จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อมีการจับคู่กันระหว่าง HPE ProLiant Gen10 Server และ Windows Server 2016

เรารู้สึกอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เมื่อจะต้องจับคู่ในสิ่งที่เราชื่นชอบระหว่าง HPE ProLiant Gen10 Server และ Microsoft Windows Server 2016 ซึ่งเราได้มีโอกาสใช้เวลาชั่วขณะ เพื่อเลือกดูแต่ละรุ่นของ Windows Server 2016 และ HPE Gen10 Servers ที่พวกเราคิดว่าเป็นการจับคู่ที่ดีที่สุดให้กับพวกเขา

Microsoft Windows Server 2016 Essentials Edition + HPE ProLiant MicroServer Gen10
สำหรับลูกค้าหรือองค์กรธุรกิจที่กำลังมองหาเซิร์ฟเวอร์ที่จัดว่าอยู่ในระดับ Entry Level และระบบปฏิบัติการเซิร์ฟเวอร์ (OS) ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปนั้น เราขอแนะนำ HPE ProLiant MicroServer Gen10 ที่จัดการด้วย Microsoft Windows Server 2016 Essentials Edition ซึ่งนับว่าเป็นการจับคู่ที่ยอดเยี่ยม ด้วยเหตุผลที่ MicroServer Gen10 เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีขนาดกะทัดรัดและง่ายต่อการใช้งาน ซึ่งคุณสามารถวางจัดวางได้เกือบทุกที่ เนื่องจากขนาดและความเงียบสงบแม้ในขณะที่เครื่องกำลังทำงาน นอกเหนือไปจากขนาดและเสียงรบกวนที่อยู่ในระดับต่ำแล้ว มันยังง่ายต่อการติดตั้งและให้บริการ ซึ่งคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ทำให้มันเหมาะสำหรับ SMB

เราคิดว่าการจับคู่ที่เหมาะสมให้กับระบบปฏิบัติการ MicroServer นั่นก็คือ Microsoft Windows Server 2016 Essentials Edition ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเซิร์ฟเวอร์ที่มีคุณสมบัติของความยืดหยุ่น, มีราคาที่ไม่แพงจนเกินไป และยังเป็นระบบปฏิบัติการ (Operating System: OS) ที่ง่ายต่อการใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ที่มีผู้ใช้ไม่เกิน 25 รายและอุปกรณ์ไม่เกิน 50 เครื่อง ในส่วนของ Windows Server 2016 ในส่วนของ Windows Server 2016 รุ่นนี้ก็ยังคงเป็นไปตามรูปแบบสิทธิการใช้งานของรุ่นที่ผ่านมา โดยนับตามจำนวน Processor (Processor-based) โดยไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตการเข้าถึงไคลเอ็นต์ (CAL) นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าที่ใช้งานในรุ่นของ Foundation Edition ซึ่งไม่สามารถใช้งานได้กับ Windows Server 2016 เช่นกัน

Microsoft Windows Server 2016 Standard Edition + HPE ProLiant ML110 Gen10 Server
คุณมีลูกค้าที่กำลังมองหาเซิร์ฟเวอร์แบบ Tower และเซิร์ฟเวอร์ OS ที่มีความสำคัญมากเป็นพิเศษ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจขนาดกลางของพวกเขา หรือไม่? สำหรับ HPE ProLiant ML110 Gen10 Server, เป็น Tower Server ที่มี ประสิทธิภาพสูง และ สามารถรองรับการ upgrade เพื่อรองรับงาน , Application และ work load (ซึ่งทั้งหมดนี้ อยู่ในราคาที่เหมาะสม) เราจับคู่ให้กับ Microsoft Windows Server 2016 Standard Edition ซึ่งนับว่าโซลูชั่นที่โดดเด่นเลยทีเดียว ในส่วนของ ML110 Gen10 ที่เป็นตัวประมวลผลในรูปแบบ Single Processor มาพร้อมกับรูปแบบของ Tower Form Factor ที่สามารถวางในตู้แร็ค (Rack Server Cabinet) ได้เช่นกัน โดยใช้พื้นที่แร็ค 4.5U และยังประกอบไปด้วยสล็อต PCIe ถึง 5 ช่อง พร้อมกับพื้นที่สำหรับรองรับฟอร์มแฟกเตอร์ขนาดใหญ่ (LFF) ที่มีถึง 8 ช่อง หรือฟอร์มแฟกเตอร์ขนาดเล็ก (SFF) 16 ช่อง

ในขณะที่ Windows Server 2016 Essentials Edition ก็ยังคงเป็นไปตามรูปแบบสิทธิการใช้งาน (Licensing model) โดยนับตามจำนวน Processor (Processor-based) เป็นหลัก แต่ในส่วนของรูปแบบสิทธิการใช้งานสำหรับ Standard Edition นั้นได้เปลี่ยนวิธีคิด License เป็นการนับตามจำนวนของ CPU core ( Core-based ) นอกจากนี้ Standard Edition ยังให้การสนับสนุน Users / อุปกรณ์ที่ไม่จำกัด (ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับ Client Access Licenses (CALs) หรือรูปแบบสิทธิ์การใช้งานของเครื่องไคลเอ็นต์ และสนับสนุนการทำงานได้ 2VMs เมื่อ core ที่อยู่ในเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดได้รับอนุญาต สำหรับ ทุกๆ 2VMs ที่เพิ่มเข้าไป core ทั้งหมดในเซิร์ฟเวอร์จะต้องได้รับอนุญาตอีกครั้ง

Microsoft Windows Server 2016 Datacenter Edition + HPE ProLiant DL380 Gen10 Server
ลูกค้าที่ต้องการโซลูชั่น Cloud Server ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีในด้านการรักษาความปลอดภัยและพร้อมใช้งานจะต้องรู้สึกประทับใจอย่างแน่นอน เมื่อ HPE ProLiant DL380 Gen10 Server มีการจับคู่กับ Microsoft Windows Server 2016 Datacenter Edition , เซิร์ฟเวอร์ที่ขายดีที่สุดในโลกที่ประสบความสำเร็จด้วยการเปิดตัว HPE ProLiant DL380 Gen10 Server ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ให้การรักษาความปลอดภัย, ประสิทธิภาพและความสามารถในการรองรับการขยายตัว มาพร้อมกับชุดของบริการด้านเทคโนโลยีของ HPE (HPE Technology Services) ที่สมบูรณ์แบบ เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดความเสี่ยง รวมถึงช่วยให้แก่ลูกค้าตระหนักถึงความคล่องตัวและเสถียรภาพ

Windows Server 2016 Datacenter Edition เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีระบบการทำงานแบบ Virtualized และมีการนำ Software Defined Data Center (SDDC) มาใช้อย่างจริงจัง นอกจากนี้ Datacenter Edition ไม่เพียงแต่จะให้การสนับสนุน Virtual Machines ที่มากกว่า Standard Edition ( Datacenter Edition ให้สิทธิ์สำหรับ VM ที่ไม่จำกัด ) แต่ยังมีคุณลักษณะใหม่ ๆ ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับ Datacenter Edition ซึ่งได้แก่ Shielded Virtual Machines, ระบบเครือข่ายที่ใช้ซอฟต์แวร์เป็นตัวกำหนด (Software Defined network (SDN)), Storage Spaces Direct, Storage Replica และอื่น ๆ เช่นเดียวกับ Windows Server 2016 Standard Edition สำหรับ Datacenter Edition ก็ยังคงเป็นไปตามรูปแบบสิทธิการใช้งาน โดยการนับ License ตามจำนวนของ CPU core ( Core-based ) แต่ในส่วนของ Client Access Licenses CALs ก็ยังคงต้องซื้อตามปกติ

ที่มา: community.hpe.com