มีส่วนขยายมากมาย แต่ Brave ยังขาดส่วนขยาย, ส่วนเสริม และปลั๊กอินอีกจำนวนมาก แม้ว่าส่วนขยาย Chrome บางส่วนจะใช้งานได้ใน Brave แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าส่วนขยาย Chrome ทั้งหมดจะสามารถมีอยู่ใน Chrome เว็บสโตร์ได้
หากคุณต้องการแลกเปลี่ยนโทเค็น BAT ของคุณด้วยเงินจริง คุณจะต้องมีบัญชีธนาคารที่สอดคล้องกับ KYC และสำหรับใครหลายๆ คน สิ่งนี้สามารถเอาชนะจุดที่ใช้เบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยได้
ผู้ใช้เบราว์เซอร์ Brave สามารถท่องเว็บแบบส่วนตัวโดยใช้ Tor ได้ และที่น่าเสียดายคือคุณลักษณะนี้ยังไม่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้เบราว์เซอร์บนมือถือ
Epic Privacy Browser
อ้างอิงจาก Epic Privacy Browser: “การเยี่ยมชมเว็บไซต์ 50 อันดับแรกจะติดตั้งไฟล์ติดตามมากกว่า 3,000 ไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของคุณ” เพื่อจัดการกับปัญหานี้ Epic ได้กำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลเว็บทั้งหมดผ่านพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่บล็อกสิ่งต่างๆโดยอัตโนมัติ เช่น ตัวติดตามและคุกกี้ นอกจากนี้ยังล้างประวัติการเข้าชมของคุณเมื่อสิ้นสุดการใช้งานในแต่ละเซสชัน
เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวออนไลน์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น Epic ยังช่วยบล็อกการโทรติดต่อสื่อสารแบบเรียลไทม์บางประเภทที่มีโอกาสรั่วไหลที่อยู่ IP ของคุณแม้ว่าคุณจะใช้พร็อกซีที่เข้ารหัสหรือ VPN ก็ตาม
ข้อดีของ Epic Privacy Browser:
Epic ใช้พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ที่เข้ารหัสเพื่อซ่อนที่อยู่ IP ของคุณและเข้ารหัสการท่องเว็บของคุณ
Epic มาพร้อมกับการป้องกันสคริปต์ติดตามโฆษณาคุกกี้, สคริปต์การขุด cryptocurrency และวิดเจ็ตของบุคคลที่สามในตัว
ใช้ Epic เพื่อ "สอดแนมสายลับ" ตามที่พวกเขาพูด ซึ่งแตกต่างจากเบราว์เซอร์อื่นๆเนื่องจาก Epic ช่วยให้คุณสามารถมองเห็นภายในได้ว่าใครติดตามคุณและตัวติดตามที่เบราว์เซอร์ได้ถูกบล็อกตลอดจนช่วงการเรียกดูแล้ว
ข้อเสีย Epic Privacy Browser:
Epic ไม่มีปลั๊กอิน ซึ่งแตกต่างจากเบราว์เซอร์กระแสหลักอื่นๆ
หากคุณใช้โปรแกรมจัดการรหัสผ่าน Epic อาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากตัวจัดการรหัสผ่านทำงานเหมือนปลั๊กอิน
Epic อ้างว่าเป็นข้อมูลแบบเปิด แต่ผู้ใช้กลับไม่สามารถดาวน์โหลดแหล่งโค้ดของเบราว์เซอร์ได้ และในการรับแหล่งโค้ดของเบราว์เซอร์คุณต้องติดต่อทีม Epic ก่อน
Opera
ด้วยตัวบล็อกโฆษณาในตัวและมี VPN ทำให้ Opera สามารถปกป้องประวัติการท่องเว็บของคุณในขณะเดียวกันก็ช่วยกำจัดโฆษณาที่ไม่มีที่สิ้นสุดบนอินเทอร์เน็ต
นอกเหนือจากคุณสมบัติการปกป้องความเป็นส่วนตัวแล้ว Opera ยังมีคุณสมบัติที่เป็นระเบียบอื่นๆอีกมากมาย อย่างเช่นเมื่อเปิดใช้งานโหมดประหยัดแบตเตอรี่ คุณสามารถท่องเว็บได้นานกว่าเบราว์เซอร์อื่นๆที่หนักกว่า เช่น Google Chrome และ Microsoft Edge ถึง 35%
“ฉันพบว่าฟีเจอร์ข่าวส่วนตัวของ Opera น่าสนใจที่สุด” โดยมันทำหน้าที่เหมือนฟีด RSS ที่มีผู้รวบรวมข่าวส่วนตัวให้โดยรวบรวมข่าวสารและแสดงให้คุณเห็นในที่เดียว
ข้อดีของ Opera:
Opera มาพร้อมกับ VPN ฟรีที่ช่วยลดการติดตามออนไลน์ และช่วยปกป้องประวัติการท่องเว็บของคุณ
การบล็อกโฆษณาในตัวทำให้หน้าเว็บโหลดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้คุณยังสามารถปลดบล็อกโฆษณาบนเว็บไซต์ใดก็ได้
Opera ช่วยให้คุณสามารถซิงค์บุ๊กมาร์ก, แท็บ และรหัสผ่านในอุปกรณ์หลายเครื่องและรักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยโดยใช้โทเค็นที่ไม่ระบุชื่อเพื่อระบุตัวคุณและซิงค์ข้อมูลของคุณได้
ข้อเสีย Opera:
แม้ว่า Opera จะได้รับความนิยมในหมู่คนจำนวนมาก แต่ก็เป็นที่นิยมน้อยกว่าเว็บเบราว์เซอร์ทั่วไป จึงทำให้นักพัฒนาเว็บไซต์ไม่ค่อยตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของตนเข้ากันได้กับเบราว์เซอร์ Opera หรือไม่
ส่วนขยายอาจหาได้ยากใน Opera
Opera ได้รับการอัปเดตทุกๆ 4 - 6 สัปดาห์ ในขณะที่ Chromium ซึ่งเป็นพื้นฐานของ Opera จะได้รับการอัปเดตทุกๆ 2-3 สัปดาห์ สำหรับผู้ใช้ Opera ปัญหาด้านความปลอดภัยใน Chromium อาจยังคงอยู่ใน Opera ซึงอาจเป็นเวลาหลายสัปดาห์กว่าจะถูกค้นพบและได้รับการแก้ไข
Vivaldi
เช่นเดียวกับเบราว์เซอร์อื่นๆ Vivaldi จะบล็อกไซต์ไม่ให้ติดตามคุณเมื่อคุณเข้าไปยังเว็บนั้นๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติ เช่น ตัวบล็อกโฆษณาในตัวและการซิงค์ที่ปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทาง
คุณสมบัติที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่ Vivaldi นำเสนอ คือ การซ้อนแท็บ, การเรียงแท็บ และแท็บแบบแนวตั้ง ด้วยการมอบคุณสมบัติการปรับแต่งดังกล่าว Vivaldi ให้ผู้ใช้สามารถควบคุมวิธีการจัดกลุ่มแสดงและโต้ตอบกับแท็บภายในเว็บเบราว์เซอร์ได้อย่างเต็มที่
ข้อดีของ Vivaldi pros:
Vivaldi นำเสนอการซิงค์ที่ปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทาง ทำให้ง่ายและปลอดภัยกว่าที่เคยในการซิงค์บุ๊กมาร์ก, รหัสผ่าน และส่วนขยายในอุปกรณ์แต่ละเครื่องของคุณ
Vivaldi ไม่เก็บประวัติเว็บคุกกี้และไฟล์ชั่วคราวของคุณเมื่อคุณเรียกดูในหน้าต่างส่วนตัว
เพื่อให้การท่องเว็บแบบส่วนตัวของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้น Vivaldi ให้คุณตั้งค่าเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นอื่นเมื่อใช้หน้าต่างส่วนตัว
ข้อเสีย Vivaldi cons:
Vivaldi มีในเวอร์ชัน Android แต่ไม่มีใน iOS
Vivaldi ไม่ใช่เบราว์เซอร์ที่เร็วที่สุดในโลก แนวโน้มที่จะหยุดนิ่งยังสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้มากพอที่จะกลายเป็นเรื่องร้องเรียนทั่วไป
Vivaldi มีลิงก์ไปยังเว็บไซต์ในบุ๊กมาร์กเริ่มต้น และ Vivaldi ยังได้รับรายได้ส่วนแบ่งจากบุ๊กมาร์กเริ่มต้นบางส่วน ซึ่งหมายความว่า Vivaldi ได้สร้างพื้นที่โฆษณาออกจากพื้นที่บุ๊กมาร์กต่างๆ
Mozilla Firefox
ตั้งแต่การตั้งค่าความปลอดภัยที่ครอบคลุมไปจนถึงคุณสมบัติที่ดีอย่าง Firefox Lockwise, Mozilla Firefox ที่ทำให้ผู้ใช้พึงพอใจ เพราะไม่เพียงแต่ช่วยบล็อกตัวติดตามข้อมูลกว่า 2,000 ตัวโดยอัตโนมัติ แต่เบราว์เซอร์จะแจ้งเตือนคุณด้วยหากข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกบุกรุก เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของการละเมิดข้อมูลขององค์กร
เมื่อพูดถึงคุณสมบัติ Firefox Lockwise คุณยังสามารถวางใจในเบราว์เซอร์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อให้รหัสผ่านของคุณปลอดภัย และด้วยการใช้การเข้ารหัสที่ 256 บิต, Firefox Lockwise จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงรหัสผ่านที่คุณบันทึกไว้ใน Firefox ได้จากทุกที่
ข้อดีของ Firefox:
คุณลักษณะ Firefox Monitor สามารถบอกคุณได้ว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของการละเมิดข้อมูลออนไลน์หรือไม่
Firefox เป็นมืออาชีพในการบล็อกโฆษณาและบล็อกผู้ติดตาม 10,000,000,000 คนในแต่ละวันสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก
Firefox รวบรวมข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนา โดยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับประวัติการเข้าชมหรือการค้นหาของคุณ นอกจากนี้ข้อมูลยังเชื่อมโยงกับตัวระบุตัวเลขแบบสุ่มแทนที่จะเป็นชื่อหรือบัญชีผู้ใช้ของคุณ และหากคุณไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลใดๆ เลยคุณสามารถปิดมันได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเบราว์เซอร์
ข้อเสียของ Firefox:
แม้ว่า Mozilla จะนำเสนอบทความและคำถามที่พบบ่อยมากมายสำหรับผู้ใช้ Firefox ที่ต้องการการสนับสนุน แต่การนำทางระบบสนับสนุนนี้อาจเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะไม่เพียงแต่ต้องใช้การคลิกจำนวนมาก แต่ฟอรัมชุมชนก็ยังไม่สามารถทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือเท่าที่ควร
Firefox มีส่วนขยายหลายอย่าง แต่ไม่มีมากเท่าเบราว์เซอร์อื่นๆ เช่น Chrome
Firefox ได้รับการอัปเดตทุกเดือน แม้ว่าจะทำให้การอัปเดตเป็นไปตามกำหนดเวลา แต่เบราว์เซอร์อื่นๆ ได้รับการอัปเดตที่บ่อยกว่า
Google Chrome
Google ไม่ได้เป็นที่รู้จักในเรื่องการปกป้องข้อมูลผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม Chrome ช่วยปกป้องผู้ใช้จากไซต์ที่เป็นอันตรายและการดาวน์โหลดที่อาจขโมยรหัสผ่านของคุณหรือทำให้เครื่องของคุณติดไวรัสได้ นอกจากนี้ Chrome ยังอัปเดตทุก 6 สัปดาห์เพื่อให้ผู้ใช้มีคุณลักษณะด้านความปลอดภัยและการแก้ไขล่าสุดเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยที่สำคัญยิ่งขึ้น โดย Google จะทำการส่งการแก้ไขภายใน 24 ชั่วโมง
เพื่อปกป้องข้อมูลของคุณขณะใช้ Chrome ให้ลองพิจารณาเพิ่ม DuckDuckGo ลงใน Chrome เพราะด้วยส่วนขยายที่มีประโยชน์นี้คุณสามารถปกป้องข้อมูล, ประวัติการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต และหลีกเลี่ยงเครื่องมือติดตามโฆษณาที่น่ารำคาญได้
ข้อดีของ Chrome:
Chrome เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ทำงานเร็ว ทั้งการดาว์นโหลดและการแสดงหน้าเว็บก็สามารถทำได้เร็วมาก
คุณลักษณะต่างๆ เช่น Google Safe Browsing จะเตือนคุณ หากคุณพยายามไปยังเว็บไซต์อันตรายหรือดาวน์โหลดไฟล์ที่เป็นอันตราย
การใช้ Chrome คุณจะไม่ต้องกังวลกับการจำรหัสผ่านทั้งหมดของคุณ เพราะ Chrome จะช่วยสร้างรหัสผ่านเฉพาะสำหรับแต่ละไซต์ที่คุณเข้าชม
ข้อเสีย Chrome:
Google รวบรวมข้อมูลจำนวนมากเนื่องจากมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับฐานผู้ใช้ บริษัทไม่เพียงแต่ติดตามทุกการค้นหาของคุณ แต่ยังติดตามตำแหน่งของคุณด้วย
หากคุณใช้ Chrome ในอุปกรณ์หลายเครื่อง คุณสามารถซิงค์ประวัติการค้นหาบุ๊กมาร์กและสิ่งอื่นๆ ได้ แต่น่าเสียดายที่คุณต้องเปิดใช้งานการซิงค์ก่อนเพื่อใช้ประโยชน์จากคุณลักษณะนี้
แม้ว่า Google จะบอกว่าไม่ขายข้อมูลผู้ใช้ แต่ก็ยังนำไปใช้เพื่อแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องในผลิตภัณฑ์ของ Google บนเว็บไซต์พันธมิตรและในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
Microsoft Edge
Microsoft Edge ให้สัญญาว่า "ประสิทธิภาพระดับโลกพร้อมความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น, ประสิทธิภาพการทำงานที่มากขึ้น และคุณค่าที่มากขึ้น" ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจจับและบล็อกตัวติดตาม ยิ่งไปกว่านั้น Microsoft Edge ยังมาพร้อมกับ Microsoft Defender SmartScreen
Microsoft Defender SmartScreen จะเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นและช่วยปกป้องคุณจากเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์ ซึ่งคุณลักษณะนี้จะช่วยป้องกันฟิชชิงและยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณดาวน์โหลดไฟล์ที่อาจเป็นอันตรายเมื่อท่องเว็บ
ข้อดีของ Microsoft Edge:
Edge สร้างขึ้นโดยใช้ Chromium ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้ส่วนขยายจากทั้ง Microsoft และเว็บสโตร์ของ Google ได้
Edge มีการป้องกันความเป็นส่วนตัวสามระดับ โดยค่าเริ่มต้นเบราว์เซอร์จะตั้งค่าตัวเองเป็นกลาง ซึ่งมันจะบล็อกตัวติดตามที่เป็นอันตราย และหากคุณต้องการบล็อกเครื่องมือติดตามทั้งหมด ให้เลือกตัวเลือกใช้การป้องกันการติดตามอย่างเข้มงวด
Edge ช่วยให้คุณสามารถซิงค์บุ๊กมาร์ก, การตั้งค่า และรหัสผ่านโดยใช้บัญชี Microsoft ของคุณ นอกจากนั้น Microsoft ยังช่วยวางแผนให้ผู้ใช้สามารถซิงค์ประวัติ, เปิดแท็บ, ส่วนขยายและคอลเล็กชันต่างๆ ได้
ข้อเสีย Microsoft Edge:
Edge ขาดคุณสมบัติที่น่าดึงดูดใจมากมาย เพราะในขณะที่ผู้ใช้ Brave ได้รับประโยชน์จาก BAT และผู้ใช้ Opera จะเพลิดเพลินไปกับเหล่าคุณสมบัติต่างๆ เช่น โหมดประหยัดแบตเตอรี่ แต่ผู้ใช้ Edge จะไม่พบคุณสมบัติที่สนุกสนานหรือน่าสนใจมากมายแบบนั้น
เมื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์สำหรับ Edge คุณจะพบว่ามีคุณสมบัติใหม่มากมายให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลิน แต่น่าเสียดายที่คุณลักษณะเหล่านั้นยังไม่พร้อมให้ใช้งาน
Edge ไม่ได้มาพร้อมกับ ad blocker คุณจำเป็นต้องเลือกตัวบล็อกโฆษณาเสริมแทน
มีวิธีมากมายในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยรายการใดรายการหนึ่งข้างต้น หรือการเพิ่มตัวบล็อกโฆษณาหรือส่วนเสริมที่คล้ายกันในเบราว์เซอร์ปัจจุบันของคุณ ขึ้นอยู่ว่าคุณอยากเลือกใช้ตัวใด
ท้ายสุดนี้ วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการป้องกันตัวเองทางออนไลน์ คือ การทำความเข้าใจว่าข้อมูลของคุณเมื่อถูกติดตาม และอ่านข้อกำหนดความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมเสมอ
ที่มา: https://bit.ly/2OE4uPG
สงวนลิขสิทธิ์ Copyright © 2024 บริษัท ควิกเซิร์ฟ โปรไวเดอร์ จำกัด
124/124 หมู่ที่ 2 ถนนนครอินทร์ ตำบลบางสีทอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
โทรศัพท์ 0-2496-1234 โทรสาร 0-2496-1001