Please wait...
SOLUTIONS CORNER
ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการใช้บริการคลาวด์สาธารณะ

ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการใช้บริการคลาวด์สาธารณะจึงกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง



มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงกำลังทำให้คนหันมาใช้ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง(Cloud Computing)มากขึ้น

ตามการสำรวจ IDG Connect

แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่เปลี่ยนไปใช้ระบบคลาวด์นั้นมีความหวาดหวั่นในการใช้งานน้อยลงจากการสำรวจเหล่านั้น ผู้ใช้ครึ่งหนึ่งรู้สึกมั่นใจในการโอนย้ายงานต่างๆไปยัง Off-Premisesมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวโน้มที่สามารถพิสูจน์ได้ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งทั้งด้านของผู้ให้บริการและด้านของผู้ใช้งานนับตั้งแต่ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing)ได้ถูกสร้างขึ้น มันก็ได้สร้างประสิทธิภาพและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดีขึ้น ดังนั้นการเริ่มทำDigital Transformation จึงจำเป็นในการสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจจะสามารถแข่งขันได้อย่างไรก็ตามการจัดเก็บข้อมูลและแอปพลิเคชันลงในระบบคลาวด์ก็ทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยจนทำให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีหลายคนไม่สามารถตัดสินใจเปลี่ยนแปลงระบบได้
 
ผู้ให้บริการระบบคลาวด์จึงได้สร้างเลเยอร์(layer) ความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลซึ่งทำให้ผู้ใช้ปลายทางจะได้ประโยชน์จากการป้องกันช่องโหว่นี้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งนี้ในระบบ หากขาดความเข้าใจและความเชี่ยวชาญในแผนกไอที ก็อาจทำให้หลายๆ องค์กรมีอุปสรรคในการปรับใช้มาตรการป้องกันความปลอดภัยนี้ เนื่องด้วยมันมักจะซับซ้อนและจำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะด้านหากขาดความเข้าใจและความเชี่ยวชาญแล้วนั้นก็อาจจะทำให้ข้อมูลและแอปพลิเคชันเกิดช่องโหว่ได้เมื่อปัญหานี้เกิดคู่กับการละเมิดการเข้าถึงข้อมูลอย่างร้ายแรงแล้วนั้นเราจึงเห็นว่าปัญหานี้ได้ถูกพาดหัวข่าวเป็นประจำตลอดปี 2561 และ 2562จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายบริษัทลังเลที่จะจัดเก็บแอปพลิเคชันและข้อมูลใน Off-Premise 
เพื่อตอบสนองและเพิ่มความมั่นใจของผู้ใช้ผู้ให้บริการจึงเริ่มควบคุมความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้น โดยระบบจะจำกัดการเข้าถึงศูนย์ข้อมูลต่างๆ ให้กับเฉพาะผู้ใช้ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลเท่านั้นถึงจะได้รับอนุญาตนี่จึงเป็นการกำจัดช่องโหว่ภายในโดยการป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดกับข้อมูลที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า


Microsoft กำลังก้าวกระโดดต่อไปอีกขั้น:

ด้วยการรวมโครงสร้างพื้นฐานการคำนวณ Azure เข้ากับส่วนประกอบฮาร์ดแวร์ที่กำหนดเอง พร้อมกับตัวป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตแบบฝังตัวและยังลดความซับซ้อนด้วยการมีโซลูชันแบบแผงเดียว มากไปกว่านั้น บริษัทคู่ค้าก็ได้สร้างเลเยอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับข้อเสนอระบบคลาวด์ของผู้ให้บริการดั้งเดิม ตัวอย่างใน Microsoft Red Hat หนึ่งในบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซ(Open Source Software)ก็กำลังป้องกันภาระงานในเวอร์ชวลไลเซชัน (Virtualisation)และ Application levels
ผู้ให้บริการก็ยังใช้มันเพื่อทดสอบความปลอดภัยของตัวเองเป็นประจำ การทดสอบการเจาะระบบได้พัฒนามาจากแนวคิดการแฮ็กที่มีจริยธรรม โดยให้ผู้ให้บริการประเมินช่องโหว่ ความปลอดภัย ความยากง่ายของการเจาะ ระยะเวลา และผลกระทบจากการโดนโจมตีในซอฟต์แวร์ของตนก่อนที่จะสามารถกำหนดก่อนที่แฮ็กเกอร์จะโจมตีได้


การสำรวจของ IDG

แสดงให้เห็นว่ามาตรการเหล่านี้ให้ผลตอบแทนแก่ลูกค้า จากการรายงาน นอกจาก 50% ของการสำรวจผู้มีความมั่นใจในการเปลี่ยนไปใช้ระบบคลาวด์58% จากการสำรวจระบุว่าพวกเขาเชื่อถือแพลตฟอร์มและข้อกำหนด (Protocol)รักษาความปลอดภัยข้อมูลของผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะมากกว่าแผนกไอทีของพวกเขา ในขณะที่ 54% ได้ระบุว่า พวกเขาไม่กังวลเกี่ยวกับการที่พวกเขาจะเสียการควบคุมแอปพลิเคชันหรือการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานและการจัดการต่างๆอันเป็นผลมาจากโครงการCloud migrationหรือการย้ายข้อมูล แอปพลิเคชันหรือองค์ประกอบอื่นๆของธุรกิจด้วย Cloud Computing
เนื่องจากผู้ให้บริการให้ความสำคัญต่อการรักษาความปลอดภัยต่อบริษัทซอฟต์แวร์ต่างๆ จึงทำให้ลูกค้าดั้งเดิมมีความสบายใจและรักษาลูกค้าเหล่านั้นไว้ได้ มากไปกว่านั้นการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดนี้ยังดึงดูดลูกค้าใหม่ๆได้อีกด้วย ก็อาจเป็นไปได้ที่ระบบ Cloud Computing จะเป็นที่นิยมอย่างมากในอีกหลายปีข้างหน้า

ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์
Server
Hyper converged
Storage
UPS
Networking
PC
All in one
Notebook
Monitor
Printer
Hosting
Google cloud
AWS
Microsoft Azure
SSL