สมาร์ทโฟนธุรกิจได้ตายแล้ว
สมาร์ทโฟนธุรกิจได้ตายแล้ว
การสิ้นสุดการส่งสัญญานของ BlackBerry นับเป็นจุดสิ้นสุดของโทรศัพท์มือถือธุรกิจเป็นครั้งแรก
เมื่อเดือนที่แล้วมีการประกาศอย่างลับๆใน Twitter ว่าการตายของสมาร์ทโฟนธุรกิจได้รับการยืนยันแล้ว
ในโพสต์ BlackBerry ได้ประกาศว่า TCL Communications ของจีนจะไม่ขายโทรศัพท์แบรนด์ BlackBerry อีกต่อไปมีผล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2563 นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ค่อยน่าแปลกใจนักเนื่องจากอุปกรณ์ที่เคยเป็นที่รักนี้มียอดขายคิดเป็นเพียง 0.02% ของตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกเมื่อเดือนมกราคมปีนี้
TCL ได้กล่าวว่าจะยังคงให้การสนับสนุนรุ่นที่มีอยู่ในตลาด เช่น BlackBerry Key2 จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 แต่จุดจบของการเป็นหุ้นส่วนตลอดระยะยาวสามปีของบริษัทถือเป็นจุดสิ้นสุดของทั้ง BlackBerry และธุรกิจสมาร์ทโฟนที่เรารู้จัก
อุปกรณ์ BlackBerry ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รู้จักในเรื่องแป้นพิมพ์ฮาร์ดแวร์ทางกายภาพและซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยที่ "ไม่สามารถเจาะเข้าไปได้" ได้เคยครองตลาดในช่วงปี 2000 และในปี 2552 บริษัทที่เป็นเจ้าของ Research In Motion (RIM) ได้อ้างว่า Blackberry ได้ครองตลาดมากกว่า 20% ของตลาดสมาร์ทโฟนและได้กลายเป็นโทรศัพท์ที่ถูกเลือกในหมู่ผู้บริหารระดับสูงและถือเป็นสัญลักษณ์สถานะขั้นสูงสุดในห้องประชุมคณะกรรมการทั่วโลก
ชื่อเสียงนี้ทำให้ RIM ถือเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกในเวลานั้น และได้รับเครดิตจากเสียงส่วนใหญ่กับความจริงที่ว่า BlackBerry เป็นอุปกรณ์ตัวแรกที่มีตัวเลือกการส่งเมลล์ด่วน (Push E-mail) ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานที่ยุ่งจะไม่พลาดอีเมล์อีกต่อไปโดยไม่จำเป็นต้องรีเฟรชกล่องขาเข้าตลอดเวลา
“การทำให้อีเมลเป็นเรื่องสาธารณะนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ทางธุรกิจและพวกเขาสามารถทำได้อย่างปลอดภัยที่สุดโดยใช้ BlackBerry” Roberta Cozza ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Gartner กล่าว “มันเป็นอุปกรณ์ไร้สายอีเมลอย่างแท้จริง”
อย่างไรก็ตามในขณะที่จุดสนใจนี้ทำให้ BlackBerry มีสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 4 ล้านรายในไตรมาสเดียวในปี 2552 แต่มันกลายเป็นแนวทางแรกของธุรกิจที่นำไปสู่การสิ้นสุดของบริษัท และในที่สุดก็คือการสูญเสียสมาร์ทโฟนทางธุรกิจอย่างสิ้นเชิง
“การแข่งขันของ Android และ iOS ได้นำหน้าไปแล้ว และฉันคิดว่า BlackBerry ล้มเหลวในด้านการรับรู้การดำเนินการด้านไอทีของผู้บริโภคและตอบสนองช้าเกินไป” Cozza กล่าว “ตัวอย่างเช่น Apple เปิดตัวหน้าจอสัมผัสและสมาร์ทโฟนนี้ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับแอพพลิเคชั่น เช่นเดียวกันกับบริษัทอื่นๆที่มีการนำเสนอมากกว่าแค่สมาร์ทโฟนธุรกิจ ดังนั้น BlackBerry จึงไม่มีความแตกต่างจากสมาร์ทโฟนอื่นๆอีกต่อไป”
การพลาดโอกาส
BlackBerry ซึ่งตอนนี้ขายซอฟต์แวร์และบริการให้กับองค์กรต่างๆและเชื่อว่าโลกขององค์กรจะเป็นตัวหลักในการผลักดันการยอมรับสมาร์ทโฟนไม่ใช่ผู้บริโภค อย่างไรก็ตามเนื่องจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งแบบ QWERTY ของมันล้มเหลวในการสะท้อนกลับในโลกที่อิ่มตัวอย่างรวดเร็วด้วยอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสจึงทำให้เกิดผลลัพธ์ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ Blackberry คาดไว้
Brian Foster ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ของ MobileIron กล่าวว่า “เมื่อสมาร์ทโฟนมีการพัฒนาและเข้าถึงได้มากขึ้นแนวคิดของโทรศัพท์ธุรกิจจึงค่อยๆล้าสมัยไปอย่างช้าๆ เนื่องจากสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็เหมาะสำหรับธุรกิจเช่นกัน”
“สิ่งนี้นำไปสู่การเกิดขึ้นและการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Bring-Your-Own-Device (BYOD) ซึ่งเป็นรูปแบบการทำงานที่พนักงานบริษัทใช้อุปกรณ์เดียวกันสำหรับทั้งการติดต่อส่วนตัวและใช้ในการทำงาน”
ในขณะที่ BlackBerry มีความคิดริเริ่มอย่าง BYOD แต่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากบริษัทซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยชั้นนำของตลาด ณ เวลานี้ทั้ง Apple และ Google ต่างก็ภูมิใจในการรับรองข้อมูลองค์กรของระบบปฏิบัติการของตนเอง เพื่อเสนอโปรแกรม 'แนะนำระดับองค์กร' ที่จะช่วยให้ธุรกิจระบุว่าโทรศัพท์ Android รุ่นใดที่เหมาะที่สุดสำหรับปรับใช้ในองค์กร
“แพลตฟอร์มมือถือยอดนิยมของโลกที่สร้างขึ้นนั้นสร้างขึ้นเพื่อธุรกิจ มีความปลอดภัย จัดการและยืดหยุ่นได้ ซึ่ง Android พร้อมสำหรับการทำงานเหล่านี้” Google ภูมิใจนำเสนอบนเว็บไซต์ Android โดยระบุว่าอุปกรณ์ทั้งหมดจะได้รับการอัปเดตความปลอดภัยเป็นเวลาสามปีหลังจากเปิดตัว ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการปกป้องจากช่องโหว่ต่างๆที่อาจเกิดขึ้น
ในโพสต์รูปแบบคล้ายๆกันบนเว็บไซต์ของ Apple ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 70% ของตลาดสมาร์ทโฟนระดับองค์กร ตามรายงาน Mobility Index ล่าสุดของ Good Technology Apple กล่าวว่า “จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่จะสามารถให้พนักงานทุกอย่าง อย่างที่พวกเขาต้องการ เพื่อให้พวกเขาตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้นไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน”
นอกจากนั้น “ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่าย ปลอดภัยและทรงพลังที่สุด รวมถึงแอพนับแสนใน App Store จะทำให้ทีมของคุณเชื่อมต่อได้ แบ่งปันความคิดและทำสิ่งต่างๆได้มากขึ้น”
Ben Woods หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ CCS Insight แสดงความเห็นว่า “เราได้มาถึงจุดที่ iPhone หรือ Android กลายเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางหรือสูงที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในธุรกิจและการงานใช้ส่วนตัวไปแล้ว
“Google ได้เพิ่มความปลอดภัยให้กับสมาร์ทโฟน Android เป็นสองเท่าและตอนนี้ระบบปฏิบัติการก็มีฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมแนะนำ Android Enterprise ซึ่งมอบสิ่งต่างๆมากมาย เช่น แพตช์รักษาความปลอดภัยซึ่งจะถูกจัดส่งให้เป็นประจำ
“ในกรณีของ Apple มันก็มีเครื่องมือที่หลากหลายที่ธุรกิจสามารถนำไปใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยของ iPhone ได้เช่นกัน จึงเป็นผลทำให้พวกมันเหมาะสมสำหรับใช้เป็นอุปกรณ์ทางธุรกิจ”
จากผู้บริโภคสู่ภาคธุรกิจ
ไม่ใช่เพียง Apple และ Google เท่านั้นที่ต้องการเอาชนะใจผู้ใช้ทางธุรกิจด้วยอุปกรณ์ส่วนใหญ่ของผู้บริโภคเป็นอันดับแรก อุปกรณ์มือถือของ Samsung ซึ่งอ้างว่าได้ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 21.8% ของตลาดสมาร์ทโฟนในปี 2019 ก็สร้างขึ้นจากคุณสมบัติความปลอดภัยของ Android ด้วยแพลตฟอร์ม Samsung Knox ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลระบบไอทีรักษาความปลอดภัย ปรับใช้ และจัดการอุปกรณ์มือถือสำหรับการใช้งานทางธุรกิจได้
นอกเหนือจากการรักษาความปลอดภัย ในปี 2560 Samsung ยังมีเป้าหมายไปที่ผู้ใช้ทางธุรกิจด้วยแพลตฟอร์ม DeX ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อที่ทำให้สมาร์ทโฟนสามารถมอบประสบการณ์การใช้คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปให้แก่ผู้ใช้
อย่างที่ Samsung ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการล่มสลายของสมาร์ทโฟนธุรกิจนั้นไม่ได้เกิดจากความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นของ Android และ iOS เพียงอย่างเดียว แต่ความต้องการของพนักงานก็เปลี่ยนไปเช่นกันเนื่องด้วยแรงงานที่มีอายุน้อยลงและมีความยืดหยุ่นสูงมากขึ้น พวกเขาต้องการอุปกรณ์ที่ทรงพลัง มีแบตเตอรี่ที่เชื่อถือได้ และสามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์ที่ต้องการได้ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึง Microsoft Excel ในระหว่างที่เดินทางหรือความสามารถในการจัดเก็บบอร์ดดิ้งพาสสำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจ
และสองอย่างนั้นคือสิ่งที่ BlackBerry ไม่สามารถแข่งขันได้ แต่ก่อนที่มันจะยอมแพ้กับระบบปฏิบัติการของ BlackBerry ที่ผลิตเองเพื่อประสบการณ์การการใช้ Android ที่กำหนดขึ้นเอง บริษัทก็ได้พยายามอย่างหนักเพื่อให้ตามทันคู่แข่ง ทั้งในแง่ของความพร้อมในการใช้งานแอพยอดนิยมบุคคลที่สามและเหตุผลสองข้อด้านบน และบริษัทก็ยังยืนหยัดมายาวนานในการโหลดแอพ BlackBerry Messenger (BBM) ที่ไม่มีประสิทธิผลอะไรแล้วบนอุปกรณ์ของมันเองโดยไม่ได้คำนึงถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของบริการของบุคคลที่สาม อย่างเช่น WhatsApp
เมื่อพูดถึงฮาร์ดแวร์มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นคล้ายๆกัน เมื่อเร็วๆนี้ในปี 2018 กับ BlackBerry Key2 บริษัทยังคงมุ่งเน้นไปที่การตัดสินใจทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และยืนยันที่จะปล่อยอุปกรณ์ที่มีคียบอร์ดฮาร์ดแวร์ แม้ว่าข้อเท็จจริงจะแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่นิยมใช้อุปกรณ์หน้าจอสัมผัสที่มีความสะดวกกว่าก็ตาม
อย่างที่เราได้กล่าวไว้ในการตรวจสอบ BlackBerry Key2 “ถ้านี่ยังเป็นปี 2008 มันจะเป็นอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่ใช่แล้วเพราะตอนนี้คือปี 2018 และเรามีคีย์บอร์ดหน้าจอสัมผัสที่น่าทึ่งและไม่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดแบบกายภาพอีกต่อไป”
ไม่ใช่เพียงแค่การคงอยู่ของคีย์บอร์ดที่เท่านั้นที่ทำให้บริษัทตามหลังคู่แข่งแต่ยังรวมไปถึงแผนกฮาร์ดแวร์ด้วย บริษัทได้เปิดตัวอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสเต็มรูปแบบ แต่สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นการเลียนแบบ iPhone และเนื่องด้วยในตลาดสมาร์ทโฟนที่ Huawei และ OnePlus เริ่มปรากฏขึ้นด้วยสมาร์ทโฟนที่ประสิทธิภาพและสเปคสูงแต่มีราคาต่ำ นอกจากนี้คู่ค้าของ BlackBerry อย่าง TCL ในเวลานั้นก็ยังคงเร่ขายอุปกรณ์ที่มีสเปคที่ไม่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น Key2 ในราคา 500 ปอนด์ แต่บรรจุกล้องเพียง 12MP และมีหน่วยประมวลผลกลางระดับต่ำ
การล่มสลายของ BlackBerry อาจเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆและไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ การมุ่งเน้นอย่างต่อเนื่องของบริษัทเกี่ยวกับแนวคิดของ "สมาร์ทโฟนธุรกิจ" ในที่สุดก็มีข้อบกพร่อง และมันสายเกินกว่าที่จะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังล้มเหลวในการรับรู้ว่า Apple ได้ขึ้นมามีอิทธิพลซึ่งตอนนี้ได้เข้าครอบครองตลาดมือถือขององค์กรแทบหมดแล้ว
ในขณะที่แนวคิดของสมาร์ทโฟนธุรกิจจบสิ้นด้วยเนื้อหาของ BlackBerry แต่บางคนก็บอกว่ามันไม่ได้ตายไปเลย มันยังมีชีวิตอยู่ในโทรศัพท์มือถือสมัยใหม่ทุกรุ่นที่มีในปัจจุบัน
ที่มา: https://bit.ly/2AfzmPN
สงวนลิขสิทธิ์ Copyright © 2024 บริษัท ควิกเซิร์ฟ โปรไวเดอร์ จำกัด
124/124 หมู่ที่ 2 ถนนนครอินทร์ ตำบลบางสีทอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
โทรศัพท์ 0-2496-1234 โทรสาร 0-2496-1001