Please wait...
SOLUTIONS CORNER
โลกพร้อมสำหรับโทรศัพท์พับได้แล้วรึยัง

โลกพร้อมสำหรับโทรศัพท์พับได้แล้วรึยัง?

โทรศัพท์พับได้

ด้วยโมเดลใหม่ที่เหนือจินตนาการ เราจะมาดูโทรศัพท์พับได้รุ่นแรกและถามว่าพวกเขาเร่งทำตลาดเกินไปหรือไม่
 
เมื่อนึกถึงโทรศัพท์หรือแท๊บเล็ตพับได้ Samsung และ Huawei อาจจะเป็นชื่อแรกๆที่คนนึกถึง แต่ความจริงแล้วสองแบรนด์นี้ยังถือว่ามีขนาดเล็กกว่ามากหากพูดถึงบริษัท Royale ที่ได้รับเกียรติ์เป็นเจ้าแรกในตลาดโทรศัพท์และแท็บเล็ตพับได้ แม้ว่า FlexPai อาจจะดีที่สุดในตัวมันเอง มันยังถือเป็นประวัติศาสตร์ในการอธิบายปัญหาอุปกรณ์ประเภทนี้เช่นกัน ในช่วงแรกเจ้าสิ่งนี้ถูกเรียกว่า "สวยแต่รูปจูบไม่หอม" เพราะมีระบบปฏิบัติการช้าเมื่อมีการเปลี่ยนหน้าจอ อย่างไรก็ตามการออกแบบของมันยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมากเพราะมันมีลักษณะที่ผสมผสานระหว่างแท็บเล็ตกับนาฬิกาของ Salvador Dalí
 
แต่ก็ไม่ใช่ว่าข้อเสนอของ Samsung และ Huawei จะทำออกมาได้ดีกว่าสักเท่าไหร่เพราะ Galaxy Fold และ Mate X ได้ถูกเปิดตัวก่อนงาน MWC ในปี 2019 เพียงเพื่อการประโคมข่าวให้ดูเหมือนว่าเราจะได้สัมผัสกับรูปแบบการออกแบบสมาร์โฟนใหม่ที่มีความโดดเด่น และเพียงหนึ่งปีให้หลัง Mate X มีวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น ในขณะที่ Galaxy Fold ก็ได้รับการอธิบายว่า "เปราะบางไม่ทนทาน"
 

การแสดงความยืดหยุ่น

Chris Harrison ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon กล่าวว่า “ ‘สิ่งแรก’ ของทุกสิ่งมักจะมีปัญหาเสมอ” “หลายปีที่ผ่านมาบริษัท OEM หลายเจ้าได้ผลักดันให้มีการสร้างหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆโดยเพิ่มขนาดของโทรศัพท์และถอดกรอบข้างๆทั้งหมดออก ซึ่งในทุกวันนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากเรายังต้องการให้อุปกรณ์เหล่านี้ยังคงอยู่ในกระเป๋าของเรา ดังนั้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการพื้นที่หน้าจอจำนวนมากไม่ว่าจะเพื่อใช้ในการชมภาพยนตร์ ตรวจสอบสเปรดชีต อ่านหนังสือ หรืออะไรก็ตามที่ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการใช้งาน โทรศัพท์แบบพับได้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดูเหมาะสมเลยทีเดียว"
 
แท้จริงแล้วเทคโนโลยีพื้นฐานของจอแสดงผลแบบโค้งงอได้มีอยู่ในการทำงานมามากว่าทศวรรษแล้ว และในปี 2013 Samsung ได้เปิดตัววิดีโอคอนเซ็ปต์ในงาน CES  ซึ่งมันไม่ได้แตกต่างจากที่เรามีอยู่แล้วในสมาร์ทโฟนทั่วไปมากเท่าไหร่นัก เพียงแค่มีพลาสติกโพลีเมอร์ชั้นที่บางมากมาใช้แทนกระจกแบบเดิม
 
ความท้าทายทางเทคนิคที่แท้จริงของการสร้างส่วนประกอบใหม่นี้คือทุกสิ่งรอบๆจอแสดงผล ส่วนประกอบที่สำคัญตั้งแต่แบตเตอรี่ไปจนถึงแชสซีจะต้องมีการคิดที่แตกต่างกันเพื่อให้สามารถพับได้หลายครั้ง ซึ่งบานพับของ Galaxy Fold นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีว่าการออกแบบนั้นซับซ้อนเพียงใด เนื่องจากมันประกอบด้วยเฟืองและใบพัดจำนวนมากคล้ายกับนาฬิกา
 
Harrison อธิบายว่า “ผู้คนไม่ควรตัดสินความคิดเกี่ยวกับอุปกรณ์รุ่นแรกนี้ แต่ควรเป็นรุ่นที่สองและรุ่นที่สาม เพราะเทคโนโลยีมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างที่เราได้เห็นมาก่อนหน้านี้แล้วในระบบคอมพิวเตอร์ที่พร้อมรองรับการทำงานของผู้ใช้งานในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นระบบเครือข่าย การจัดเก็บข้อมูล การทดสอบระบบหรือการติดตั้งฐานข้อมูล หรือการใช้งานซอฟต์เฉพาะด้านในธุรกิจต่างๆ โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องติดตั้งระบบทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไว้ที่สำนักงานให้ยุ่งยาก แต่สามารถใช้งานในสิ่งที่ต้องการได้ด้วยการเชื่อมต่อกับระบบ Cloud Computing ผ่านอินเทอร์เน็ต
 
 

ถ้าคุณไม่ใช่คนแรกคุณจะกลายเป็นคนสุดท้าย

Rob Baillie ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์พกพาที่ Comparemymobile.com กล่าวว่า อุปกรณ์พับได้นั้นตอบสนองความต้องการน้อยกว่าการมองหาปัญหาและวิธีแก้ปัญหา
 
เขากล่าวว่าความผิดพลาดใน Galaxy Fold ของ Samsung บ่งบอกว่าบริษัทอาจต้องเร่งออกแบบเพื่อให้แน่ใจว่านี่จะเป็นหนึ่งใน “โทรศัพท์พับได้" รุ่นแรกๆที่ได้ถูกแนะนำให้โลกรู้จัก
Rob Baillie ยังกล่าวเพิ่มว่า “หาก Samsung ใช้เวลาในการทำให้โทรศัพท์สมบูรณ์แบบได้ก็ไม่จำเป็นต้องกลับไปที่กระดานวาดภาพเพื่อทำให้มันถูกต้องในการลองครั้งที่สอง การทำให้หน้าจอทนทานพอที่จะพับและกางออกหลายๆครั้งได้คือกุญแจสำคัญของสินค้านี้”
 
Galaxy Fold ได้รับการกล่าวขานว่าสามารถทนต่อการเปิดและปิดได้ถึง 200,000 ครั้ง แต่หน่วยตรวจสอบได้เผยแพร่การทดสอบในเดือนเมษายนปี 2019 กลับทำมันพังภายในหนึ่งวัน นอกจากนั้นยังมีรายงานการกระแทกและการแสดงผลที่ผิดพลาดเกิดขึ้นหลายส่วนและการตรวจสอบภายในของ Samsung เองก็พบว่าประสิทธิภาพการใช้งานของบานพับด้อยลงจากการตรวจสอบในครั้งแรก เศษซากกระเด็นไปรอบๆของตัวเครื่องด้านใน จึงเป็นผลทำให้กำหนดการเปิดตัว Galaxy Fold นั้นถูกเลื่อนไปหลายต่อหลายครั้ง
 
และในที่สุด Galaxy Fold ก็ได้เปิดตัวในเดือนกันยายน หากแต่ยอดขายก็ไม่ดีเท่าที่ Samsung คาดหวังไว้ บริษัทต้องถอนคำสั่งการจำหน่ายในเดือนธันวาคมโดยอ้างว่าขายได้ถึงหนึ่งล้านหน่วย แต่ก็ยังคงคลุมเครือเกี่ยวกับตัวเลขจริง โดยประธานกรรมการบริหาร Koh Dong-jin ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าในงาน CES ปี 2020 ว่า “ฉันคิดว่าเราขายสมาร์ทโฟน Galaxy Fold ได้ 400,000 ถึง 500,000 เครื่อง”

Huawei ก็เป็นเช่นเดียวกัน

เช่นเด๊ยวกันกับ Galaxy Fold เพราะวันเปิดตัว Mate X ของ Huawei ก็ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดโดยย้ายจากเดือนเมษายนเป็น "เร็วๆนี้" ซึ่งบริษัทก็ไม่ได้อธิบายว่าเพราะเหตุใด ทำให้ให้มีการคาดเดาว่า Huawei อาจต้องการหลีกเลี่ยงชะตากรรมแบบ Samsung นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่ซับซ้อนมากกว่านั้นอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯสั่งห้ามธุรกิจอเมริกันทำการค้ากับบริษัทจีน
 
 “แบรนด์ Huawei ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน” Roberta Cozza ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Gartner กล่าว “ส่วนหนึ่งของความสำเร็จคือความสามารถในการทำให้ยุโรปตะวันตกเข้าถึงบริการของ Google ได้ ซึ่งนี่ถือเป็นส่วนสำคัญของการนำเสนอโดยรวมของโทรศัพท์ Android ไม่ว่าจะเป็น Huawei, Samsung หรือแบรนด์อื่นๆ ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเขาและฉันคิดว่าพวกเขาไม่สามารถเปิดตัวอุปกรณ์บางตัวได้และแน่นอนว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับข้อจำกัดที่สำคัญบางอย่าง”
 
Huawei กำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ของตัวเอง แต่ระบบนี้มีไว้สำหรับอุปกรณ์ IoT เท่านั้นไม่ใช่สำหรับสมาร์ทโฟนและสมาร์ทโฟนพับได้ นอกจากนี้ Huawei ยังได้ประกาศสิ่งจูงใจเป็นเงินสดเพื่อใช้ในการช่วยพัฒนาระบบของแอพต่างๆ แต่อย่างที่ Cozza ได้อธิบายไว้ว่านักพัฒนาอาจต้องการอย่างอื่นมากกว่าเงิน
 
เธอกล่าวต่อว่า “คุณอาจคาดหวังว่าแบรนด์เหล่านี้จะพยายามและให้นักพัฒนาพิจารณาถึงสิ่งที่จะเป็นไปได้ในอุปกรณ์ที่พับได้” และ “มันเป็นเรื่องของการเติบโตของระบบของนักพัฒนาโดยใช้ปัจจัยรูปแบบใหม่ๆเหล่านี้ ด้วยสิ่งเหล่านี้เองมันต้องใช้เวลาและฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจเพราะนักพัฒนาซอฟต์แวร์ก็ต้องการรู้ถึงปริมาณก่อนที่จะทำการตกลงเช่นกัน นวัตกรรมจำเป็นต้องก่อให้เกิดประโยชน์ที่ชัดเจนสำหรับผู้ใช้และฉันคิดว่าตอนนี้มันยังเร็วเกินไป”

เริ่มที่จะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

นี่คือหมวดหมู่ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นและจากข้อมูลของ Cozza เราจะได้เห็นผู้ขายลองใช้รูปแบบต่างๆ ตอนนี้เรากำลังอยู่ในขั้นตอนที่พวกเขาพยายามหาว่าอะไรจะเป็นที่ดึงดูดในตลาดจริงๆ และสิ่งนี้ก็มีความจริงเป็นอย่างมากเนื่องจาก Motorola และ Samsung ได้เปิดตัวอุปกรณ์พับได้แบบฝาพับใหม่

เธอกล่าวเสริมว่า “ผู้ขายที่มีกำลังในการพัฒนาจะทำการทดลองเจ้าสิ่งนี้ต่อไปและฉันคิดว่าเราจะได้เห็นรูปแบบต่างๆเรื่อยๆ” “อุปกรณ์ Motorola เป็นอีกตัวที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะมันมีการออกแบบที่โดดเด่นและถ้าเราเริ่มคิดได้ว่าใครจะซื้ออุปกรณ์นี้ นั้นหมายความว่าความท้าทายได้มาถึงแล้ว”
 
แน่นอนความท้าทายคือเรื่องของราคา Razr มีราคาอยู่ที่ 1,500 เหรียญสหรัฐ (1,145 ปอนด์) เป็นอุปกรณ์ที่หรูหรามากและอยู่ภายใต้รายงานความเปราะบางแล้ว ซึ่งมันมีราคาถูกกว่า Z Flip เพียงเล็กน้อยแต่ก็มีการถูกอ้างว่ายังมีข้อผิดพลาด
 
นั่นเป็นเงินจำนวนมากที่จะใช้จ่ายกับเทคโนโลยีที่บอบบางนี้ แต่ถ้าเราต้องการให้อนาคตของทุกคนมีโทรศัพทพับได้ ตอนนี้อาจจะต้องมีใครสักคนต้องยอมเสียสละก่อน


ที่มา: https://bit.ly/3aYXbct
ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์