รีวิว Dell XPS 13 7390 (ปลายปี 2019) : การรีเฟรชที่แทบจะมองไม่เห็นความต่าง

แม้ว่าจะมีชิป Intel 10th GEN แต่มันก็แทบจะแยกไม่ออกเลยกับ XPS 13 ทั้งสองตัวที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

หลังจากที่ Dell ได้มุ่งมั่นเพื่อรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ XPS ของพวกเขา ก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับผู้ใช้ทางธุรกิจระดับ High-End หลังจากที่พวกเขาได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่น่าประทับใจนี้มาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็อาจจะมีกรณียกเว้นบ้าง สำหรับการรีเฟรชหนึ่งหรือสองครั้งที่ไม่ได้รับความนิยม

ด้วยระดับของความเสมอต้นเสมอปลายที่ว่านี้ จึงดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะได้รับการร้องขอให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเราได้ตั้งค่าความคาดหวังเอาไว้สูงพอสมควรเกี่ยวกับการรีเฟรชในรุ่นปลายปี 2019 ที่ผ่านมาของ Dell โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการรวมโปรเซสเซอร์ Intel Core i7 เจนเนอเรชั่นที่ 10 Comet Lake เข้าไปด้วย

แต่ยังคงมีคำถามอยู่ว่า จอแสดงผล 4K จะทำให้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่อยู่หรือไม่ และรุ่นต่างๆ เหล่านั้นมันจะมีความแตกต่างกันมากพอหรือไม่ ซึ่งในตอนนี้ก็มีตั้งแต่ XPS 13 รุ่นที่มีราคาถูกที่ออกมาเมื่อต้นปี 2019 ไปจนถึงรุ่นที่มีใบสําคัญแสดงสิทธิ และอย่างที่คาดการณ์กันไว้อย่างกว้างขวางในส่วนของ XPS 13 ปี 2020 ที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2020 นี้

รีวิว Dell XPS 13 7390 (รุ่นปลายปี 2019) : การออกแบบ

ประเด็นหลักของการปรับแต่งที่ทำขึ้นระหว่าง XPS 13 รุ่นต่างๆ ที่ต่อเนื่องกันมานั้นแคบลงเรื่อยๆ และการรีเฟรชเมื่อปลายปี 2019 นั้นก็แทบจะแยกกันไม่ออกจากรุ่นที่เป็นบรรพบุรุษของพวกมันด้วยซ้ำไป

การเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องเลวร้าย และโครงสร้างที่ทำจากอลูมิเนียมที่เน้นความเพรียวบาง หรูหราของ XPS 13 นั้น ก็ยังเหมือนกันกับมาตรฐานการออกแบบของ Dell ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งตัวเลือกของสีและพื้นผิวอย่าง "Frost" และ "Rose Gold" ของพวกเขาก็ได้กลับมาอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะเหมาะสมไปกว่าการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างแพลตตินัมสีเงินและสีเทาเข้มที่ได้รับอนุญาตจาก Dell ในการแกะสัญลักษณ์ XPS ที่ใต้ฐานของตัวเครื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีเอกลักษณ์ระดับมืออาชีพและความมีสไตล์ ในระดับที่เท่าเทียมกัน

ด้วยขนาดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และที่มากไปกว่านั้นก็คือ XPS 13 ยังมีกรอบที่บางเฉียบ ซึ่งมันก็ยังถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คที่ดูโฉบเฉี่ยวที่สุดในตลาดอีกด้วย ยกตัวอย่าง เช่น การที่มันสามารถพกพาได้สะดวกกว่า MacBook Pro ขนาด 13 นิ้ว และน้ำหนัก 1.23 กก. ที่เบากว่าของมัน เมื่อเทียบกับน้ำหนัก 1.37 กก. ของ MacBook Pro

แม้ว่าเว็บแคมของพวกเขาจะยังคงอยู่ที่ด้านบนขอบจอแสดงผลที่แทบจะมองไม่เห็นกรอบ แต่น่าเสียดายที่ Dell เองก็ยังไม่ได้นำระบบการจดจำใบหน้า (Facial Recognition System) กลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งสิ่งนี้ก็คือการเสียสละ เมื่อตำแหน่งที่แปลกประหลาดของกล้องซึ่งแต่เดิมนั้นมันเคยถูกติดตั้งไว้ที่ส่วนล่างของพาเนลมาก่อน แล้วมันก็ได้รับการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ความจริงแล้วการละเลยการสนับสนุนทางไบโอเมตริกซ์ (Biometric) ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง นอกจากนี้ XPS 13 รุ่นปลายปี 2019 ก็ยังขาดเครื่องสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ซึ่งโดยปกติแล้วมันมักจะถูกรวมไว้ที่ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง

รีวิว Dell XPS 13 7390 (รุ่นปลายปี 2019) : จอแสดงผล

เป็นอีกครั้ง ที่ Dell ออกแบบให้เครื่องของพวกเขามีหน้าจอสัมผัสที่คมชัดและมันวาวสำหรับ XPS 13.3 นิ้ว ที่มีความละเอียดของจอภาพแบบ 4K Ultra HD ก็ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยอุปกรณ์ดังกล่าวก็ยังมีให้เลือกทั้งระบบ Touch และ Non Touch รวมถึงความละเอียดในการแสดงผลที่ 1080p

ขณะเดียวกัน แผง IPS ที่มีความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล ที่นำมาร่วมรีวิวในครั้งนี้ก็ยังทำให้เรารู้สึกประทับใจได้อีกเช่นเคย แต่เราขอแนะนำให้เลือกใช้หน่วยความละเอียดที่ต่ำลงอีกหนึ่งระดับเพื่อรักษาสมดุล เนื่องจากแนวโน้มการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ของจอแสดงผล 4K ที่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน ที่กล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่า มันเป็นหน้าจอที่มีค่า Refresh Rate ที่ 60Hz พร้อมค่าความละเอียด 331 PPI รวมอยู่ด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่นและคมชัดนั่นเอง

มันเป็นจอแสดงผลที่สามารถแสดงสีได้ 92.2% สำหรับมาตรฐาน sRGB ในการทดสอบการแสดงผลของเรา ซึ่งก็จัดว่าเป็นค่าที่ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับจอแสดงผลที่แสดงสีได้ 95% ที่ได้จากจอแสดงผลที่มีความละเอียดระดับ1080p ในรุ่นก่อนหน้านี้ของพวกเขา ผลที่เกิดขึ้นก็คือ มันให้ภาพที่ดูมีชีวิตชีวาแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่พิเศษ และมันก็ได้รับการเติมเต็มอย่างเหมาะเจาะด้วยตัวเลข Contrast Ratio ที่ 1563:1 และให้ค่าความสว่างสูงสุดที่ 433 cd/m2 ควบคู่ไปกับสีที่แม่นยำ อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ก็มักจะถูกทำลาย เพราะความคมชัดแบบไดนามิก (Dynamic Contrast) ของ Dell นั้นสามารถถูกปิดได้ด้วยการตั้งค่า BIOS

ในส่วนของ XPS 13 นั้น ก็ต้องการนำเสนอตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้งานที่จะนำไปทำงานเกี่ยวกับสี (Color) แต่มันก็ยังไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้ว่าดีที่สุด แต่ในขณะเดียวกันมันก็ยังดูสดใสกว่าSurface Laptop 3 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งอุปกรณ์ของ Microsoft รุ่นดังกล่าวสามารถบันทึกค่าความสว่างได้สูงสุดที่ 364cd/m2 นอกจากนี้มันก็ยังแสดงขอบเขตสีของ sRGB ได้ครอบคลุมถึง 97.5%

รีวิว Dell XPS 13 7390 (รุ่นปลายปี 2019) : แป้นพิมพ์และทัชแพด

แป้นพิมพ์ 83 ปุ่ม ที่มีแสงออกมาจากด้านหลังแป้นอักษรแต่ละตัว (Backlit Keyboard) ที่ติดตั้งใน XPS 13 นั้นจะช่วยให้คุณมีความสุขกับการใช้งาน นอกจากนี้แป้นพิมพ์แบบ Rubber Dome ที่มีรูปแบบของปุ่มกดแบบ Chiclet style ก็ยังช่วยให้การกดของแป้นพิมพ์สปริงตัวได้ดีและมั่นคง ในขณะเดียวกันก็ยังมอบประสบการณ์การพิมพ์ที่ลื่นไหลให้กับผู้ใช้ได้ด้วยเช่นกัน ที่สำคัญ Touchpad ที่มีพื้นผิวเป็นกระจกเคลือบก็ยังใช้งานได้ดีแบบไร้ที่ติเช่นเคย

อย่างไรก็ตาม เราก็ยังพบกับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง เช่น การวางตำแหน่งของปุ่ม PgUp และ PgDn ที่โดยปกติแล้วมันจะถูกติดตั้งไว้ที่เหนือปุ่มลูกศรซ้ายและขวา แต่มันกลับมีความสูงเพียงครึ่งเดียว นั่นจึงนำไปสู่การแตะที่ผิดพลาดบ่อยครั้ง นอกจากนี้ ปุ่มกดทั้งหมดและที่วางฝ่ามือที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ก็ยังง่ายต่อการทิ้งร่องรอยและคราบสกปรก ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องเช็ดทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

รีวิว Dell XPS 13 7390 (รุ่นปลายปี 2019) : รายละเอียดและประสิทธิภาพ

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม XPS 13 ส่วนใหญ่มักจะมีชื่อเสียงมาอย่างต่อเนื่องในฐานะที่เป็นโรงไฟฟ้าแบบพกพา ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งคุณสมบัติที่ได้รับการรีเฟรชในช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมานั้นได้แก่ ชิป Intel Core i7-10510U แบบ Quad-Core โดยมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาพื้นฐานที่ 1.8GHz รองรับ RAM ได้สูงสุด 16GB นอกเหนือไปจาก SSD ขนาด 512GB ของมัน

การรวมชิป Intel Gen 10 เข้าไปใน Dell XPS 13 7390 นั้นเป็นเพียงปัจจัยที่สร้างความแตกต่างจากรุ่นก่อน ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นเรื่องน่าผิดหวัง เพราะมันทำคะแนนได้ 97 คะแนน ในการทดสอบประสิทธิภาพของเรา เมื่อเทียบกับอุปกรณ์หลักที่ติดตั้ง Intel Core i7-8565U ของ XPS 13 รุ่นต้นปี 2019 และที่มากไปกว่านั้นรุ่นต้นปี 2019 ก็ยังมีหน่วยความจำเพียง 8GB เท่านั้นเอง

ผลลัพธ์เหล่านี้ก็ยังสะท้อนให้เห็นในการทดสอบ Geekbench 4 ของเราด้วยเช่นกัน เพราะ XPS 13 รุ่นปลายปีนั้นทำได้ 5155 คะแนน สำหรับโปรแกรมแบบ Single Thread และสร้างผลลัพธ์ที่ 15374 คะแนน สำหรับโปรแกรมแบบMultithread

สำหรับการเปรียบเทียบกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ติดตั้งชิป Intel i7 Gen 10 นั้นเป็นเรื่องยาก เพราะมีเพียงไม่รายที่เปิดเผยในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม Surface Laptop 3 ขนาดจอ 13.5 นิ้ว ที่มาพร้อมกับ Intel core i7-1065G7 ก็ทำให้เครื่องของ Dell ตกรอบไปด้วยคะแนน 104 คะแนน ในขณะเดียวกัน MacBook Pro ขนาด 13 นิ้ว ก็สามารถทำคะแนนได้เหนือกว่า XPS 13 อยู่มาก เพราะมันสามารถทำคะแนนได้ถึง 150 คะแนน จากเกณฑ์มาตรฐานของเรา

รีวิว Dell XPS 13 7390 (รุ่นปลายปี 2019) : แบตเตอรี่

หนึ่งในข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดของโน้ตบุ๊กที่ติดตั้งจอแสดงผล 4K ก็คือ สิ่งนี้อาจทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ (Battery Life) สั้นลง สำหรับ XPS 13 รุ่นก่อนหน้านี้ที่แม้ว่าจะติดตั้งจอแสดงผล 1080p ก็ยังใช้แบตเตอรี่ได้เป็นระยะเวลา 10 ชั่วโมง 35 นาที ในการทดสอบแบตเตอรี่ของเรา และมันก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่การรีเฟรชของ 7390 ที่มีหน้าจอ 1080p แบบเดิม จะมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่แตกต่างไปจากเดิม

อย่างไรก็ตามเพียงแค่ทำงานเต็มวัน XPS 13 รุ่นปลายปีที่ติดตั้งด้วยจอ 4K ก็ให้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับตัวเอง ด้วยอายุการใช้งานที่ 7 ชั่วโมง 22 นาที แต่ก็จัดว่าทำเวลาได้ไม่ดีนักเมื่อเทียบกันตามมาตรฐานปกติของ Dell โดยสิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนระหว่างคุณภาพการแสดงผลและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ (Battery Life) ที่ยังคงเป็นเช่นเดิม

จากการเปรียบเทียบ XPS 13 รุ่นปลายปี 2019 ที่มีระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ที่สั้นกว่า 7 ชั่วโมง 37 นาที เพียงเล็กน้อย ที่บันทึกได้จาก Lenovo Thinkpad x390 และมันก็ยังใช้ได้ในช่วงเวลาที่สั้นกว่า 8 ชั่วโมง 48 นาที ของ Surface Laptop 3 อย่างไรก็ตามทั้งสองรุ่นที่กล่าวมาข้างต้นนั้น มาพร้อมกับจอแสดงผล 4K เช่นเดียวกัน

รีวิว Dell XPS 13 7390 (ปลาย 2019) : พอร์ตและฟีเจอร์ต่างๆ

ฟีเจอร์ที่สำคัญใน XPS 13 นั่นก็คือพอร์ต USB-C จำนวนสองพอร์ตที่รองรับ Thunderbolt 3 ซึ่งมีอยู่ที่ด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง และพอร์ต USB 3.1 Gen 2 (Type-C) ที่อยู่ทางด้านขวามือ ที่อยู่ระหว่างแจ็ค 3.5 มม. และช่องเสียบ MicroSD

จะว่าไปแล้วมันก็จัดว่าเป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นที่ยอดเยี่ยม แต่การที่มันไม่มีพอร์ต USB-A นั้นเป็นเรื่องที่เราไม่เห็นด้วย เพราะอุปกรณ์สำนักงานทั่วไปและ External Device เกือบทุกชนิดก็ยังคงต้องใช้พอร์ต USB-A นอกจากนี้ XPS 13 ก็ยังมาพร้อมกับอะแดปเตอร์ เพราะฉะนั้นอย่าลืมมันไว้ที่บ้านอย่างเด็ดขาด

โดยทั่วไปแล้วระบบการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) ก็ยังคงถูกตัดออกไป รวมทั้ง XPS 13 ก็ยังทิ้งเครื่องสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ถูกฝังไว้ในปุ่มเพาเวอร์โดยที่เราก็คาดไม่ถึง เช่นกัน ดังนั้นการรับรองความถูกต้องทางไบโอเมตริกซ์ (Biometric Authentication) ผ่าน Windows Hello จึงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งผู้ใช้จะต้องใช้รหัสผ่าน (Passwords) หรือรหัสลับ (PIN) แบบทั่วไป เพื่อความปลอดภัยในการเข้าสู่ระบบ

รีวิว Dell XPS 13 7390 (ปลาย 2019) : ข้อสรุป

การที่จะระบุว่า Dell XPS 13 รุ่นปลายปี 2019 ทำให้เราผิดหวังนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดูจะโหดร้ายมากเกินไป เพราะมันก็ดีพอๆ กับรุ่นที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ (ถ้าตัดในเรื่องที่มันไม่รองรับการยืนยันความถูกต้องแบบไบโอเมตริกซ์) แต่นั่นก็คือสิ่งที่เราทุกคนจะได้รับจากเครื่องรุ่นนี้

XPS 13 7390 นั้น มีความสามารถในหลายๆ ด้าน ซึ่งก็รวมถึงจอแสดงผลที่มีประสิทธิภาพ และแน่นอนว่าจะต้องรวมถึงการออกแบบของมันด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถแนะนำให้ซื้อรุ่นนี้ได้แบบเจาะจง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความสมเหตุสมผลของมันที่มีการรวมซีพียู Intel เจนเนอเรชั่น 10 เข้าไปด้วย แต่ก็แทบจะไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพของมันดีไปกว่ารุ่นที่วางจำหน่ายเมื่อต้นปี2019 ที่ติดตั้งด้วยชิปเจนเนอเรชั่น 8 แต่อย่างใด

แม้ว่า Dell XPS รุ่นปลายปี 2019 จะมีความโดดเด่นในแบบของมันเอง แต่ก็อาจจะดีกว่าถ้าผู้ใช้จะเลือกเป็นรุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้ของมัน หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้นก็ให้อดทนรอ XPS 13 รุ่นปี 2020 ที่Dell ให้ข้อมูลว่าจะเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการออกแบบเป็นสำคัญ นอกเหนือไปจากฮาร์ดแวร์ที่จะทำออกมาให้น่าประทับใจมากยิ่งขึ้น