รีวิว Acer TravelMate X5 : ขนาดของแล็ปท็อปจะไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป

Acer TravelMate X5 จัดว่าเป็นแล็ปท็อปที่เบาที่สุด – แต่ดูเหมือนว่าเครื่องที่มีขนาดเล็กตัวนี้จะไม่ได้เป็นไปอย่างที่หลายๆ คนคาดเอาไว้

Acer TravelMate X5 เป็นแล็ปท็อปธุรกิจที่ดูเรียบง่ายในทางทฤษฎี และเราก็ยังสามารถพบเห็นมันได้ตามสำนักงานทั่วไป แต่แล็ปท็อปที่มีราคาย่อมเยาเครื่องนี้กลับมีการกล่าวถึงอย่างมากมาย เพราะมันมีน้ำหนักเพียงแค่ 980 กรัม

นั่นถือว่าเป็นแล็ปท็อปที่มีขนาดเบามาก และมันก็ยังเบากว่าคู่แข่งรายอื่นๆ เกือบทุกราย ยกเว้นก็แต่ Swift 7 ของ Acer แต่สิ่งที่เราได้เห็นจากเครื่องดังกล่าวก็คือ แล็ปท็อปที่มีน้ำหนักเบานั้นเสี่ยงอันตรายกับการสูญเสียมากเกินไป เพื่อที่จะบรรลุถึงการออกแบบที่บางเบา

รีวิว Acer TravelMate X5 : Design

น้ำหนักที่ไม่ถึง 1 กก. ของ Acer นั้นน่าทึ่งมาก ซึ่งก็หมายความว่า คุณแทบจะไม่ทันได้สังเกตเห็น Acer เมื่อมันถูกหยิบขึ้นมา ดังนั้น คงไม่ต้องคิดเลยว่า ถ้ามันอยู่ในถุงหรือกระเป๋าเป้สะพายหลัง จะเป็นอย่างไร?

แล็ปท็อปเครื่องอื่นๆ ส่วนใหญ่จะสู้มันไม่ได้ในเรื่องของน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Surface Laptop 3 และ Dell XPS 13 ที่มีน้ำหนักเบา แต่น้ำหนักที่ 1.3 กก. และ 1.23 กก. ของพวกมัน ก็ยังถือว่าไม่หนักมาก ซึ่งอันที่จริงแล้ว Acer Swift 7 ที่มีน้ำหนักเพียง 890 กรัม ก็เป็นแล็ปท็อปตัวเดียวที่ชนะมันในเรื่องของความเบา และเราก็ได้ทำการทดสอบแล้วเมื่อไม่นานมานี้ แต่ TravelMate X5 นั้นบางเฉียบจนน่าประทับใจ ด้วยความหนาเพียง 15 มม. เท่านั้น

แน่นอนว่า TravelMate เป็นชื่อที่เหมาะสมกับมัน ด้วยความสามารถในการพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก และการออกแบบที่บางเบาเป็นพิเศษนั้นย่อมหมายถึงคุณภาพการสร้างที่ทนทาน ซึ่งฐานของมันก็เป็นส่วนหนึ่งที่แข็งแรง และฝาของมันก็มีความยืดหยุ่นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เครื่องนี้ก็แข็งแรงพอที่จะทนต่อการใช้ชีวิตบนท้องถนนได้โดยไม่ต้องมี Protective Sleeve แต่สุดท้ายแล้ว เราก็ยังพบว่า Surface Laptop 3 และ Dell XPS 13 แข็งแรงกว่ามันมาก

TravelMate แต่ละรุ่นก็ไม่ได้ดูคล้ายกันมาก และตัวที่เราตรวจสอบนั้นตัวเครื่องของมันก็ทำมาจากโลหะผสมแมกนีเซียม (Magnesium Alloy) แบบธรรมดาโดยที่ไม่มีการตกแต่งเพิ่มเติม เพราะมันไม่มีตัวเลือกที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์หรือตัวเลือกสี (Colour Options) เหมือนอย่าง Dell มีความเรียบเงางาม หรือมีแป้นพิมพ์ที่บุด้วยผ้า เหมือนอย่าง Surface Laptop

อุปกรณ์เชื่อมต่อ (Connectivity) ของ Acer ก็มีไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เพราะ Acer ได้จัดเตรียม USB 3.0 Connector จำนวน 2 ชุด และซ็อกเก็ต Type-C ที่รองรับ DisplayPort ทั้งยังมีพอร์ต HDMI Output เตรียมไว้ให้ด้วย อย่างไรตาม มันไม่มี Card Reader หรือ Thunderbolt 3 และพอร์ตสำหรับ Headphone Jack และสล็อตสำหรับ Kensington Lock โดยทั้งหมดนี้จะอยู่ทางด้านขวามือ ซึ่งอาจจะดูขัดหูขัดตาอยู่บ้างในกรณีที่คุณใช้เมาส์แบบ USB

มันยังคงได้รับการพิจารณาให้เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอัลตร้าบุ๊คที่ทันสมัย ส่วนใหญ่ในเรื่องของพอร์ต แม้ว่า Dell XPS 13 จะมี Card Reader, พอร์ต USB 3.1 Type-C และพอร์ต Thunderbolt 3 อีก 2 พอร์ต แต่จะไม่มีก็ช่องเสียบ USB แบบ Full-size เท่านั้น ในขณะที่ Surface Laptop นั้นมีพอร์ต USB แบบ Full-size หนึ่งพอร์ต พร้อมกับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ของมัน นอกจากนี้มันก็ยังมีข้อได้เปรียบกว่าแล็ปท็อปที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ซึ่งแล็ปท็อปเหล่านั้นมีแนวโน้มที่จะมีพอร์ต USB-C หนึ่งหรือสองพอร์ต

รีวิว Acer TravelMate X5: Keyboard & Trackpad

เครื่องของ Acer นั้นมีปุ่มกดแบบ Chiclets แบบมาตรฐาน ที่ไม่มี Number Pad แต่ระดับคุณภาพของมันก็ยังสมเหตุสมผล ส่วนปุ่มกดนั้นเงียบและสะดวกสบายด้วยการพิมพ์ที่สอดคล้องกัน ซึ่งก็ทำให้ง่ายต่อการทำงานเกี่ยวกับเอกสารต่างๆ และอีเมล์ รวมไปถึงตัวอักษรที่ชัดเจนและ White Backlight อัจฉริยะที่จะช่วยให้คุณสามารถพิมพ์งานได้ แม้ว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนด้านความสว่างให้เหมาะสม

ถึงแม้ว่าจะมีระยะการกดปุ่ม (Key Travel) ของมันจะไม่ยาวมากนัก แต่บางคนก็อาจจะชอบแบบนี้ ในขณะที่ใครหลายๆ คนอาจจะต้องการ Key Travel และศักยภาพจากปุ่มกดของพวกเขาให้มากกว่านี้ หากเป็นเช่นนั้น ข้อเสนอของแล็ปท็อป Surface ก็จะมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย และ XPS 13 เองก็ยังมอบประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม รวมทั้งประสบการณ์การพิมพ์ที่น่าพึงพอใจ จนสามารถที่จะเอาชนะคู่แข่งทั้งสองได้

ในส่วนของ Keycap ของ Acer ก็น่าจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่านี้อีกเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันมีบริเวณพื้นที่ว่างรอบแป้นพิมพ์ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้

ในทางกลับกัน หลายๆ คนก็ยังคงรู้สึกพึงพอใจกับ Trackpad ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะขนาดที่ใหญ่ของมัน อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น (Smooth) และแม่นยำ พร้อมด้วยปุ่มคีย์ลัด (Fast Button) ต่างๆ นอกจากนี้มันก็ยังมีเครื่องอ่านลายนิ้วมือ (Fingerprint Reader) ในตัว ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการระบุตัวบุคคลโดยใช้เทคโนโลยีชีวมิติ (Biometrics Identification)

รีวิว Acer TravelMate X5: จอแสดงผล

เครื่องของ Acer รุ่นนี้มี Panel ขนาด 14 นิ้ว มาพร้อมกับความละเอียดที่ 1,920 x 1,080 พิกเซล ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อกำหนดทั่วไปที่ใช้ได้ดีสำหรับงานหลัก (Mainstream Work) และการท่องเว็บ (Web-browsing)

ค่าความคมชัด (Contrast Ratio) ที่วัดได้ของหน้าจอที่ 1,159:1 นั้น จัดว่าเหมาะสม และมันก็อยู่ในระดับที่สูงพอ เพื่อให้แน่ใจว่าภาพที่ได้จะทะลุผ่านหน้าจอออกมาด้วยความคมชัดพร้อมทั้งสีที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามค่าความคมชัดของมันที่บวกกับระดับความสว่างที่ 313cd/m2 ก็เป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผล แต่ค่าความสว่างดังกล่าวนั้นดีพอเฉพาะกับการใช้งานภายในตัวอาคารเท่านั้น ซึ่งถ้าต้องใช้งานในสภาพกลางแจ้งหรือภายใต้แสงแดดจ้า จอแสดงผลดังกล่าวอาจจะต้องได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่านี้

คุณภาพสี (Colour Quality) ของมันอยู่ในระดับปานกลาง ส่วน Delta E ที่ 2.45 นั้น เป็นค่าที่ปกติ แต่นั่นก็ไม่ได้ถือว่าโดดเด่น และอุณหภูมิสี (Color Temperature) ที่ระดับ 7,642K ก็จัดว่าดี ทั้งยังทำให้หน้าจอดูซีดจางลงเล็กน้อย นอกจากนี้ Panel ของมันก็ยังมีอัตราส่วนความครอบคลุมในระดับธรรมดาทั่วไปที่ 92.9% sRGB และมันก็ยังแสดงผลได้เพียงประมาณ 65% ของขอบเขตสี Adobe RGB และ DCI-P3 ดังนั้น Color Space เหล่านั้นจึงไม่ได้รับการสนับสนุนบนหน้าจอนี้

ผลลัพธ์ที่ได้นี้ หมายความว่า หน้าจอของ Acer เหมาะสำหรับงานหลักเท่านั้น เช่น งาน Office ต่างๆ งานแก้ไขภาพขั้นพื้นฐานและเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้เบราว์เซอร์ ซึ่งมันอาจจะยังไม่ดีพอที่จะจัดการกับงานที่ต้องการความแม่นยำของสีเป็นสำคัญ

การเพิ่มค่าใช้จ่ายอีกเล็กๆ น้อยๆ จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากในส่วนนี้ เพราะเครื่องของ Dell และ Microsoft นั้นดูสดใสกว่าด้วยการแสดงผลค่าสีที่ครอบคลุมมาตรฐาน sRGB ในระดับที่ดีกว่า รวมถึง Surface ที่มีจอภาพแบบสัมผัส (Touchscreen) ในทำนองเดียวกัน Swift 7 ก็ยังให้คุณภาพของภาพที่ดีกว่า

แต่ดูเหมือนว่าคุณภาพลำโพงของมันก็ถือว่าค่อนข้างแย่เช่นกัน ด้วยช่วงปลายของเสียงที่แหลมและเสียงที่มีความถี่สูง (Treble) ก็ไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ ส่วนในด้านของ Volume นั้นไม่ได้มีอะไรมากนัก ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกแปลกใจเกี่ยวกับแล็ปท็อปที่มีราคาเท่านี้ แต่ถ้าจะให้ดีคุณควรใช้หูฟังหรือลำโพงภายนอกสำหรับการเล่นไฟล์เสียงต่างๆ

รีวิว Acer TravelMate X5 : Hardware & Performance

สำหรับ TravelMate X5 เครื่องนี้ Acer ก็ยังคงใช้ฮาร์ดแวร์ Intel 8th-Gen และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในโลกของแล็ปท็อป แต่หมายความว่า TravelMate กำลังตามหลังคู่แข่งอื่นๆ เพราะเครื่องของ Surface และ Dell รุ่นล่าสุดนั้น ต่างก็ได้รับการอัพเกรดด้วยชิป 10th-Gen

Acer เครื่องที่เรากำลังรีวิวอยู่นี้ขับเคลื่อนการทำงานด้วย โปรเซสเซอร์ Core i7-8565U ซึ่งเป็นชิปแบบ Quad-Core ที่มีความถี่พื้นฐานของโปรเซสเซอร์ที่ 1.8GHz และความถี่เทอร์โบสูงสุดที่ 4.6GHz ส่วนรุ่นที่มีราคาถูกกว่านั้นใช้โปรเซสเซอร์ Core i5-8265U ที่มีความถี่พื้นฐานของโปรเซสเซอร์ที่ 1.6GHz และความถี่เทอร์โบสูงสุดที่ 3.9GHz แต่ในทางกลับกัน นี่จัดว่าเป็นโปรเซสเซอร์ที่สมบูรณ์แบบ แทนที่จะเป็น Y-series ที่ใช้พลังงานต่ำกว่า ซึ่งมักจะถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์ที่มีขนาดบางเฉียบ เนื่องจากประสิทธิภาพในการระบายความร้อน (Thermal Efficiency) ของพวกมัน และยังชี้ให้เห็นว่าชัยชนะของมันอยู่เหนือคะแนนความชอบของ Swift 7

ในส่วนอื่นๆ นั้น Acer มีหน่วยความจำขนาด 8GB ซึ่งใช้ได้ดีสำหรับงานหลักๆ แต่ก็ถือว่ายังไม่เพียงพอสำหรับงานที่ยากขึ้น คุณจำเป็นที่จะต้องมีหน่วยความจำขนาด 16GB ถ้าคุณต้องที่จะให้เครื่องของคุณเหมาะกับการทำงานในโลกอนาคต อย่างแท้จริง นอกจากนี้ก็ยังมี SSD ขนาด 512GB และ Integrated Graphics Core มาตรฐานของ Intel ซึ่ง TravelMate ก็ยังมี Wireless Dual Band ที่รองรับมาตรฐาน 802.11ac แต่จะไม่มีในส่วนของ WiFi 6 และ Gigabit Ethernet หรือไม่ก็เป็นในส่วนของ Adapter Bundle ที่สำคัญก็คือ มันยังไม่มีตัวเลือกสำหรับระบบ LTE (Long Term Evolution) และคุณก็ยังจะไม่ได้รับ IR Webcam เพื่อที่จะนำไปใช้กับระบบการจดจำใบหน้า ด้วยเช่นกัน

โปรเซสเซอร์ Intel Core i7 รุ่นที่เราตรวจสอบนั้น มีราคาที่ £916 ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (Excluding Vat) และ £999 (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อเพิ่มหน่วยความจำเป็นสองเท่า หรือในกรณีที่คุณต้องการเปลี่ยนให้เป็นรุ่น Core i5 ที่แตกต่างออกไป คุณก็จะมีค่าใช้จ่ายลดลงเหลือเพียงแค่ £833 (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ในด้านของ Surface Laptop นั้นใช้โปรเซสเซอร์ Core i5-1035G7 และ Core i7-1065G7 ส่วน Dell XPS 13 ที่ใช้ CPU (ซีพียู) Comet Lake ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวผสมผสานระหว่างสองสิ่งที่แตกต่างเข้าไว้ด้วยกัน เนื่องจากชิปเหล่านั้นทำงานได้เร็วกว่าฮาร์ดแวร์รุ่น 8th-Gen แต่ไม่สามารถจับคู่กับชิป 10th-Gen ของ Surface ได้

Surface Laptop 3 ที่ถูกที่สุดนั้นมาพร้อมกับซีพียู Core i5 และพื้นผิวสัมผัสที่ห่อหุ้มด้วยผ้าสังเคราะห์จากบริษัท Alcantra โดยมีราคาที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ที่ £733 ส่วน Surface ที่ตรงกับข้อกำหนด (Specification) ของ Acer นั้น มีราคาที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ที่ประมาณ £1,158 ดังนั้น มันจึงมีราคาแพงกว่า Acer เพียงเล็กน้อย

ส่วน Dell XPS 13 นั้นมาพร้อมกับ CPU Core i5 โดยคุณจะจ่ายในราคา £999 ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับเครื่องที่ขับเคลื่อนด้วย Core i7 พร้อมหน่วยความจำขนาด 8GB นั้น มีค่าจ่ายโดยที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ที่ประมาณ £1,040

เครื่องของ Acer มีราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งอยู่เพียงเล็กน้อย และมันก็ยังช้ากว่าด้วย จากการวัดเพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะของเรานั้น Acer และชิป Core i7 เจนเนอเรชั่น 8 ของมัน ได้รับคะแนน Benchmark ที่ 72 คะแนน แต่เครื่องของ Microsoft รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับซีพียู Core i7 ตัวใหม่ของมันสามารถทำคะแนนได้ถึง 104 คะแนน สำหรับการทดสอบในแบบเดียวกัน

นอกจากนี้ก็ยังมีการทดสอบอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าของ Acer และ CPU รุ่นใหม่ของ Surface Laptop ซึ่งดูได้จากคะแนนในการวัดประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม Geekbench 4 ผลที่ได้ก็คือ Acer สามารถทำคะแนนในตำแหน่งซีพียูแบบ Multi-Core ด้วย 11,060 คะแนน ส่วนชิป 10th-Gen สามารถทำคะแนนได้ประมาณ 18,000 คะแนน

อย่างไรก็ตาม ยังมีช่องว่างในการทดสอบด้านกราฟิกอยู่พอสมควร เพราะจากผลการทดสอบความสามารถของกราฟิกการ์ด โดยใช้ OpenGL ของ Cinebench พบว่า Integrated Intel Core ของมันได้ผลลัพธ์ที่ 49.06fps (หมายความว่า มันสามารถแสดงภาพได้ 49.06 เฟรมต่อวินาที) แต่กราฟิก Intel ใหม่ล่าสุดใน Surface กลับให้ผลลัพธ์ที่ 70fps ซึ่งจัดว่าอยู่ในอันดับสูงสุดเมื่อทำการทดสอบโดยใช้มาตรฐานเดียวกัน

หากมองในแง่ของความเป็นจริงแล้วจะพบว่า Acer นั้นไม่น่าจะช้า เนื่องจากมันไม่ต้องเจอกับปัญหาในเรื่องของการเรียกใช้แอปพลิเคชั่น Office และหน้าต่างเบราว์เซอร์หลายๆ ตัวพร้อมกัน และมันก็ยังจัดการแก้ไขรูปภาพ (Photo Editor) ขั้นพื้นฐานได้อีกด้วย นอกจากนี้มันก็ยังดีกว่า Intel Core i7-8500Y ของ Swift 7 และคะแนน Benchmark โดยรวมของมันก็ยังทำได้ที่ 27 คะแนน อย่างไรก็ตามเครื่อง Surface และ Dell นั้นเร็วกว่า โดยมีโน้ตบุ๊กของ Microsoft เป็นผู้นำ ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้บางอย่างเพื่อจัดการกับ Workloads ที่ต้องทำมากขึ้น เราคิดว่าพวกมันทั้งคู่จะทำได้ดีกว่า

เครื่องของ Acer นั้นไม่สามารถแข่งขันกับเครื่องของ Surface หรือ Dell ได้ เมื่อพูดถึงเรื่องประสิทธิภาพ และเครื่องนี้ก็ยังมีเสียงรบกวนจากพัดลมที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนในระหว่างการวัดประสิทธิภาพที่ยุ่งยาก หากคุณต้องการความเงียบ นี่คงไม่ใช่แล็ปท็อปที่คุณต้องการอย่างแน่นอน

มันจะเป็นตัวเลือกที่ดี ถ้าคุณต้องการช่วงเวลาของการใช้งานที่ยาวนานกว่า จากการทดสอบด้วยการเล่นวิดีโอของเรา Acer ใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง 49 นาที ซึ่งดีกว่า Dell เล็กน้อย และมากกว่า Surface ถึงสองชั่วโมง ถ้าคุณต้องการให้เครื่องใช้งานได้ยาวนานตลอดวันทำงาน รวมถึงตลอดระยะเวลาของการเดินทาง เราคิดว่า TravelMate สามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ดีเลยทีเดียว

รีวิว Acer TravelMate X5: Verdict

สรุปก็คือ Acer เครื่องมีน้ำหนักที่เบากว่าคู่แข่ง และนี่ก็เป็นข้อได้เปรียบ ซึ่งก็หมายความว่าแล็ปท็อปเครื่องนี้ง่ายกว่าที่จะจับยัดใส่กระเป๋าแล้วสะพายมันไปไหนต่อไหน และมันก็ยังมีพลังในการประมวลผลที่เพียงพอสำหรับการทำงานในแต่ละวัน รวมถึงแบตเตอรี่ของ Acer ก็ยังมีอายุการใช้งานที่ยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม การออกแบบที่ทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและราคาที่ต่ำกว่านั้นช่วยให้เกิดการยอมรับ ในเรื่องที่เครื่องของคู่แข่งมีประสิทธิภาพมากกว่าพร้อมกับหน้าจอที่ดียิ่งกว่า และแล็ปท็อปอื่นๆ ก็ยังมีคีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึก "กระฉับกระเฉง" มากกว่าด้วย

ความจริงแล้ว Surface Laptop 3 และ Dell XPS 13 นั้นไม่ได้หนักมาก นอกจากนี้พวกมันก็ยังให้ประสิทธิภาพและลูกเล่นอื่นๆ เพิ่มขึ้น ด้วยการแลกกับเงินสดที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการแล็ปท็อปที่มีน้ำหนักเบายิ่งกว่าปัจจัยอื่นๆ ในขณะที่มันก็ยังคงให้พลังการประมวลผลที่สมเหตุสมผล ดังนั้น เราคิดว่า Acer น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีในราคาที่เหมาะสม

Acer TravelMate X5 Specifications
Processor	1.8GHz Intel Core i7-8565U
Memory	8GB DDR4
Graphics	Intel UHD Graphics 620
Storage	512GB Western Digital PC SN520 SSD
Display	จอ IPS ขนาด 14 นิ้ว Resolution 1,920 x 1,080
Operating System	Windows 10 Home 64-bit
Connectivity	Dual-band 802.11ac WiFi, Bluetooth 5.0
Ports	2 x USB 3.0, 1 x DisplayPort/USB-C, HDMI, 1 x audio
Dimensions	329 x 228 x 15 มิลลิเมตร (WxDxH)
Weight	980 กรัม
Warranty	1ปี RTB

ที่มา: https://bit.ly/3l6n7Ib