นอกเหนือจากสถาบันจักษุวิทยาของ UCL และโรงพยาบาลด้านจักษุ Moorfields ในลอนดอนแล้ว การวิจัยของพวกเขาอาจนำไปสู่การนำ AI เข้ามาใช้ในโรงพยาบาลทั่วสหราชอาณาจักร ซึ่งหากใช้ระบบ AI แพทย์จะใช้เวลาน้อยลงในการตรวจสอบฟิล์มดวงตา และสามารถย่นย่อระยะเวลาวินิจฉัยผู้ป่วยลงเหลือเพียงไม่กี่วินาที
ลดความผิดพลาดจากมนุษย์ (Human Error)
แม้แต่คนที่เก่งที่สุดก็ผิดพลาดได้ ไม่ว่าจะเป็นการเสียสมาธิหรือทำพลาดในเรื่องง่ายๆ แต่หุ่นยนต์ AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่พิเศษนี้โดยเฉพาะจะไม่เผยความผิดพลาดเหล่านี้ออกมา
เช่นเดียวกันกับ Ocado ...ในอนาคต AI จะถูกใช้ในการขับเคลื่อนบริการอัตโนมัติอีกหลายๆ อย่าง อาจจะเป็นเมืองอัจฉริยะที่คาดว่าจะช่วยยกระดับสิ่งแวดล้อมของเราขึ้น หรือรถขับเคลื่อนได้เองที่ใช้ AI ในการนำทางและตรวจจับสิ่งกีดขวาง
AI มีความสามารถในการประมวลผลชุดข้อมูลขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งจะมีความสำคัญต่อการทำงานของเทคโนโลยีอัจฉริยะหลาย ๆ ประเภทและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ตัวอย่างที่มีให้เห็นอยู่แล้วนั้นอยู่ในสมาร์ทโฟนตัวท็อปหลาย ๆ รุ่น โดยสมาร์ทโฟนเหล่านี้จะมี AI ที่ทำงานอยู่ในฉากหลัง คอยปรับการตั้งค่าของโทรศัพท์อย่างต่อเนื่องเพื่อคงประสิทธิภาพสูงสุดหรืออายุการใช้งานแบตเตอรี่เอาไว้
ข้อเสียของ AI
ข้อดีทุกประการของเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือตัวที่มีอยู่แล้วนั้นอาจเป็นดาบสองคมที่ถูกเอาไปใช้ทำเรื่องไม่ดี หรือไม่ตัวเทคโนโลยีก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง AI เองก็ไม่ต่างกัน
ในปี 2016 หน่วยงานที่เป็นการรวมตัวกันทั่วทั้งอุตสาหกรรมได้ถูกก่อตั้งขึ้น โดยมียักษ์ใหญ่แห่งซิลิคอนวัลเลย์ทั้งห้ารวมอยู่ในนั้นด้วย หน่วยงานดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่าภาคี Partnership on Artificial Intelligence to Benefit People and Society โดยทำงานเพื่อเสริมสร้างความเสมอภาคและจริยธรรมในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้มีศักยภาพในการก่อให้เกิด disruption พอๆ กับก่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้งาน
AI ที่ช่วยตัดสินใจในสถานที่ทำงาน
ความว่องไวที่มาพร้อมประสิทธิภาพของ AI ทำให้โปรแกรมเหล่านี้มีความน่าสนใจสำหรับผู้บริหารที่ต้องการสร้างมูลค่าในองค์กรของตนเองมากขึ้น
Watson ของ IBM ถูกนำมาใช้คำนวณการตัดสินใจว่าพนักงานสมควรได้รับการขึ้นเงินเดือน ได้โบนัส หรือเลื่อนตำแหน่งหรือไม่ โดยดูจากประสบการณ์และโปรเจกต์ที่ผ่านมาของพนักงานเพื่อตัดสินคุณภาพและทักษะที่บุคคลดังกล่าวอาจให้ได้กับบริษัทในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การใช้ซอฟต์แวร์ตัดสินใจในลักษณะนี้ทำให้เกิดความกังวลขึ้น สหพันธ์สหภาพแรงงาน (Trades Union Congress) ซึ่งเป็นสหพันธ์ที่เป็นตัวแทนของสหภาพแรงงานส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักร ได้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อปกป้องพนักงานจากเทคโนโลยีประเภทนี้
Frances O'Grady เลขาธิการแห่ง TUC กล่าวว่า "เราคาดการณ์ว่าหากปล่อยเรื่องนี้ไว้โดยไม่ได้รับการตรวจสอบ การใช้ AI เพื่อบริหารจัดการผู้คนจะทำให้การทำงานกลายเป็นประสบการณ์ที่โดดเดี่ยวและแยกขาดจากผู้คนมากขึ้น ความสุขจากการได้สัมผัสสังคมมนุษย์จะหายไป”
การสูญเสียงาน
การที่ AI เข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ ถือเป็นข้อเสียอันดับหนึ่งของ AI ซึ่งอาจส่งผลให้มีการเลิกจ้างอย่างกว้างขวางขณะที่พนักงานพยายามดิ้นรนเพื่อเอาชนะเครื่องจักร
แม้ผู้คนจำนวนมากจะเชื่อว่าจะเกิดสถานการณ์อันน่าหดหู่นี้ขึ้น Gartner คาดการณ์ว่า AI จะสร้างงานมากกว่า ในงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี 2017 นักวิเคราะห์คาดว่า AI จะสร้างงานถึง 2.3 ล้านตำแหน่งภายในปี 2020 และกำจัดตำแหน่งงานอีก 1.8 ล้านตำแหน่ง
Svetlana Sicular รองประธานฝ่ายวิจัยของ Gartner กล่าวว่า "นวัตกรรมที่สำคัญหลายอย่างในอดีตต่างก็ถูกโยงเข้ากับยุคสมัยแห่งความเปลี่ยนผ่านของช่วงการสูญเสียงานชั่วคราวอยู่เสมอ ตามมาด้วยการฟื้นตัว การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและ AI ก็อาจเดินตามรอยนี้ด้วยเหมือนกัน"
"โชคร้ายที่คำเตือนเกี่ยวกับหายนะการตกงานส่วนใหญ่ชอบทำให้เกิดความสับสนระหว่าง AI กับระบบอัตโนมัติ ซึ่งบดบังคุณประโยชน์ที่ดีที่สุดของ AI ไป - ก็คือ AI Augmentation ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างมนุษย์และปัญญาประดิษฐ์ ทั้งคู่ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน"
รายงานในปี 2018 จาก PwC แย้งว่า AI จะสร้างงานได้มากพอ ๆ กับที่มันคัดกรองงานบางประเภทออกไปนั่นแหละ โดยมีกรณีที่ข้อถกเถียงดังกล่าวถูกสะท้อนให้เห็นอีกครั้งเมื่อเดือนตุลาคม 2020 ในรายงาน Future of Jobs โดย World Economic Forum (WEF) ซึ่ง NGOs รายงานว่า โรคโควิด-19 จะเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานที่ซ้ำ ๆ ซาก ๆ และงานที่อันตรายไปเป็นรูปแบบงานอัตโนมัติ AI จะนำไปสู่การเติบโตของงานในระยะยาว