Dell เปิดตัวแล็ปท็อปรุ่น Latitude และ Precision

Dell เปิดตัวแล็ปท็อปรุ่น Latitude และ Precision

เป็นการปรับแต่งมากกว่าการคิดค้นขึ้นใหม่ แต่การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่นั้นเป็นเรื่องที่ดี

วันนี้ Dell ได้ประกาศว่าบริษัทได้ทำการอัพเดตแล็ปท็อปหลายเครื่องในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Latitude และเวิร์กสเตชันแบบมืออาชีพอย่าง Precision พร้อมทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงทั้งการออกแบบ สเปค และการปรับปรุงอื่นๆบนแท็ปอีกด้วย

Dell ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในการเปิดตัวแล็ปท็อปรุ่นใหม่มากขึ้น โดยปรับมาใช้วัสดุรีไซเคิลและบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน แต่ส่วนใหญ่จะโฟกัสในเรื่องของเสเปคและวิวัฒนาการด้านการออกแบบขนาดเล็ก

ในสัปดาห์ที่แล้ว Dell ยังได้มีการประกาศการปรับปรุงที่คล้ายกันในแล็ปท็อปรุ่น XPS โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ XPS จะให้ความสำคัญในด้านการใช้งานที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นโดยเน้นในเรื่องของการสร้างเนื้อหา เพราะเครื่องจักรที่มีความแม่นยำนั้นล้วนเกี่ยวกับการสร้างเนื้อหาที่ดี อย่างไรก็ตามพวกมันก็มี workstation-class graphics และคุณสมบัติอื่นๆที่มุ่งเน้นไปที่การใช้งานในระดับมืออาชีพ

Dell Precision

แล็ปท็อปเวิร์กสเตชันที่มีความแม่นยำสูงได้รับการออกแบบมาสำหรับ "การประมวลผลกราฟิกระดับสูงที่มีความละเอียดมาก การวิเคราะห์ข้อมูลและการสร้างแบบจำลอง CAD" และด้วยการลดขนาดของขอบจอลงเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ Dell ได้อ้างว่า Precision 5550 และ 5750 นั้นเป็นเวิร์คสเตชั่นมือถือที่มีขนาดเล็กที่สุดในตลาด ณ ตอนนี้

เราจะไม่นำไปเปรียบเทียบกับแล็ปท็อปอื่นๆที่อยู๋ในระดับเดียวกัน แต่เครื่องอลูมิเนียมเหล่านี้ดูเหมือนจะได้รับการออกแบบมาอย่างดีมาก โดยทั้งสองรุ่นมีตราสินค้า "InfinityEdge" ของ Dell ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันกับที่ใช้ในรุ่น XPS ซึ่งนั่นหมายถึงว่ามันจะมีจอแสดงผลที่ใกล้เคียงกับจอแสดงผลแบบเต็มจอที่มีช่องว่างในแต่ละด้านเล็กที่สุด

แล็ปท็อปซีรีย์ Precision 5000 ที่ชาญฉลาดนั้นได้มาพร้อมกับซีพียู Intel รุ่นที่ 10 ตามที่ได้คาดไว้ด้วยตัวเลือก Core i5, Core i7, Core i9 และ Xeon (W-10855M) โดยมี core ตั้งแต่ 4 ไปจนถึง 8 ความเร็ว RAM 2933MHz และสามารถใช้ในการกำหนดค่าได้ตั้งแต่ 8, 16, 32 และ 64GB

Precision 5550 ยังได้นำเสนอทางเลือกกราฟิกเวิร์กสเตชันของ Nvidia Quadro T1000 และ T2000 (ทั้งคู่มีแรมการ์ดจอ GDDR6 4GB) โดย Precision 5750 ลดมาใช้ตัว Nvidia Quadrog T1000 แต่เพิ่มตัวเลือกอย่าง Nvidia Quadro RTX 3000 ที่มาพร้อมกับแรมการ์ดจอ GDDR6 6GB ทั้งสองตัวมีกราฟิก Intel UHD เช่นเดียวกับแล็ปท็อปในเครือเดียวกันอย่าง Dell XPS ซึ่งพวกมันสามารถกำหนดค่าด้วยหน้าจอได้แบบ 4K หรือ Full HD (ค่าความสว่างสูงสุด 500 nits) และมี Wi-Fi 6 และบลูทูธ 5.0 รวมถึงพอร์ต Thunderbolt 3 และ USB-C นอกจากนี้ Precision 5550 และ5750 ยังสามารถกำหนดค่าด้วยตัวเลือกการจัดเก็บ M.2 ได้หลากหลายตั้งแต่ 256GB ไปจนถึง 2TB

Dell Latitude

ในส่วนของ Dell Latitude จะไม่ได้เน้นไปที่ประสิทธิภาพระดับสูงมากนัก แต่จะเน้นไปที่การออกแบบและการพกพาที่สะดวกสบาย ซึ่งเราได้เห็นการพัฒานาและปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้มาแล้วในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา และนั่นหมายถึงมันมีการเปลี่ยนแปลงมามากมาย ดังนั้นเราจะไม่พูดถึงพวกมันทั้งหมดในที่นี่ (คุณสามารถค้นหาข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของพวกมันทั้งหมดได้ในเว็บไซต์ของ Dell)

Dell Latitude ระดับสูงที่มีความโดดเด่น คือ Latitude 9410 และ 9510 ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 14 และ 15 นิ้ว ที่ใช้การออกแบบที่เรียบง่าย แต่จอแสดงผลมีความคมชัดได้เพียง 1080p เท่านั้น ไม่ใช่ 4K RAM สูงสุด 2133Mhz 16GB ซีพียู Core i7 SSD และตัวเลือกแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างมีขนาดใหญ่ และอย่างที่คาดไว้ในแล็ปท็อปสำหรับนักธุรกิจ แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานถือเป็นเรื่องสำคัญ Dell ได้อ้างถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้ยาวนานถึง 34 ชั่วโมงจากตัวเลือกแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดใน Latitude 9510 นอกจากนี้เหล่านักเดินทางยังกล่าวว่าแล็ปท็อปเหล่านี้มีตัวเลือกบรอดแบนด์มือถือ LTE จาก Qualcomm รวมไปถึงจาก Wi-Fi 6 ในขณะที่ Latitude 9510 เสนอบรอดแบนด์มือถือ 5G และ Latitude 9410 ถูกจำกัดไว้ที่ 4G

Latitude 9510 มีน้ำหนัก 3.1 ปอนด์และมาพร้อมกับไมโครโฟนที่ Dell ตั้งใจให้การประชุมทางวิดีโอเป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยไมโครโฟนมีทั้งแบบ 2-in-1 และแบบคลาสสิก ซึ่งแบบ 2-in-1 จะมีน้ำหนักมากกว่าแบบคลาสิคอยู่ 3.3 ปอนด์ Latitude 9410 เป็นแบบเปิดได้ 360 องศา ซึ่งมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึง 27 ชั่วโมงและน้ำหนักพกพาเพียง 3 ปอนด์

เป็นที่น่าสังเกตว่าแล็ปท็อป Latitude รุ่น 7310 และ 7410 ที่มีการปรับลดลงเล็กน้อยนั้นได้ย้ายไปใช้แบบฝังแรมแทน ซึ่งมันไม่ใช่ข่าวที่ดีนักสำหรับผู้จัดการฝ่ายไอทีที่ต้องการอัพเกรดแล็ปท็อปของผู้ใช้ทางธุรกิจอยู่เรื่อยๆ

Dell ยังได้มีการปรับปรุงแลปท็อปรุ่นอื่นๆอีกจำนวนมาก (นอกเหนือจากที่กล่าวถึงในนี้) ในสายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายสำหรับลูกค้าที่ใช้ในสายงานด้านธุรกิจ รวมถึงรุ่นด้านบนและเครื่องเดสก์ทอป OptiPlex และแลปท็อปแบบออลล์- อิน-วัน โดยในกรณีส่วนใหญ่เราจะดูรายละเอียดการรีเฟรชเป็นหลัก

ที่มา: https://bit.ly/2X9os6D