ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทหลายเจ้าที่พยายามทำให้จินตนาการของฮอลลีวูดเกี่ยวกับหุ่นยนต์แสนฉลาดกลายเป็นความจริง แต่โดยปกติแล้ว AI มักไม่ได้ถูกใช้ในรูปแบบที่เห็นได้เป็นตัวเป็นตนขนาดนั้น เช่น มันมักถูกใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานโดยอัตโนมัติ ใช้เพื่อลดขั้นตอนกระบวนการทางธุรกิจลง หรือโผล่มาแค่แนะนำสินค้าตัวต่อไปให้เราซื้อออนไลน์เท่านั้น
เจ้า AI ผู้ช่วยมีเสียงยอดนิยมอย่าง Alexa หรือ Cortana ของ Microsoft นั้นยังมีส่วนในการบิดเบือนความเข้าใจที่คนทั่วไปมีเกี่ยวกับ AI ด้วยความที่ผู้ช่วยเหล่านี้ทำให้เทคโนโลยีอันซับซ้อนดูมีความเป็นตัวตนมากกว่าที่มันเป็นจริง ๆ อย่างไรก็ดี Alexa ยังเป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้เราเห็นว่า AI สามารถก่อให้เกิดผลกระทบ(ที่คาดไม่ถึง) ในสังคมของเราได้อย่างไร
ตัวอย่างของการใช้ AI
ถ้าพูดถึงสเกลการใช้งาน เราจะนึกถึงชื่อที่โดดเด่นอย่าง Watson หรือ AlphaGo ได้เลย AI เหล่านี้เป็นระบบที่ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าพวกมันเอาชนะได้แม้แต่ผู้แข่งขันมนุษย์ที่ประสบความสำเร็จที่สุด ตัวอย่างล่าสุดคือคือ AI เล่นโป็กเกอร์ ที่สามารถเอาชนะผู้เล่นระดับโปรถึงห้าคนได้ในคราวเดียว
แนวทางการใช้ AI ที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการใช้ในการขุดข้อมูลเพื่อให้ธุรกิจ NGOs รัฐบาล และภาคส่วนอื่น ๆ สามารถตัดสินใจอย่างชาญฉลาดในทุกเรื่อง นับตั้งแต่เรื่องกลยุทธ์ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และช่วยให้สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้เร็วขึ้นกว่าที่เคย
แต่นั่นเป็นก็แค่ผิวๆ ของศักยภาพที่ AI ทำได้ อันที่จริง AI ถูกใช้งานในหลายภาคส่วนและในหลายสถานการณ์มาก ซึ่งเดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟัง
AI ก็เหมือนกับเทคโนโลยีทุกแบบ มันไม่ใช่สิ่งธรรมชาติ และก็มีแนวโน้มที่จะเกิดผลเชิงลบพอๆ กับผลในแง่บวกได้เท่ากัน เป็นที่รู้กันว่า Elon Musk ผู้ก่อตั้ง Tesla เชื่อว่า AI เป็นภัยต่อมวลมนุษยชาติ เช่นเดียวกับ Stephen Hawking ผู้เป็นทั้งนักฟิสิกส์ทฤษฎีและนักจักรวาลวิทยา
AI สามารถเป็นพลังด้านดีได้หรือไม่? หรือว่ามันควรเป็นสิ่งที่เราต้องระแวดระวังไว้โดยธรรมชาติกันแน่