Please wait...
SOLUTIONS CORNER
DiskPart คืออะไร

DiskPart คืออะไร?

 

วิธีเก็บรักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยจากซอฟต์แวร์ที่ไม่เสถียร (Unstable Software)
 
เมื่อพูดถึงการบำรุงรักษา (Maintenance) คอมพิวเตอร์และการบริหารจัดการแพทช์ (Patch Management) ไม่ว่าคุณจะพยายามแค่ไหน แต่สิ่งต่างๆ ก็สามารถที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันบังเอิญเกิดขึ้นกับฮาร์ดไดร์ฟของคุณ
 
โชคดีที่ยังมีวิธีจัดการกับข้อผิดพลาด (Errors) ต่างๆ หรือแม้แต่ความล้มเหลว (Failures) ไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมความเสียหายได้อย่างมหาศาล ก่อนที่คุณจะรับรู้ถึงปัญหาด้วยซ้ำไป หนึ่งในวิธีการดังกล่าวนั่นก็คือ การแบ่งพาร์ติชัน (Partition) บนฮาร์ดดิสก์ของคุณ เพื่อแยกระบบปฏิบัติการ (Operating System) และแอปพลิเคชั่น (Applications) ออกจากข้อมูลของคุณ ซึ่งก็หมายความว่า ในกรณีที่ซอฟต์แวร์ของคุณเผชิญกับข้อผิดพลาดร้ายแรง (Critical Error) ไฟล์ของคุณก็จะยังคงสามารถกู้คืนกลับมาได้
 
น่าเสียดายที่วิธีการนี้ก็ยังไม่ได้จัดว่าเป็นวิธีการป้องกันความผิดพลาดที่สมบูรณ์แบบสำหรับการป้องกันข้อมูลสูญหาย (Data Loss) แต่ก็ยังถือว่าเป็นวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดในการป้องกันข้อมูลสำคัญทางธุรกิจของคุณให้ห่างจากซอฟต์แวร์ที่มีช่องโหว่ (Vulnerable Software) นอกเหนือไปจากการเก็บสำรองข้อมูลปกติทั่วไป
 
เมื่อพูดถึงการสำรองข้อมูล (Backup) เราพบว่าการแบ่งพาร์ติชั่น (Partitioning) ทำให้กระบวนการนี้ง่ายต่อการจัดการ ยกตัวอย่าง เช่น หากคุณต้องการติดตั้ง Windows ใหม่ และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม พาร์ติชันข้อมูล (Data Partition) ของคุณจะยังคงไม่มีใครแตะต้อง และสามารถที่จะเข้าถึงได้ตามปกติเมื่อเสร็จสิ้นการติดตั้ง
 
คุณยังมีตัวเลือกอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับการแบ่งพาร์ติชัน (Partitioning)บนดิสก์ของคุณ เพราะ Windows นั้นมาพร้อมกับยูทิลิตี้การจัดการดิสก์ในตัว (Built-in)ซึ่งคุณสามารถที่จะใช้มันเพื่อแบ่งพาร์ติชันดิสก์ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามยังมีเครื่องมือ (Tool) อย่าง "คำสั่ง DiskPart"ที่มีตัวเลือกการจัดการเพิ่มเติมสำหรับการสร้างพาร์ติชันที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
 

DiskPart คืออะไร

DiskPart เป็นยูทิลิตี้บรรทัดคำสั่ง (Command Line) สำหรับการจัดการแบ่งพาร์ติชันฮาร์ดดิสก์ (Disk Partition) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับ Windows และ Windows Server ทุกรุ่น ตราบใดที่ซอฟต์แวร์ของคุณไม่เก่าเกินกว่า Windows XP และ Windows Server 2003
 
นอกจากนี้ DiskPart ยังถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมการบริหารจัดการดิสก์ได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น รวมถึงการทำความสะอาด (Cleaning) และการจัดรูปแบบ (Format) ของ USB Flash Driveตลอดจนการสร้างพาร์ติชัน (Partitions) และการกำหนดตัวอักษรเพื่อระบุไดร์ฟ
 
DiskPart  เป็นเครื่องมือที่แตกต่างจากเครื่องมือการจัดการดิสก์ (Disk Management Tool) ของ Microsoft เพราะมันสามารถเรียกใช้ได้โดยที่คุณไม่ต้องเปิด Windowsนอกจากนี้ยังมีการควบคุมโวลุ่ม (Volumes) และพาร์ติชันของฮาร์ดดิสก์อย่างชัดเจน ตลอดจนพาร์ติชันการกู้คืนที่ซ่อนอยู่ ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และมันก็เป็นสิ่งที่จะต้องใช้ความระมัดระวังสำหรับการนำมาใช้งาน เนื่องจากการฟอร์แมตต่างๆ ที่ทำบนฮาร์ดไดร์ฟนั้นไม่สามารถยกเลิกได้ เมื่อสั่งดำเนินการไปแล้ว
 
ความสามารถของ DiskPartนั้นยังหมายรวมถึง มันเป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาใช้เพื่อการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การเกิดข้อผิดพลาดในส่วนของข้อมูล (Data Corruption) บน USB แฟลชไดร์ฟ และ SD Cards ซึ่งการฟอร์แมตอย่างง่ายในWindows ก็ไม่สามารถแก้ไขได้
 

วิธีการใช้ DiskPart

ก่อนที่คุณจะเริ่มลงมือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตามที่มีผลต่อส่วนสำคัญของคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับฮาร์ดไดร์ฟของคุณ จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องทำการสำรองข้อมูลของคุณก่อนที่คุณจะพยายามใช้ DiskPart  และทันทีที่คุณมีการสำรองข้อมูลที่อยู่ในฮาร์ดไดร์ฟของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถที่จะเริ่มกระบวนการได้ทันที
 
คุณจำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิ์การเข้าถึงในระดับผู้ดูแลระบบ (Admin) เพื่อที่จะสามารถสร้างพาร์ติชันบนฮาร์ดไดร์ฟ ดั้งนั้น หากคุณไม่สามารถทำได้ คุณอาจจำเป็นที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากแผนกไอทีของคุณ เพื่อทำตามคำแนะนำเหล่านี้ ขั้นตอนแรกก็คือ เปิดหน้าต่างพรอมต์รับคำสั่ง (Command Prompt) ขึ้นมา โดยกดปุ่ม Windows + X หรือพิมพ์คำว่า "Command Prompt" ลงในช่องค้นหา เมื่อพรอมต์รับคำสั่งถูกเปิดขึ้นมาให้ป้อนคำว่า "diskpart" แล้วกด Enter รอให้เครื่องมือ DiskPart เปิดขึ้นในหน้าต่างใหม่ แล้วจึงระบุว่าไดร์ฟเก็บข้อมูลใดที่คุณต้องการแบ่งพาร์ติชัน หากต้องการดูรายการของไดร์ฟจัดเก็บข้อมูลภายในเครื่องของคุณให้พิมพ์คำว่า "list disk" และกดEnter
 
สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยส่วนใหญ่ คุณจะพบว่ามันมีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Storage) เพียงอันเดียว ดังนั้น ให้เลือกฮาร์ดไดร์ฟที่โชว์ขึ้นมา ถ้าหากคุณยังไม่แน่ใจว่านั่นเป็นไดร์ฟที่คุณต้องการใช้แล้วล่ะก็ คุณอาจจะต้องตรวจดูให้แน่ใจเสียก่อน ก่อนที่คุณจะแบ่งพาร์ติชันไดร์ฟที่ไม่ถูกต้อง เมื่อคุณพบดิสก์แล้วให้เลือก'select disk' แล้วตามด้วยหมายเลขที่เกี่ยวข้องเพื่อเลือกดิสก์ที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าดิสก์ที่ต้องการเป็นลำดับที่สองในรายการ ให้พิมพ์คำสั่ง "select disk 2" เพื่อไฮไลต์ให้เด่นชัดและเริ่มกระบวนการพาร์ติชัน
 
ขอย้ำอีกครั้งว่า คุณจะต้องใช้คำสั่ง (Commands)เพื่อดำเนินการต่างๆ สำหรับคำสั่ง "Extend"นั้น จะเป็นการขยายพาร์ติชันของดิสก์ไปยังไดร์ฟข้อมูลที่ไม่ได้ใช้งานบนฮาร์ดดิสก์ ในขณะที่คำสั่ง "Shrink" จะทำในแบบตรงกันข้าม ซึ่งก็คือจะเป็นวิธีการลดขนาดโวลุ่ม (หรือพาร์ติชัน) บนฮาร์ดดิสก์ นั่นเอง นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้คำสั่ง "Clear"เพื่อลบข้อมูลทั้งหมดจากดิสก์ หรือคำสั่ง "Create" เพื่อสร้างพาร์ติชันใหม่ เป็นต้น
 
ขณะที่คุณตัดสินใจสร้างพาร์ติชันใหม่ลงในไดร์ฟ คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ทำให้มันใช้งาน (Active) ได้แล้ว รวมทั้งจะต้องกำหนดตัวอักษรให้กับพาร์ติชันที่สร้างขึ้นใหม่โดยใช้คำสั่งที่ระบุไว้ เพื่อที่จะให้การดำเนินการสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี คุณสามารถเปิดดูขั้นตอนต่างๆ ได้จากคู่มือออนไลน์ หรือสามารถพิมพ์ตัวอักษรใดก็ได้หลังจากบรรทัด 'DISKPART>'และกด Enterเพื่อที่จะจัดหา ด้วยการเลือกคำสั่งที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ (Compatible Commands)
 
มันคุ้มค่ากว่าที่จะใช้เวลาเพื่อทำความคุ้นเคยกับพรอมต์คำสั่ง (Command Prompts) ก่อนที่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ DiskPart และยูทิลิตี้ (Utility)ที่สงวนไว้อย่างดีที่สุดสำหรับผู้ดูแลระบบไอทีและผู้ที่คุ้นเคยกับการฟอร์แมต (Formatting) ฮาร์ดไดร์ฟในเชิงลึก และสำหรับผู้ที่ต้องการเจาะลึกเข้าไปในส่วนของอินเตอร์เฟสบรรทัดคำสั่ง (Command-line Interface) ของ DiskPartคุณต้องไม่พลาดที่จะพิสูจน์ให้ได้ว่ามันเป็นเครื่องมือสำหรับการบริหารจัดการฮาร์ดไดร์ฟที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกใน Windows XP และยังคงถูกรวมอยู่ใน Windowsรุ่นล่าสุดด้วยเช่นกัน

ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์
Server
Hyper converged
Storage
UPS
Networking
PC
All in one
Notebook
Monitor
Printer
Hosting
Google cloud
AWS
Microsoft Azure
SSL