ฮาร์ดแวร์ AI มีราคาแพงในการจัดหาและใช้งาน และลูกค้าองค์กรจำนวนมากอาจเลือกที่จะให้ไฮเปอร์สเกลเลอร์ทำเพื่อพวกเขา
ปรากฎการณ์อันฉับพลันเร่งรีบต่อการเปิดรับปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง generative AI จะช่วยผลักดันผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลระดับไฮเปอร์สเกล เช่น Google และ Amazon ให้มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในอีกหกปีข้างหน้า
นั่นคือข้อสรุปจาก Synergy Research Group ตามตลาดศูนย์ข้อมูล ในรายงานฉบับใหม่ Synergy ตั้งข้อสังเกตว่า ถึงแม้จะมีการกล่าวอ้างเกี่ยวกับ AI ที่เกินจริงมากมาย แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า generative AI นั้นกำลังส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดไอที
นอกจากนี้ วิธีการทำงานของ AI ยังแตกต่างจากแอปพลิเคชันสายธุรกิจแบบดั้งเดิม มันมีงานที่ใช้กระบวนการในการ training ซึ่งต้องใช้ GPUs จากนั้นจะมีการอนุมาน ซึ่งรันออฟ (runs off) จากรุ่นที่ถูกฝึกโดย GPUs เมื่อโมเดลต้นแบบได้รับการฝึก training แล้ว ก็เป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะไม่ต้องทบทวนมันเป็นเวลาหลายเดือน จากนั้นฮาร์ดแวร์ราคาแพงมากของคุณก็จะถูฏตั้งอยู่เฉยๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ และเสื่อมค่าลงไปในที่สุด
องค์กรต่างๆ สามารถดำเนินการด้วยตนเองโดยไม่ต้องใช้ผู้ให้บริการคลาวด์ระดับไฮเปอร์สเกลได้หรือไม่? “ตามทฤษฎีแล้ว ใช่ แต่ค่าใช้จ่ายอาจเป็นข้อห้าม และการเข้าถึงความเชี่ยวชาญที่เหมาะสมอาจถูกจำกัดอย่างรุนแรง” John Dinsdale หัวหน้านักวิเคราะห์และผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Synergy Research Group กล่าว
ดังนั้นแนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ในด้านไอทีระดับองค์กรสำหรับ generative AI คือการขยายส่วนการ training ของ AI ออกไป แต่ทำการอนุมานภายในองค์กรซึ่งมีกระบวนการที่เข้มข้นน้อยกว่ามาก เหตุใดจึงลงทุนหลายแสนดอลลาร์ในฮาร์ดแวร์ที่คุณใช้เพียงเท่าที่จำเป็น ในเมื่อคุณสามารถเช่าจาก Google หรือ AWS ได้?
สิ่งนี้เรียกว่า AI ในฐานะบริการ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่เกิดขึ้นใหม่จากไฮเปอร์สเกล เช่น AWS และ Microsoft ที่เราสามารถคาดหวังสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้มากกว่านี้