Please wait...
IT UPDATE COMMERCIAL
รีวิว Microsoft Surface Pro 7

รีวิว Microsoft Surface Pro 7: ความรุ่งโรจน์ที่แผ่วลง ในยุคสงครามดิจิตอล

 

Surface Pro รุ่นใหม่ล่าสุดที่จัดว่าดีเยี่ยม แต่ทว่า...มันอาจจะไม่ได้ยอดเยี่ยมอย่างที่เคยเป็นมา

Surface Pro 7 นั้นอยู่ในตำแหน่งที่ใครก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันต้องแบกรับความคาดหวังอันแสนหนักหน่วงไว้บนบ่า เพราะไม่เพียงแต่จะต้องทำให้ผลิตภัณฑ์ในตระกูล Surface Pro กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง หลังจากผลงานของปีที่ผ่านมาทำออกมาได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง แต่พวกเขาก็ยังคงยืนหยัดที่จะให้การสนับสนุนหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Ice Lake ที่มาพร้อมกับกระบวนการผลิตระดับ 10 nm ของ Intel ซึ่ง Surface Pro 7 ก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์หลักอันดับต้นๆ ที่พวกเขาดำเนินการ
 
ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ มันยังเป็นการป้องกันตัวเองจากการแข่งขันกับ Apple ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง รวมถึงกองกำลังของผู้แข่งขันรายอื่น ๆ
 

รีวิว Microsoft Surface Pro 7 : การออกแบบ

Microsoft พิสูจน์ให้เห็นถึงวิธีการค้นหาสูตรแห่งชัยชนะ (Winning Formula) ด้วยการออกแบบของผลิตภัณฑ์ในตระกูล Surface Pro และมันก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่ง Surface Pro 7 ก็ไม่ได้ทำลายธรรมเนียมนี้แต่อย่างใด แต่อาจจะมีใครบางคนที่ลุกขึ้นมาคัดค้านเพื่อที่จะบอกว่าอุปกรณ์นี้แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ โดยดูจากลักษณะภายนอกเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีอยู่อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้มันแตกต่าง นั่นก็คือพอร์ตที่สามารถใช้นำมาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งเราจะพูดถึงเพิ่มเติมในภายหลัง แต่นอกเหนือจากนั้นมันก็ยังคงมีระนาบที่ราบเรียบและเหลี่ยมมุมคมชัด ที่เป็นไปตามนิยามของ Surface Pro ที่สืบต่อกันมานานหลายปี
 
ความจริงแล้ว มันเหมือนกันมากจนเกินไปในแง่ของขนาดและน้ำหนัก ด้วยความหนาขนาด 8.3 มม. น้ำหนัก 775 กรัม (หรือ 790 กรัม สำหรับรุ่น Core i7)  ซึ่งก็ฟังดูดี ทั้งยังมีน้ำหนักที่เบา แต่อย่าลืมว่าที่กล่าวมานี้เป็นน้ำหนักที่ยังไม่ได้คิดรวมกับแป้นพิมพ์ Type Cover ซึ่งเมื่อนำมาประกอบเข้าด้วยกันแล้วมันก็จะมีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม และมีความหนาประมาณ 13 มม. แน่นอนว่าลักษณะภายนอกของมันนั้นมันดูเหมือนจะไม่หนามาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะมีน้ำหนักที่เบาอย่างที่เห็น
 
แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีเสียงพร่ำบ่นถึงขนาดที่ค่อนข้างเล็กของมัน ซึ่งหลังจากพิจารณาในแง่มุมต่างๆ แล้ว Surface Pro 7 ก็ยังคงเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ 2-in-1 ที่มีการออกแบบที่ดีที่สุดในตลาด นั่นเป็นเพราะรูปทรงที่ทันสมัย โดดเด่นและดูเป็นมืออาชีพ นอกจากนี้ มันยังสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก โดยที่ไม่ทำให้ความน่าเชื่อถือหรือฟังก์ชั่นการใช้งานใดๆ ลดลง
 

รีวิว Microsoft Surface Pro 7 : จอแสดงผล

คงไม่มีอะไรที่จะต้องพูดมาก สำหรับหน้าจอของ Pro 7 เพราะมันก็ยังคงเป็นพาเนล (Panel) ขนาด 12.3 นิ้ว ที่มีความละเอียด 2,736 x 1,824 พิกเซล ดังนั้น จึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนักในทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นกับ Surface Pro 6 และจอแสดงผลดังกล่าวก็ยังสามารถทำคะแนนได้แย่กว่ารุ่นก่อนๆ ของพวกเขา ซึ่งปัญหาที่ว่านี้เกี่ยวข้องกับคุณภาพทางสายตา (Visual Quality)
 
ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะได้มีการแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าขอบเขตสีในมาตรฐาน sRGB ที่ครอบคลุม 92% นั้น จะไม่สามารถเทียบได้กับ Surface Pro 2017 ที่หรูหรา แต่มันก็ยังมีพัฒนาการที่ดีกว่ามาตรฐาน sRGB 88% ซึ่งเป็นค่าที่เคยทำได้บน Surface Pro 6
 
ตามปกติแล้วจอแสดงผลจะถูกตั้งค่าให้เป็น "Enhanced Mode" ซึ่งเป็นความพยายามในการเลียนแบบขอบเขตสีตามมาตรฐาน DCI-P3 แต่เราก็ได้ทำการปิดสวิตช์นี้ในทันที ซึ่งมันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ แต่โดยทั่วไปแล้ว มันเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการแก้ไขสื่อ แม้ว่าเราจะสังเกตเห็นปัญหาบางอย่างเป็นระยะๆ ซึ่งส่งผลให้ความคมชัดลดลงในทันที ไม่อย่างนั้นแล้วทุกชิ้นส่วนของมันก็จะดีพร้อม เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เราคาดหวังว่าจะได้จากผลิตภัณฑ์ในตระกูล Surface
 

รีวิว Microsoft Surface Pro 7 : คีย์บอร์ดและแทร็กแพด

ขอย้ำอีกครั้งว่า เรามีเรื่องที่จะพูดถึงน้อยมากในส่วนนี้ และที่เราไม่ได้พูดเกี่ยวกับอุปกรณ์ TypeCover และ Surface Pen ของ Surface Pro 6 นั้นก็เนื่องจากว่าพวกมันไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงเป็นพิเศษ ซึ่งอุปกรณ์ทั้งสองอย่างก็ยังคงให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม โดยปากกาที่ว่านี้ เราพบว่ามันมีความไวเป็นพิเศษต่องานกราฟิกที่มีรายละเอียด และในส่วนของแป้นพิมพ์ ที่มีระยะTravel Distance ที่ 1.3 มิลลิเมตร ก็ให้ประสบการณ์การพิมพ์ที่น่าพึงพอใจที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ในอุปกรณ์ 2-in-1
 
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เห็นได้ชัดที่สุดในตอนนี้ก็คือ ปากกาและ TypeCover ที่มีสีให้เลือกเพิ่มเติมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Poppy Red, Ice Blue หรือแม้แต่ Light Charcoal แน่นอนว่าอุปกรณ์เสริมสีแดงใหม่นี้ก็ดูสะดุดตาเป็นพิเศษ และสีทั้งหมดที่ว่ามานี้ก็ยังสามารถเข้ากันได้กับอุปกรณ์ Surface รุ่นก่อนๆ ได้เป็นอย่างดี
 

รีวิว Microsoft Surface Pro 7 : รายละเอียดต่างๆ และประสิทธิภาพการทำงาน

องค์ประกอบต่างๆ เช่นแป้นพิมพ์, TypeCover และจอแสดงผล อาจจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่ที่มีการปรับปรุงกันจริงๆ ก็น่าจะเป็นส่วนที่อยู่ภายในตัวเครื่อง โดยในส่วนของ Surface Pro 7 นั้น จะเป็นการขับเคลื่อนการทำงานด้วยโปรเซสเซอร์ Ice Lake รุ่นใหม่ล่าสุดของ Intel ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มแรกๆ ที่สร้างขึ้นด้วยกระบวนการผลิตระดับ 10 นาโนเมตร ของ Intel
 
นอกจากนี้ Pro 7 ก็ยังมาพร้อมกับชิป Core i3, Core i5 หรือ Core i7 ซึ่งเราเองก็คาดหวังว่าการมาถึงของเทคโนโลยีการผลิตแบบ 10nm ของ Intel ที่รอคอยมานานนั้นจะช่วยมอบประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น รวมทั้งน่าจะเป็นตัวช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น หรืออาจจะทั้งสองอย่าง แต่น่าเสียดายที่เราต้องผิดหวังกับเรื่องทั้งหมดนี้
 
นอกเหนือจาก RAM ขนาด 16GB และ SSD ขนาด 256GB แล้ว อุปกรณ์ที่นำมาใช้ในการตรวจสอบของเราก็ยังได้รับการติดตั้งด้วย Intel Core i7-1065G7 แบบ Quad-core ซึ่งก็ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่ทรงพลังที่สุด อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีสิ่งนี้ แต่คะแนนโดยรวมจากการทดสอบเกณฑ์มาตรฐานของเรานั้น มันทำได้เพียง 68 คะแนน นั่นจึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของมันที่แทบจะไม่แตกต่างไปจาก Surface Pro 6 ที่ติดตั้งด้วย Intel Core i5 เลย และในความเป็นจริง Surface Pro 7 ใหม่นี้ก็ยังมีประสิทธิภาพการทำงานที่น้อยกว่ารุ่นปี 2017 ถึง 15% ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก
 
ที่กล่าวเช่นนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเครื่องทำงานช้า แต่แท้จริงแล้วประสิทธิภาพที่ว่านี้ มันจะต้องทำได้มากกว่าความสามารถที่จะช่วยให้คุณผ่านวันทำงานไปได้ และมันก็ต้องมีความซับซ้อนพอที่จะรับมือกับทั้งแอพพลิเคชั่นแบบมัลติทาสกิ้ง (Multitasking) และมัลติเธรด (Multi-Threaded) ที่เข้มข้นได้ ซึ่งนอกจากการ์ดจอออนบอร์ด (Integrated Graphics) "Iris Plus" ของ Ice Lake แล้ว ยังหมายความว่ามันจะต้องสามารถทำงานร่วมกับวิดีโอและสื่อต่างๆ ได้มากกว่าที่เคยทำมา
 

รีวิว Microsoft Surface Pro 7 : แบตเตอรี่

เราต่างก็ต้องการที่จะเห็นประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ในกรณีที่ Microsoft สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและเค้นเอาพลังงานออกมาจากแบตเตอรี่ได้มากขึ้น แต่เท่าที่เห็นพวกเขาก็ยังไม่ได้มีการจัดการอะไรในส่วนนี้
 
จากการทดสอบของเรานั้นพบว่า Surface Pro 7 เปิดใช้งานอย่างต่อเนื่องได้นาน 7 ชั่วโมง 20 นาที ซึ่งก็ถือว่ายังทำได้ไม่ดีเท่ากับโน้ตบุคประเภท Ultraportable อื่น ๆ ที่เราได้ทำการทดสอบในปีนี้ ยกตัวอย่างเช่น Huawei MateBook X Pro ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง 14 นาที และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ มันทำเวลาได้น้อยกว่า Surface Pro 6 ถึงครึ่งชั่วโมง แม้ว่ามันจะมีชิปที่มีประสิทธิภาพมากกว่าก็ตาม และนี่ก็เป็นเรื่องที่น่ารำคาญเป็นอย่างมากด้วยเหตุผลที่ว่า แต่เดิมนั้นประสิทธิภาพของ Surface Pro เองก็ดีพอๆ กับที่มันจำเป็นจะต้องมีอยู่แล้ว แต่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของมันนั้นกลับไม่ดีเท่ากับคู่แข่งหลักของพวกเขา อย่าง iPad Pro และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าประสิทธิภาพของมันจะยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม
 
ในส่วนของ Microsoft เองนั้นก็ได้เพิ่มขีดความสามารถในการชาร์จอย่างรวดเร็ว (Fast-Charging) ลงใน Surface Pro 7 ด้วย ซึ่งพวกเขาก็ให้การรับรองว่ามันจะสามารถชาร์จพลังงานได้มากถึง 80% หลังจากที่ใช้เวลาชาร์จไปแล้วหนึ่งชั่วโมง และจากการรวมเข้าด้วยกันกับ USB-C มันก็ยังสามารถชาร์จพลังงานได้ ในขณะที่มีการเชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายนอกได้อีกด้วย
 

รีวิว Microsoft Surface Pro 7 : พอร์ตและคุณสมบัติอื่นๆ

ในที่สุด Microsoft ก็ได้เข้าร่วมกับพวกเราที่เหลือในโลกสมัยใหม่ด้วยการเพิ่มพอร์ต USB-C ลงในอุปกรณ์ 2-in-1รุ่นยอดนิยมของพวกเขาซะที ใช่แล้วคุณอ่านไม่ผิดแน่ๆ แต่จะต้องเรียนให้ทราบก่อนว่ามันไม่รองรับ Thunderbolt-3 ซึ่งก็หมายความว่าความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลก็อาจจะช้าลงบ้างเล็กน้อย แต่คุณจะยังคงได้รับในส่วนของพลังการประมวลผล, ข้อมูลและจอแสดงผล เช่นเดิม
 
นับเป็นอีกเรื่องที่น่ายินดี เพราะพอร์ต USB-A ก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอะแดปเตอร์ที่มีไว้สำหรับการเสียบอุปกรณ์ต่อพ่วง ซึ่งในส่วนของพอร์ต Mini DisplayPort นั้นก็ได้ถูกยกเลิกไป แต่ ณ จุดนี้ มันก็คงเป็นการสูญเสียที่แทบจะไม่มีผลอะไรมากนัก
 
นอกจากนี้ Surface ใหม่ก็ยังเข้ากันได้กับไมโครโฟนที่เป็น Studio Mics ใหม่เอี่ยมในระบบ Far-Field ซึ่งทาง Microsoft ก็ได้กล่าวไว้ว่า มันได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการประชุมหรือพูดคุยผ่านทางวิดีโอ (Video Conference), การจับ (Pickup Pattern) และแยกรูปแบบเสียง (Isolate Vocal Pattern) ขณะเดียวกันก็ยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกให้เหลือน้อยที่สุด โดยฟีเจอร์ทั่วๆ ไปที่คาดหวังก็ยังมีอยู่ ซึ่งก็รวมถึงการสนับสนุน Windows Hello, Surface Pen และ Surface Dial ตลอดจนการรองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 ที่รองรับมาตรฐาน 802.11ax
 

รีวิว Microsoft Surface Pro 7 : คำตัดสิน

หลังจากที่ได้ใช้เวลากับ Surface Pro 7 ไปสักระยะ เราพบว่าตัวเองมีความรู้สึกที่ค่อนข้างขัดแย้งกัน ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะผลลัพธ์ทางเทคนิคของมันที่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกประทับใจอย่างที่เราคาดหวังไว้ เนื่องจากชิป Ice Lake ใหม่นั้น แทบจะไม่ได้รับการจัดการเพื่อให้เข้ากันกับ Core i5 ที่มาจาก Surface Pro 6 ของปีก่อนๆ และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ (Battery Life) ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ ด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากกราฟิกที่เพิ่มขึ้นและนำไปสู่ชิปกราฟิกใหม่นั้น เราพบว่ามันก็ยังมีการปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ จากรุ่นปี 2017 ในแง่ของ Raw Performance
 
ซึ่งในทางกลับกัน โมเดลของปี 2017 นั้น เป็นอุปกรณ์ที่น่าประทับใจอย่างเหลือเชื่อ และข้อร้องเรียนหลักที่เรามีกับทั้งคู่และรุ่นก่อนๆ นั่นก็คือ การขาดการสนับสนุน USB-C ดังนั้น ก็ได้รับการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น คุณคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญใช่หรือไม่ ที่เราไม่ได้เห็นความก้าวหน้าในด้านอื่นๆ?
 
คำตอบสั้น ๆ ก็คือใช่! มันเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ Apple ก็สร้างความก้าวหน้าอย่างมากในการทำให้ iPad เป็นมิตรกับธุรกิจต่างๆ มากขึ้น ด้วยสิ่งเหล่านี้ เช่น iPadOS, File Browser และ Desktop-Style Dock ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถเรียกใช้แอพพลิเคชั่นทางธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบก็ตาม แต่มันก็ยังสามารถจัดการกับแอพพลิเคชั่น SaaS (Software as a Service) ได้เช่นเดียวกับแชมป์ ดังนั้น ในกรณีที่คุณต้องการใช้งาน Windows ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลในเรื่องของความเข้ากันได้หรือความคุ้นเคยก็ตาม เราคิดว่ายังมีอุปกรณ์ทางเลือกอีกมากมายที่มีความสามารถทัดเทียมกับ Surface Pro 7 ทั้งในเรื่องของราคาและประสิทธิภาพ ถ้าคุณไม่ได้มุ่งเน้นแค่ในเรื่องของรูปลักษณ์หรือคุณสมบัติของซอฟต์แวร์
 
อย่างไรก็ตาม จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะเห็นว่า Surface Pro รุ่นล่าสุดก็ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่โดดเด่น ไม่ว่าจะด้วยประสิทธิภาพที่มีมากจนเกินพอของมัน, ฟอร์มแฟคเตอร์ที่น่าสนใจ และมันก็ยังเป็นตู้โชว์ที่ดีที่สุดสำหรับการแสดงพลังที่ซ่อนอยู่ของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 เมื่อมาถึงตรงนี้เราต้องยอมรับว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยม แต่มันอาจจะไม่ได้ดูโดดเด่นมากไปกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ อย่างที่มันเคยเป็น


ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์