สายแลน cat6 และสายอื่น ๆ มีความต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน

ในยุคที่ Wifi เป็นเครือข่ายการสื่อสารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยเพราะความสะดวกสบายที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ณ ที่จุดไหนก็ได้ตามความสามารถในการครอบคลุมของจุดปล่อย Wireless ทำให้เราจะเห็นว่าในที่อยู่อาศัยและสำนักงานต่าง ๆ ก็เริ่มที่จะหันมาใช้เครือข่าย Wifi กันมากขึ้น เลยทำให้หลายคนลืมนึกถึงสาย LAN ที่เอาไว้ใช้เชื่อมต่อสัญญาณกันไปบ้าง แต่หากใครที่เข้าใจถึงความสามารถของสายแลน cat6 และ cat5 ก็จะรู้ถึงสปีดที่เหนือกว่าที่อาจทำให้ลืม Wifi ไปเลยก็ได้

สายแลน cat6 และ cat5 มีลักษณะและคุณสมบัติอะไรบ้าง

เริ่มต้นกันที่สาย LAN รุ่น cat5 หรือในชื่อเต็มว่า Category 5e กันก่อน ซึ่งเป็นสายแลนความเร็วสูงที่ไม่มีชนวนป้องกันสัญญาณรบกวนจากภายนอก ภายในสายหลักจะประกอบไปด้วยสายทั้งหมด 8 เส้น จับคู่กันเป็น 4 คู่สาย โดยแกนจะเป็นแกนทองแดงแบบแกนเดียว ซึ่งเป็นสาย LAN ที่มีความเหมาะสมในการติดตั้งใช้งานแบบทั่วไป หรือจะเป็นแกนทองแดงแบบฝอยที่มีความสามารถในการบิดโค้งงอสูง จึงมีความเหมาะกับการติดตั้งเชื่อมต่อภายในตู้สื่อสารและอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก โดยสายแลน cat5 จะมี Bandwidth สูงสุดที่ 350 MHz ส่วนความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ระดับ Gigabit

สายแลน cat6 คือสายแลนรุ่นพัฒนาขึ้นมาจาก cat5 และเป็นรุ่นที่ไม่มีชนวนป้องกันสัญญาณรบกวนภายนอกเช่นเดียวกับรุ่นพี่อย่าง cat5 และก็มีจำนวนคู่สายที่ 4 คู่ 8 สายเท่ากัน แต่สายแลน cat6 จะมีขนาดของแกนทองแดงที่ใหญ่กว่าโดยมีขนาดอยู่ที่ 23 AWG แน่นอนว่าเมื่อมีแกนทองแดงที่ใหญ่กว่ากำลังของ Bandwidth ก็ต้องจะอยู่ที่ 650 MHz ซึ่งสูงกว่ารวมไปถึงความเร็วในการส่งสัญญาณก็จะอยู่ที่ระดับสูงสุดถึง Full Gigabit เลยทีเดียว

ระหว่างสายแลน cat5 กับ สายแลน cat6 แบบไหนคุ้มกว่ากัน

ถ้าหากพูดถึงเรื่องของเทคโนโลยีการสื่อสารในยุคปัจจุบันที่ใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตกับ Wifi แน่นอนว่ารุ่นพี่ที่มาก่อนอย่าง cat5 ก็เป็นสิ่งที่เริ่มจะเป็นของล้าสมัยไม่นิยมแล้ว ด้วยเพราะข้อจำกัดด้านความเร็วและช่องสัญญาณ Bandwidth ที่น้อยกว่า สายแลน cat6 รุ่นน้อง ซึ่งการเปรียบเทียบนี้ยังไม่นับ cat8 ที่แรงกว่ากันมาก แต่ถ้าหากพูดถึงความคุ้มค่าในการใช้งานทั่วไปแล้ว cat5 เองก็ยังสามารถที่จะตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้อยู่ เพราะจะว่าไปแล้วการรองรับความเร็วระดับ Gigabit ก็นับว่าแรงพอที่จะทำอะไรได้สบาย ๆ แต่หากว่าในกรณีของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ต้องการความแรงและช่องสัญญาณที่มากกว่า สาย LAN cat6 คือตัวเลือกที่จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี

โดยรวมแล้วไม่ว่าจะเป็น cat5 หรือ สายแลน cat6 ก็ตามถ้าหากเลือกติดตั้งได้ตรงกับความต้องการในการใช้งานของเราเองได้มากที่สุด ไม่ว่าจะลงทุนเท่าไรจะเสียค่าใช้จ่ายมากหรือน้อยก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าแล้ว