4 แนวโน้มเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้น
4 แนวโน้มเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้น
เทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีสารสนเทศ (information technology, IT) กำลังรุดหน้าอย่างรวดเร็ว การพัฒนาล่าสุดผลักดันให้บริษัทมีความสามารถดังที่พวกเขาไม่เคยคิดว่าเป็นไปได้มาก่อน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บริษัทส่วนใหญ่วางแผนขยายงบประมาณด้านไอทีและเทคโนโลยีในปีถัดไป ตามรายงานของ Gartner บอกว่าการใช้จ่ายด้านไอทีทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ที่ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2017 แล้วเงินจะหลั่งไหลไปที่ไหนกัน? ในเรื่องแนวโน้มเทคโนโลยีและความท้าทาย องค์กรธุรกิจกำลังลงทุนในเทรนด์เทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นที่สุดในปีนี้
รายละเอียดต่อไปนี้ คือ 4 แนวโน้มเทคโนโลยีที่บริษัทของคุณควรลงทุนหรือพัฒนาเพื่อให้มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) & การประมวลผลข้อมูลอันชาญฉลาด (Cognitive Computing)
ปี 2017 จะวนเวียนอยู่กับเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) และการประมวลผลข้อมูลอันชาญฉลาด (Cognitive Computing) และรวมถึงเรื่องระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Machine Learning) อนาคตของเทคโนโลยีเป็นเรื่องเกี่ยวกับประสิทธิภาพและนั่นคือสิ่งที่ AI ขับเคลื่อนเทคโนโลยีและสิ่งที่ใช้สนองความต้องการ ด้วยความช่วยเหลือของระบบ Machine Learning นายจ้างจะต้องการพนักงานน้อยลง แต่ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงวิธีการแก้ปัญหาที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจที่ต้องการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้และพัฒนาระบบภายในที่มีความสามารถในการเรียนรู้จะต้องจ้างวิศวกรด้าน Machine Learning ผู้เชี่ยวชาญในบทบาทนี้คุ้นเคยกับการออกแบบและสร้างระบบหรือหุ่นยนต์ที่สามารถผสมผสานข้อมูลใหม่และตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมของตนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
เทคโนโลยีวีอาร์ (Virtual Reality) & เทคโนโลยีเออาร์ (Augmented Reality)
แนวโน้มด้านเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างหนึ่ง คือ VR และ AR คิดว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ยังคงอยู่ห่างออกไปอีกหลายปีจึงจะสมบูรณ์? ลองคิดดูอีกครั้ง คาดการณ์ว่าเทคโนโลยี AR (Augmented Reality, AR) และVR (Virtual Reality, VR) จะมีรายได้ถึง 150 พันล้านเหรียญภายในปี 2020 และเป็นมากกว่าเกมที่ทำให้เราได้รับความนิยม เป็นไปได้ว่าการใช้ประโยชน์ทั้ง VR และ AR จะมีราคาแพงเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามธุรกิจด้านนวัตกรรมเริ่มมองเห็นศักยภาพของเทคโนโลยีนี้เพื่อใช้งานทางธุรกิจ รวมถึงการใช้งานของผู้บริโภคด้วย
VR และ AR สามารถให้ธุรกิจใช้ในการปรับปรุง การฝึกอบรม เพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับความสามารถทางการตลาด ปรับปรุงการทำงานร่วมกันจากระยะไกล และให้ความสามารถในการเห็นภาพผลิตภัณฑ์ก่อนที่การผลิตจะเริ่มต้นขึ้น บุคลากรทั้ง VR Engineer, VR Developer, และ AR Engineer จะมีความต้องการสูงตลอดปี 2017 เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ เริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ VR / AR ของตนเองเพื่อใช้และบริโภคภายในองค์กร
Virtual Assistant
Virtual Assistant ได้รับแรงกระตุ้นที่จำเป็นมากในปี 2016 ขณะนี้ทุกคนคุ้นเคยกับผู้ช่วยเสมือนอยู่แล้วอย่างเช่น Apple Siri, Microsoft Cortana และ Amazon Alexa สิ่งที่คุณไม่รู้คือความสามารถของสิ่งเหล่านั้นกำลังขยายตัว ผู้ใช้ Apple ส่วนใหญ่อาจลืม Siri แต่ Apple ไม่ได้เป็นเช่นนั้น พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อปรับปรุงขีดความสามารถของผู้ช่วยเสมือนและเปิดให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์รายอื่น ๆ ใช้งาน ในทำนองเดียวกัน Microsoft และ Amazon ก็ทำงานหนักกับผลิตภัณฑ์ของตนเช่นกัน
เมื่อ AI บุกเข้าสู่ตลาดจะช่วยให้เทคโนโลยีอื่น ๆ มีความชาญฉลาดมากขึ้นเช่นกันรวมถึงผู้ช่วยเสมือนด้วย ในปีนี้เราจะได้รู้จักกับผู้ช่วยเสมือนอัจฉริยะ (Intelligent Virtual Assistants - IVA) อย่างเป็นทางการซึ่งสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เราเห็นในอดีต เมื่อความต้องการใช้เทคโนโลยีประเภทนี้เติบโตขึ้น มันน่าสนใจในทางธุรกิจเริ่มคิดนำไปใช้งาน เทคโนโลยี IVA จะกลายเป็นมาตรฐานต่อผู้บริหารสำนักงานด้านเทคโนโลยีระดับ C-level หรือไม่?
Adaptive Security Architecture
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) เป็นคำศัพท์ที่ใช้กันตลอดปี 2016 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมีการละเมิดข้อมูลจำนวนมหาศาลของบางองค์กรที่มีชื่อหรือความปลอดภัยสูงสุดระดับโลก อย่างเช่น รัฐบาลของสหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ Yahoo เรื่องนี้จะยังคงเป็นความกังวลหลักต่อธุรกิจเทคโนโลยีทั้งหมดเนื่องจากข้อมูลของพวกเขาเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดและมีช่องโหว่มากที่สุด อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกำลังเริ่มพัฒนาพื้นฐานของสิ่งที่เรียกว่าสถาปัตยกรรมความปลอดภัยแบบปรับตัว (Adaptive Security Architecture)
สถาปัตยกรรมความปลอดภัยแบบปรับตัว (Adaptive Security Architecture) จะทำคือ เปิดใช้งานอุปกรณ์ต่างๆที่นับเป็น IoT (Internet of things)ผ่านทาง AI เพื่อเรียนรู้ ปรับตัว และป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามได้ดีขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการหยุดทำงานหรือแฮ็ก นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่เพิ่มขึ้นซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์จะพัฒนาและใช้เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตใหม่ ๆ และที่กำลังเกิดขึ้น บุคลากรที่มีคุณสมบัติพร้อมทั้ง Cybersecurity Engineer, Information Security Analyst, และ Security Architect จะพัฒนาและใช้สถาปัตยกรรมด้านความปลอดภัยแบบปรับตัวให้กับบริษัทต่าง ๆ ในปีที่จะถึง เนื่องจากเทคโนโลยี AI ยังคงพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปีนี้ แนวโน้มด้านเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นที่สุดเกี่ยวข้องกับระบบ AI และ cognitive computing, VR และ AR, virtual assistant รวมทั้ง adaptive security architecture ธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่กำลังมองหานวัตกรรมใหม่ ๆ ในปีนี้จะต้องจัดซื้อจัดจ้างสำหรับเทรนด์นี้เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากทุกสิ่งที่การพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถตอบสนองความต้องการได้
ที่มา: https://www.mondo.com