AMD ฟาดยอดขายเกินกว่าที่คาด หลังรายได้พุ่งทะยานใน Q4
AMD ฟาดยอดขายเกินกว่าที่คาด หลังยอดรายได้พุ่งทะยานในไตรมาสที่ 4
ยอดขายตัวประมวลผลเซิร์ฟเวอร์ของ AMD พุ่งเกิน 50% ในช่วงสามเดือนดังกล่าว ทำให้ยิ่งใกล้ตามทัน Intel ขึ้นเรื่อย ๆ
ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 ธุรกิจเซิร์ฟเวอร์และชิปของ AMD มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 176% ต่อปี
11% ของรายได้มูลค่ากว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปีนั้น มาจากไตรมาสก่อนหน้าที่ตลาดมีอุปสงค์สินค้าจำพวกเกมคอนโซลและแล็ปท็อปสูง ซึ่งช่วยให้ AMD ปิดยอดรายปีได้สูงไม่แพ้กัน
ยอดขายตัวประมวลผลเซิร์ฟเวอร์ของ AMD ยังเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในช่วงสามเดือนดังกล่าว อันเนื่องมาจาก CPU Epyc รุ่นล่าสุดของ AMD ที่ท้าทายความเป็นเจ้าตลาดของ Intel อย่างไม่ลดละ
ผลกำไรเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นนี้ต่อไปสำหรับผู้ผลิตชิปในไตรมาสปัจจุบันซึ่งมีการคาดการณ์อย่างแน่ชัด AMD คาดว่ารายได้จะแตะยอด 3.3 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของ 2021 ซึ่งจะถือว่าเป็นยอดเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบปีต่อปีอันน่าประทับใจ
ผลลัพธ์ดังกล่าวยิ่งชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าอันรวดเร็วของธุรกิจตัวประมวลผล 7nm ของ AMD ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับผลกำไรอย่างมากในตลาดชิป แล้วยังมีรายได้โดยรวมในปี 2020 เพิ่มขึ้น 45%
ดร. ลิซา ซู CEO ของ AMD กล่าวว่า “ธุรกิจของเราได้มีการเร่งความเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2020 เห็นได้จากยอดรายได้ต่อปีที่พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์พร้อม ๆ กับอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นและรายได้สุทธิสองเท่าจากปี 2019”
"แนวโน้มทางการเงินในปี 2021 ของเรายังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราและความต้องการอุปกรณ์ประมวลผลประสิทธิภาพสูงจำนวนมากในตลาดพีซี ตลาดเกมและตลาดศูนย์ข้อมูล เรารู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสในภายภาคหน้าและมั่นใจในกลยุทธ์ระยะยาวจากการดำเนินตาม Roadmap สู่ความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ของเรา"
รายรับตลอดทั้งปีของ AMD อยู่ที่ 9.76 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถึงแม้จะต่ำกว่า Intel อย่างมีนัยสำคัญ แต่ AMD ที่มีขนาดเล็กกว่าก็ทำประโยชน์จากบริษัทขนาดใหญ่กว่าได้เช่นกัน Intel รายงานว่าตนมีรายรับอยู่ที่ 20 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1% จากสามเดือนก่อนหน้า
เห็นได้ว่าความล่าช้าในการผลิตชิป 7nm ของ Intel ที่ถูกรายงานอย่างแพร่หลายก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบกับกำไร แต่ยังส่งผลให้ AMD แย่งส่วนแบ่งตลาดไปได้อีกด้วย ความเปลี่ยนแปลงในหมู่ผู้บริหารอย่างการที่ บ๊อบ สแวนก้าวลงจากตำแหน่งและแพท เกลซิงเกอร์เข้ารับตำแหน่งแทนอาจนำไปสู่ประสิทธิภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นก็เป็นได้
ที่มา: https://bit.ly/3qJnV8b