การสำรองข้อมูลแบบ cloud-to-cloud คืออะไร?

การสำรองข้อมูลแบบ C2C กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ว่ามันคืออะไรและมันจะช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไรหากมีกรณีที่เลวร้ายเกิดขึ้น?

ธุรกิจส่วนใหญ่เข้าใจถึงความสำคัญของการมีกลยุทธ์ในการสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสำหรับข้อมูล on-premises ของพวกเขา แต่เมื่อมีบริษัทจำนวนมากย้ายไปยังคลาวด์ ก็เริ่มเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีการสำรองข้อมูลในระบบคลาวด์

การสำรองข้อมูลประเภทหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นคือการสำรองข้อมูลแบบ cloud-to-cloud (หรือสำรองข้อมูล C2C) ซึ่งสิ่งนี่คือการที่ข้อมูลที่ถูกเก็บในบริการคลาวด์หนึ่ง ถูกคัดลอกไปยังอีกคลาวด์หนึ่งหรือคลาวด์อื่นๆ

แต่ถ้าข้อมูลของบริษัทถูกเก็บไว้ในระบบคลาวด์แล้ว ทำไมข้อมูลนั้นจึงต้องสำรองไว้ในระบบคลาวด์อื่นกัน?

หลายคนคิดว่าพวกเขาจะได้รับการปกป้องจากการสูญหายของข้อมูลหากพวกเขาใช้ซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มบริการ (SaaS) เช่น Microsoft Office 365 หรือ G Drive แต่ถึงแม้ว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้จะมีวิธีแก้ปัญหาที่แข็งแกร่งในการปกป้องข้อมูลในระบบคลาวด์ แต่พวกมันก็ได้รับการออกแบบมาเพียงแค่ป้องกันการสูญเสียจากด้านเดียวเท่านั้น

การสำรวจจาก Spanning พบว่าในความเป็นจริงแล้ว 58% ของผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจในด้านไอทีรายงานว่าในช่วงระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา มีรูปแบบการสูญหายของข้อมูลผ่าน SaaS

แล้วการสำรองข้อมูลแบบ cloud-to-cloud จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร? ต่อจากนี้เราจะแยกว่าการสำรองข้อมูล C2C คืออะไรและจะช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร

การสำรองข้อมูลแบบ cloud-to-cloud คืออะไร?

ตามการแนะนำชื่อ การสำรองข้อมูลแบบ cloud-to-cloud คือการที่ข้อมูลในคลาวด์ถูกสำรองข้อมูลไปยังคลาวด์อื่นแทนที่จะใช้วิธีการเก็บในสถานที่อื่นๆ เช่น เทปหรือการสำรองข้อมูลในดิสก์ และบางครั้งก็เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นการสำรองข้อมูลแบบ SaaS (ซอฟต์แวร์ที่เป็นบริการ)

มันช่วยเพิ่มการปกป้องอีกชั้นหนึ่งสำหรับธุรกิจที่ใช้บริการคลาวด์ โดยมันจะเก็บสำเนาที่ซ้ำกันไว้ในคลาวด์ที่แยกกัน

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการสำรองข้อมูลและการเก็บถาวร คือเมื่อเรามองหาการแก้ไขปัญหาการสำรองแบบ C2C มันควรจะเป็นการแก้โดยเฉพาะสำหรับการสำรองข้อมูลไม่ใช่แค่เก็บถาวร การมีสำเนาในการสำรองมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ข้อมูลพร้อมใช้งานและสามารถกู้คืนได้ในกรณีที่เอกสารต้นฉบับไม่สามารถเข้าถึงได้

แต่การมีที่เก็บถาวรนั้นก็เพื่อตอบสนองความต้องการหรือนโยบายภายใน และไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการกู้คืนข้อมูล ระบบเก็บถาวรส่วนใหญ่ไม่สามารถกู้คืนข้อมูลที่สูญหายไปกลับมาได้ และไม่มีฟังก์ชันที่จำเป็นต้องใช้ในการกู้คืนข้อมูลโดยอัตโนมัติเช่นกัน

การสำรองข้อมูลแบบ C2C ช่วยธุรกิจได้อย่างไร?

เช่นเดียวกันกับวิธีการสำรองข้อมูลแบบ on-site การสำรองข้อมูลแบบ C2C นั้นเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ โดยการจัดเก็บข้อมูลในหลายๆสถานที่ ทำให้สามารถเรียกคืนข้อมูลได้ง่ายในกรณีที่มีการโจมตีทางไซเบอร์ การลบโดยไม่ได้ตั้งใจ ข้อมูลเกิดเสียหายหรือเหตุการณ์อื่นๆ

แอปพลิเคชั่นหลายตัวที่ทำงานในระบบคลาวด์จะได้รับการปกป้องโดยผู้ให้บริการหากข้อมูลเกิดการสูญเสีย แต่ก็มีข้อสันนิษฐานว่าผู้ให้บริการ SaaS เช่น G Suite ของ Google และ Microsoft Office 365 ได้สำรองข้อมูลไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว
แม้ว่าผู้ให้บริการหลายรายจะเน้นไปที่การปกป้องข้อมูลในระบบคลาวด์จากปัญหาฝั่งของพวกเขา เช่น ความล้มเหลวของดิสก์หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากหากปัญหานั้่นเกิดขึ้นจากฝั่งคุณ

หากการโจมตีของ ransomware ลบไฟล์ของคุณหรือหากพนักงานลบโดยไม่ตั้งใจหรือมีพนักงานที่ประสงค์ร้าย สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะกู้คืนข้อมูลคืนมาได้ สิ่งนี้คือการสำรองข้อมูลทางเดียวแบบ cloud-to-cloud ที่สามารถใช้เพื่อช่วยธุรกิจที่มีการป้องกันชั้นพิเศษหากเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

ข้อดีและข้อเสียของการสำรองข้อมูลแบบ cloud-to-cloud คืออะไร?

ประโยชน์หลักของการสำรองข้อมูลแบบ cloud-to-cloud คือ ราคา เนื่องจากมันไม่จำเป็นต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการสำรองข้อมูล และการสำรองข้อมูลแบบ C2C ยังสามารถตั้งค่าได้อย่างรวดเร็วและไม่แพง สิ่งนี้ยังสามารถใช้ในระยะยาวได้ด้วย โดยสามารถเพิ่มหรือนำข้อมูลที่เก็บบนคลาวด์ออกได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการทางธุรกิจที่อาจเปลี่ยนแปลงไป และค่าใช้จ่ายจะได้รับการคาดการณ์ไว้เป็นรายเดือน
อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกันกับบริการคลาวด์จำนวนมาก สิ่งนี้อาจนำไปสู่การสูญเสียได้เพราะบางข้อมูลที่ไม่ดีหรือข้อมูลที่ไม่จำเป็นใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลจำนวนมากจึงส่งผลทำให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนสูงขึ้นไปด้วย

ข้อได้เปรียบที่สำคัญของการสำรองข้อมูลแบบ C2C คือความพร้อมใช้งาน สำเนาข้อมูลสำรองในคลาวด์สามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ ดังนั้นทีมไอทีจึงไม่จำเป็นต้องมาที่สถานที่จริงเพื่อกู้คืนข้อมูลทางธุรกิจหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

C2C ยังคงเป็นวิธีการสำรองข้อมูลที่ค่อนข้างใหม่ในตลาดและผู้ขายส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่ให้บริการการสำรองข้อมูลแบบ cloud-to-cloud ก็มีการสำรองข้อมูลและการจัดการแบบวันต่อวันด้วยตนเองอยู่เช่นกัน สิ่งนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับองค์กรที่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญภายในองค์กรเพื่อทำสิ่งเหล่านี้ อย่างไรก็ตามองค์กรขนาดใหญ่อาจรู้สึกสะดวกสบายในการจัดการการสำรองข้อมูลแบบ C2C ด้วยตนเองมากกว่าหรือแม้กระทั่งการสำรองข้อมูลที่หน้างานเลย

ประโยชน์อีกหนึ่งประการของ C2C คือ ความยืดหยุ่นในการโจมตีทางไซเบอร์ หากพนักงานในบริษัทเผลอคลิกที่ไฟล์แนบอีเมลที่เป็นอันตรายโดยไม่ตั้งใจส่งผลทำให้ธุรกิจอาจถูกโจมตีจากข้อมูลนั้นไม่ได้อยู่ในเครือข่ายสำนักงาน

อย่างไรก็ตามปัญหาบริการของคลาวด์ทั้งหมด คือความปลอดภัยของข้อมูล ข้อมูลสำรองที่เก็บไว้บนคลาวด์อาจถูกแฮ็กหรือถูกบุกรุกได้ ดังนั้นการสำรองข้อมูลแบบออฟไลน์ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยมากกว่า

ธุรกิจใดที่มองหาบริการสำรองข้อมูลแบบ cloud-to-cloud ควรพิจารณาถึงความต้องการของบริษัทอย่างรอบคอบ ตั้งแต่ความถี่ในการสำรองข้อมูลไปจนถึงวิธีการจัดการแบบวันต่อวัน และการจัดเก็บข้อมูลที่จำเป็น

สิ่งที่ควรมองหาในการบริการสำรองข้อมูลแบบ cloud-to-cloud

บริการสำรองข้อมูลแบบ cloud-to-cloud อาจแตกต่างทั้งในแง่ของสิ่งที่พวกเขาเสนอและเงื่อนไขที่จำเป็นต้องมีเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ระดับภายในจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีเป็นอันดับแรก และหลังจากที่ธุรกิจได้พิจารณาความต้องการแล้ว ผู้ขายจึงจะสามารถระบุได้ตามความเหมาะสม ความต้องการเหล่านี้ในบางส่วนอาจจะได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามยังมีลักษณะสำคัญอีกหลายประการที่ทุกธุรกิจควรพิจารณา หากดำเนินการแล้วก็ควรให้การสำรองข้อมูลที่ครอบคลุม

ฟังก์ชั่นที่หลากหลายของการสำรองข้อมูลแบบ C2C คือการกู้คืนข้อมูลที่สูญหายไปกลับมาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด ยิ่งจำนวนขั้นตอนที่สูงขึ้นจากการสูญเสียมากขึ้นเท่าไหร่ เวลาในการกู้คืนก็จะยิ่งนานมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นการค้นหาวิธีการที่ตรงไปตรงมาในช่วงเวลาแห่งความโกลาหลที่เกิดจากข้อมูลหายควรสามารถนำมาใช้ได้อย่างรวดเร็วและง่ายที่สุด และอินเทอร์เฟซแบบ simple-to-navigate อาจจะช่วยหยุดเวลาได้

แล้วข้อมูลของคุณจำเป็นต้องถูกบันทึกจำนวนเท่าใดกัน? ผู้ค้าบางรายนำเสนอการแก้ปัญหาการสำรองข้อมูลที่ครอบคลุมและโปร่งใสที่สามารถช่วยปกป้องข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้ในทุกซอกทุกมุม อย่างไรก็ตามหากธุรกิจของคุณต้องการเพียงบางส่วนของข้อมูลที่สำรองไว้แทนที่จะเป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่ คุณสามารถหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้โดยการเลือกผู้ให้บริการที่สามารถปรับขยายได้

ข้อมูล ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามนั้นไม่เคยเป็นเรื่องที่ไกลตัว ผู้ขายและผู้ใช้ต่างก็ต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องของการจัดการข้อมูลของพวกเขาเนื่องจากมีการแนะนำกฎระเบียบเกี่ยวกับ data landscape ผู้ขายที่มีตราประทับใบรับรองความปลอดภัยภายนอกอาจช่วยลดความกังวลในเหตุการณ์การสูญเสียข้อมูลได้ แต่ผู้ใช้ก็ต้องมั่นใจว่าพวกเขาได้ปฏิบัติตามกฎอย่างระมัดระวังและเคร่งครัด