Advanced Encryption Standard (AES) - เดิมรู้จักกันในชื่อ Rijndael ซึ่งเป็นชื่อของนักพัฒนาชาวเบลเยียมที่สร้างมันขึ้นมา
ทำไม AES ถึงถูกพัฒนาและมันถูกพัฒนาอย่างไร?
วิธีการเข้ารหัสมาตรฐานในช่วง 22 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2520 ถึงปี 2542 คือ DES ซึ่งมันได้รับการพัฒนาโดย IBM และถูกใช้เป็นอัลกอริทึมอย่างเป็นทางการสำหรับการเข้ารหัสข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ สิ่งนี้ได้รับการพิจารณาอย่างกว้างขวางว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งความก้าวหน้าของพลังการประมวลผลในยุค 90 ได้พิสูจน์แล้วว่าเพียงพอสำหรับนักวิจัยในการสร้างระบบที่สามารถทำลายอัลกอริทึมการเข้ารหัส 56 บิตที่ DES เป็นตัวแทนได้
การสาธิตแบบสาธารณะครั้งแรกที่ DES อาจถูกเข้าทำลายได้ ได้เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน ปี 1997 ซึ่งโครงการ DESCHALL ใช้ประโยชน์จากพลังคอมพิวเตอร์จำนวนมหาศาลเพื่อทำลายคีย์การเข้ารหัส โดยโครงการ Deep Crack ซึ่งเป็นผู้นำ Electronic Frontier Foundation (EFF) ได้ทำลายการเข้ารหัส DES ในเวลาเพียง 56 ชั่วโมงในเดือนกรกฎาคม ปี 1998 และในอีกหกเดือนต่อ EFF และ distribution.net ได้ทำงานร่วมกันเพิ่มเติมซึ่งสามารถเข้าการทำลายการเข้ารหัสโดยใช้เวลาลดลงเหลือเพียง 22 ชั่วโมง 15 นาที
สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติของสหรัฐฯ (NIST) ได้ตระหนักในเวลาต่อมาว่า DES จำเป็นต้องมีการยกเครื่องครั้งใหญ่โดยเห็นว่าการทำลายการเข้ารหัสมีความเป็นไปได้มากขึ้น ดังนั้นการพัฒนาเพื่อหาตัวตายตัวแทนของ DES จึงเริ่มขึ้นในทันที
NIST เปิดการแข่งขันแบบเปิดในเดือนกันยายน ปี 1997 โดยให้ผู้เข้าร่วมสำรวจวิธีการปกป้องข้อมูลทั้งในปัจจุบันและอนาคต การแข่งขันนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นกระบวนการมาตรฐานการเข้ารหัสขั้นสูง โดยการแข่งขันได้รวบรวมการออกแบบการเข้ารหัสมาท้ังหมด 15 แบบ และในสามปีต่อมาได้เกิดเป็นโครงการที่รู้จักกันในชื่อ Rijindael ซึ่งถูกพัฒนาโดยนักเข้ารหัสชาวเบลเยี่ยม 2 คน คือ Vincent Rijmen และ Joan Daemen ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นมาตรฐานสำหรับการเข้ารหัส AES ที่ยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2543 มาตรฐาน AES ได้รับการรับรองให้ใช้โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาแทนมาตรฐาน DES