Biometric เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ถูกนำมาใช้มากขึ้นในโลกธุรกิจ
Biometric เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ถูกนำมาใช้มากขึ้นในโลกธุรกิจ
Biometricเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับพิสูจน์อัตลักษณ์ตัวตนที่วันนี้เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นในหลาย ๆ วงการ และกลายเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการนำมาใช้ภายในองค์กรธุรกิจ
ใครที่เคยไปต่างประเทศไม่ว่าจะไปท่องเที่ยวหรือทำงานก็ตาม ก็คงทราบกันดีว่าจำเป็นจะต้องมีขั้นตอนในการยื่นวีซ่าให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ บางประเทศแค่ยื่นเอกสารก็จบขั้นตอน แต่สำหรับในบางประเทศจะมีความเข้มงวดมาก มีขั้นตอนที่หลากหลายทั้งเรื่องของการถ่ายรูป สแกนนิ้วมือ บางที่ต้องสแกนใบหน้า ต่าง ๆ นานาแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เป็นขั้นตอนของการยืนยันอัตลักษณ์ตัวบุคคลทั้งสิ้น และปัจจุบันประเทศที่ต้องมีการยืนยันตัวตนเข้มงวดเหล่านี้ก็มีการนำเทคโนโลยีที่เรียกว่าBiometricเข้ามาช่วย นอกจากจะใช้ยืนยันตัวตนในเรื่องการเดินทางเข้าออกประเทศแล้ว ทุกวันนี้ภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจใหญ่ ๆ ก็เริ่มมีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวนี้มาปรับใช้ภายในองค์กรรวมถึงรูปแบบการให้บริการของตนเองในแบบดิจิตอลด้วย แล้วเทคโนโลยีนี้คืออะไรกันแน่ ไปหาคำตอบกัน
Biometricคือเทคโนโลยีอะไร
หากจะกล่าวกันง่าย ๆ Biometricก็เป็นการพิสูจน์หรือยืนยันอัตลักษณ์ตัวบุคคล แต่มีความพิเศษตรงที่ว่าจะมีการผสานเทคโนโลยีหลาย ๆ สาขาเข้ามา อย่าง เทคโนโลยีด้านชีวภาพ เทคโนโลยีและความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ด้านโครงสร้างและสรีระวิทยา รวมไปถึงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้าไว้ด้วยกัน โดยจะนำสิ่งเหล่านี้มาจดจำและวิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพของบุคคลแต่ละคน เช่น ลายนิ้วมือของแต่ละคน รูม่านตา โครงสร้างใบหน้า จากนั้นก็จะมีการนำเข้าข้อมูลไปเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล เพื่อใช้ยืนยันตัวตนของบุคคลคนนั้นในกรณีต่าง ๆ ซึ่ง Biometricนั้นถูกนำมาใช้เพื่อทดแทนเรื่องการเข้ารหัสความปลอดภัยแบบ Username และ Passwordที่เคยใช้กันมาแบบดั้งเดิม เพราะการเข้ารหัสแบบนี้นั้น มีโอกาสเจาะระบบได้ หรือบางทีคน ๆ นั้นลืมรหัสก็จะเกิดปัญหายุ่งยากตามมา ไม่สามารถเข้าใช้งานหรือใช้บริการต่าง ๆ ได้นั่นเอง
Biometricเริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลาย
ในยุคก่อนเทคโนโลยียืนยันอัตลักษณ์ตัวบุคคลแบบนี้จะมีใช้กันก็ในเฉพาะเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง หรือการใช้ในห้องแล็บต่าง ๆ ในปัจจุบันเทคโนโลยี Biometricทุกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งในภาคธุรกิจและภาคประชาชนคนทั่วไป และในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอย่างคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนนี่เองที่ทำให้เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ลงไปถึงผู้บริโภครายบุคคล เพราะเราจะเห็นว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ทุกเครื่องล้วนมีเทคโนโลยีสแกนนิ้วและสแกนม่านตาเพื่อปลดล็อคเครื่องกันหมดแล้ว สำหรับในองค์กรธุรกิจต่าง ๆ ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก ก็เริ่มนำระบบนี้ไปใช้เพิ่มความปลอดภัยให้กับสถานที่ ทรัพย์สินและข้อมูลของตนเองด้วย บางบริษัท มีห้อง Serverเล็ก ๆ ของตนเอง หน้าประตูยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยแบบนี้ อย่างการต้องสแกนนิ้วหรือสแกนม่านตาก่อนเข้าใช้งานในห้องก็มีด้วย เรียกว่าเทคโนโลยีนี้เริ่มแพร่หลายมากขึ้นทำให้เราสามารถรักษาความปลอดภัยและรักษาความเป็นส่วนตัวกันได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
อีกไม่ช้าเทคโนโลยี Biometricจะก้าวหน้าไปมากกว่าการการสแกนนิ้วและม่านตา จะเริ่มมีการพัฒนาการตรวจจับพฤติกรรมเฉพาะของแต่ละบุคคลมาใช้ในการยืนยันตัวตนด้วย เช่น เสียงพูด การเคลื่อนไหวมือ การเดิน การเคาะแป้นพิมพ์ อย่างนี้เป็นต้น ตอนนี้เริ่มมีการพัฒนากันแล้ว และคาดว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะเริ่มถูกนำมาใช้กันอย่างจริงจังและแพร่หลายมากขึ้น