ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเผยกังวลเรื่องความปลอดภัยผ่านอีเมลภายในองค์กร ในขณะที่กระแสต้านบริการประชุมออนไลน์ยังดำเนินต่อไป
ล่าสุด องค์กรอย่างกูเกิลก็ประกาศสั่งห้ามใช้โปรแกรมประชุมออนไลน์อย่าง Zoom ไปอีกเจ้าด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย ข้อมูลจาก Buzzfeed เผยว่ายักษ์ใหญ่เทคโนโลยีส่งอีเมลภายในหาบุคลากรทุกคนเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อเตือนว่าจะไม่สามารถใช้งานโปรแกรม Zoom บนแล็ปท๊อปของพวกเขาได้อีกแล้ว
Zoom ซึ่งเป็นคู่แข่งของบริการ Meet and Hangouts ของกูเกิล มีจำนวนการใช้งานที่พุ่งพรวดขึ้นหลังจากการล็อคดาวน์ในช่วงโคโรนาไวรัสแพร่ระบาด แต่การใช้งานจำนวนมากดังกล่าวก็นำมาสู่การเพ่งเล็งตรวจสอบบริการของ Zoom ที่ทำให้ค้นพบจุดบกพร่องในแง่ของความปลอดภัยหลายจุด
ปัญหาหลายข้อของ Zoom ที่ถูกรายงานมีตั้งแต่มาตรฐานการเข้ารหัสไปจนถึงการป้องกันการเจาะระบบ แต่กูเกิลไม่ได้ระบุว่าจุดใดเป็นปัญหาที่ตนกังวล
“เรามีนโยบายที่ไม่อนุญาตให้พนักงานนำแอพพลิเคชั่นที่ไม่ผ่านการอนุมัติและอยู่นอกเครือข่ายองค์กรของเรามาใช้ในการทำงานมานานแล้ว” โฆษกของกูเกิลบอกกับ Buzzfeed
“เมื่อเร็วๆ นี้ ทีมความมั่นคงของเราได้แจ้งพนักงานที่ติดตั้งโปรแกรม Zoom Desktop Client ในเครื่องว่าโปรแกรมนี้จะไม่สามารถใช้งานได้บนเครื่องของบริษัทอีกแล้ว เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของโปรแกรมที่พนักงานสามารถใช้ได้”
พนักงานยังสามารถใช้บริการดังกล่าวเพื่อติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ผ่านทางเว็บบราวเซอร์หรือผ่านทางโทรศัพท์ แต่กูเกิลก็ได้เพิ่มชื่อตัวเองเป็นหนึ่งในองค์กร – เช่นเดียวกับทั่วทั้งประเทศที่สั่งห้ามใช้โปรแกรมดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว
บริษัทดังกล่าวยอมรับผิดในข้อกล่าวหาทั้งหลายที่ว่ามา เอริค หยวน CEO ของ Zoom เสนอว่าเป็นเพราะบริษัทเติบโต “เร็วเกินไป” จนยกระดับความมั่นคงปลอดภัยในระดับองค์กรตามไม่ทัน เขายังพูดอีกด้วยว่าเป้าหมายใหม่ของ Zoom คือการเป็นองค์กรที่ “ความมั่นคงปลอดภัยต้องมาก่อน”
หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เห็นได้จากกรณีนี้ก็คือการนำ meeting ID ออกจากหัวเรื่องในแถบโปรแกรม ความเปลี่ยนแปลงนี้มาพร้อมกับการอัพเดทในระบบ Linux, Mac และโปรแกรมของวินโดว์ หลังจากรายงานเหตุ Zoom Bombing ที่แขกไม่ได้รับเชิญสามารถเข้ามาก่อกวนการประชุมได้
บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรเองก็เคยโพสต์รูปถ่ายหน้าจอของการประชุมสภาผ่านทาง Zoom – ที่ผู้ติดตามในทวิตเตอร์ทั้ง 2.2 ล้านคนของเขาสามารถมองเห็นเลข ID ของห้องได้
ที่มา: https://bit.ly/2BKB24i