HPE SimpliVity กับรางวัล Gartner Peer Insights Customers’ Choice
HPE SimpliVity กับรางวัล Gartner Peer Insights Customers’ Choice ด้าน HCI ประจำปี 2019
การรับฟังความคิดเห็นจากบุคคลอื่น ที่ให้คะแนนผลิตภัณฑ์และบริการว่าเป็นอย่างไรนั้น จะช่วยผู้บริโภคในแง่ของการตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้รางวัลที่ได้จากการคัดเลือกของลูกค้า (Customer Choice Awards) เป็นที่นิยมในหลายอุตสาหกรรม โดยรางวัลเหล่านี้จะช่วยยืนยันว่าธุรกิจดังกล่าวได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในระดับสูงสุดจากลูกค้าของพวกเขา ซึ่งเป็นบุคคลจริงๆ ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกและการแสดงความคิดเห็น (Review) ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่พวกเขาใช้
การได้รับคัดเลือกจากGartner Peer Insights Customer Choice ก็เช่นกัน เนื่องจาก Gartner Peer Insights เป็นแพลตฟอร์มการตรวจสอบผลิตภัณฑ์และบริการด้านไอทีระดับองค์กรที่มีประสิทธิภาพ ที่ให้บริการตรวจสอบความคิดเห็นของลูกค้าที่มีจำนวนมากกว่า 180,000รีวิว จาก 320 ตลาดที่กำหนดไว้ ซึ่งทาง Gartnerก็ได้ใช้การยอมรับจากรางวัลPeer Insights Customer Choice ของพวกเขา เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของผู้ขายที่ได้รับคะแนนสูงสุด โดยลูกค้าของพวกเขาเอง และในการตัดสินเพื่อมอบรางวัลให้แก่ผู้ขาย Gartner Peer Insights จะใช้ความเห็นที่ส่งมาจากผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์นั้นๆ โดยตรง(End user) ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว และยังต้องคำนึงถึงจำนวนความคิดเห็นของผู้ขายและคะแนนโดยรวมของผู้ใช้ ซึ่งทาง Gartner ได้อธิบายว่า "การจัดอันดับที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดจากบุคคลในระดับเดียวกันนี้ อาจกลายเป็นส่วนประกอบที่มีประโยชน์ต่อการแสดงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากมันเป็นการมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ตรงจากการใช้งานและการลงมือปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาของบุคคลในระดับเดียวกัน"
เพื่อให้แน่ใจว่าการประเมินผลจะเป็นไปอย่างยุติธรรมGartner จึงพยายามรักษากฎเกณฑ์ที่เข้มงวดในการจำแนกผู้ขาย (Vendor)ด้วยการประเมินอัตราความพึงพอใจของลูกค้า (Customers Satisfaction) ที่มีระดับสูงสุด
HPE SimpliVity กับความสำเร็จด้าน HCI ที่การรันตีด้วยรางวัล Consumer Choice Award ประจำปี2019
เมื่อเร็วๆ นี้HPE ได้รับเลือกให้เป็นผู้รับรางวัลPeer Insights Customers’ Choicae ด้าน Hyperconverged Infrastructure ประจำปี 2019จาก Gartnerโดยรางวัลดังกล่าวนี้จะถูกมอบให้กับโซลูชั่นHyperconverged Infrastructure (HCI) ที่ดีที่สุด ซึ่งผ่านการตรวจสอบโดยลูกค้าผู้ใช้งานจริง เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่าง โดยผู้ขายจะต้องได้รับการแสดงความคิดเห็นที่มีการเผยแพร่ขั้นต่ำ50 ครั้ง และมีคะแนนโดยรวมเฉลี่ย 4.2 ดาว หรือสูงกว่านั้น และ HPE SimpliVity ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับคะแนนโดยรวม 4.5 จากคะแนนเต็ม 5.0 ที่มาจากบทวิจารณ์ที่มีการเผยแพร่ซึ่งได้รับการตรวจสอบแล้ว200 รายการ โดย 174 รายการนั้นเป็นของ HPE SimpliVity, ข้อมูล ณ วันที่ 19 มีนาคม 2019
ข้อความด้านล่างนี้เป็นความคิดเห็นที่หลากหลายจากลูกค้า HPE SimpliVity ที่มีส่วนร่วมกับการรับรองจาก Gartner Peer Insights:
"[HPE] SimpliVity เป็นโซลูชั่น Hyperconvergedที่ดีที่สุดที่สามารถใช้ได้ในขณะนี้ ...แต่อาจจะต้องระวังคู่แข่งอื่นๆ ที่จะบอกว่าพวกเขาเป็นโซลูชั่นด้าน Hyperconvergedที่แท้จริงด้วยเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้นซึ่งนั่นไม่ใช่ทั้งหมด โดยหลายๆ คนก็ยังคงต้องการโซลูชั่นสำหรับการสำรองข้อมูล (Backup Solution) ที่แยกต่างหาก" - ผู้จัดการฝ่าย IT, อุตสาหกรรมการผลิต
“มันเปรียบได้กับ Swiss Army knife เครื่องมือที่มากด้วยความสามารถ สำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (IT Infrastructure) หรือ DevOPs ทีม ซึ่ง [HPE SimpliVity]นั้น ช่วยให้การจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและการดำเนินงานในกลุ่มเล็กๆ ง่ายขึ้น ในส่วนของความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ มันเป็นทั้งอุปกรณ์ที่ช่วยในการจัดเก็บข้อมูล (Storage), สำรองข้อมูล (Backup),ขจัดความซ้ำซ้อนของข้อมูล (Deduplication) และโซลูชั่นที่ช่วยในการสำรองระบบทั้งระบบ (Disaster Recovery Solution) ที่รวมอยู่ในเครื่องๆ เดียว ซึ่งสามารถปรับขยาย (Scale Up) ตามความต้องการทางธุรกิจที่กำลังเติบโตของคุณ และด้วยโมดูลต่างๆ ที่เพิ่มเข้าไปนั้น มันสามารถลดความซับซ้อน (Simplify)ของเครือข่ายและบริหารจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัย (Security Management) รวมทั้งยังช่วยให้แพลตฟอร์มสำหรับ DevOPs ทีม มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น”– Senior IT Specialist, ด้านโครงสร้างพื้นฐานและปฏิบัติการ
“[HPE SimpliVity] จัดว่าเป็นแพลตฟอร์ม Hyperconverged ระดับองค์กร (Enterprise-grade)ที่เพิ่มความเร็วให้กับการทำงานของแอพพลิเคชั่นและยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการสำรอง/กู้คืนข้อมูลของVirtual Machine (VM) ให้ดีขึ้น”- Senior Network Architect, ด้านการเงิน
การขับเคลื่อนนวัตกรรม
ลูกค้าของ HPE SimpliVity Hyperconverged จากทั่วโลกกำลังได้รับประสบการณ์ในการปรับใช้งานด้านไอที (IT deployments) ที่เร็วยิ่งขึ้น, มีวงรอบของเวลาในการผลิต (Cycle Time) ที่ดีขึ้น รวมทั้งยังพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของผลผลิต (Productivity Gains) ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนทำให้ HPE SimpliVity มีการเติบโตที่เร็วกว่าอัตราการเติบโตของตลาดด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ (HCI)โดยวัดได้จากอัตราการเติบโตของตลาดด้าน Hyperconvergedที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในอัตรา67.2% แต่ HPE SimpliVity กลับมีอัตราการเติบโตที่เหนือกว่า ด้วยอัตราการเติบโตที่มากถึง 100.6%เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ทาง HPE ยังมองเห็นศักยภาพในการทำงานของ HPE SimpliVity ที่ขับเคลื่อนโดยIntel®ในการบูรณาการศูนย์ข้อมูลภาครัฐ (Data Center Consolidation), การนำเทคโนโลยี Virtualization มาใช้กับ Desktopเพื่อเสริมความสามารถในการบริหารจัดการ (Virtual Desktop Infrastructure: VDI), อุปกรณ์ปลายทาง (Edge)และในกรณีของสำนักงานที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและสำนักงานสาขา (Remote Office/Branch Office: ROBO) นอกจากนี้บริษัทต่างๆ อย่าง Alterra Mountain Company, The Jackson Laboratory, Princeton Holdings, Promesa และลูกค้าอื่นๆ อีกนับพันรายของ HPE SimpliVity ก็กำลังเปลี่ยนจากการใช้เวลาและทรัพยากรที่มีค่าในการดำเนินการ เพื่อไปสู่การขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจ (Business Outcomes) และนวัตกรรม (Innovation)อย่างแท้จริง
สาเหตุที่ทำให้HPE มีชื่อเสียงโด่งดังไกลจนเป็นที่รู้จักของคนไปทั่วโลกนั้น ก็เนื่องมาจากการช่วยเหลือให้ลูกค้าของพวกเขาสามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการลดความยุ่งยากและกระตุ้นให้มีการเปิดใช้บริการใหม่ๆ ของไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud), การพัฒนาเกี่ยวกับวิธีการที่จะช่วยลดเวลาในการนำสินค้าเข้าสู่ตลาด (Time To Market: TTM) ตลอดจนการเร่งให้มีการเติบโตของธุรกิจ (Business Growth)ผ่านกลยุทธ์ Composable Cloud ของ HPE ที่มาพร้อมกับระบบอัตโนมัติ (Automation), ระบบปฏิบัติการต่างๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI (Artificial Intelligence), การรักษาความปลอดภัย (Security) รวมถึงกฎระเบียบและข้อปฏิบัติด้านความปลอดภัย (Compliance) เพื่อส่งมอบโซลูชั่นแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey Solution) ที่สามารถใช้งานได้ง่ายและพร้อมปรับขยายได้ในทันที ในขณะที่ HPE ก็ยังคงมีการทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายต่อไป
จากที่มีปรากฏในประกาศของเราเมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับ Composable Fabric ที่ช่วยเพิ่มทั้งในเรื่องของความคล่องตัว (Agility),ความสามารถในการปรับขยายได้อย่างอิสระ (Friction-free Scaling) และการพัฒนาด้านระบบอัตโนมัติ (Automation) และเชาวน์ปัญญา (Intelligence)โดยในอนาคตอันใกล้นี้เรามีแผนที่จะขยายขีดความสามารถ เพื่อทำตามเป้าหมายขององค์กร (Vision) ในการปรับปรุงระบบปฏิบัติการด้าน IT ให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น ด้วยแพลตฟอร์มHyperconverged ที่ใช้งานง่าย, สร้างความรวดเร็ว ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวให้กับธุรกิจ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าเกี่ยวกับกุลยุทธ์แบบผสมผสานที่ท้าทายที่สุด และยังช่วยให้พวกเขาสามารถนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาปรับใช้กับธุรกิจ (Digital Transformation) เพื่อให้สอดรับกับยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ทำไมความคิดเห็นของลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด?
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาHPE SimpliVity ได้รับคัดเลือกจาก CRN ให้เป็น Product of the Year ประจำปี 2018และยังได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้นำ (Leader) สำหรับ Magic Quadrant ในด้าน Hyperconverged Infrastructure ประจำปี 2018จาก Gartnerอีกด้วย โดยจะเห็นได้ว่าความคิดเห็นของลูกค้านั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ขายทุกราย ที่สุดท้ายแล้วความคิดเห็นเหล่านั้นก็ได้มีส่วนช่วยในการส่งมอบโซลูชั่นที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและยังช่วยในการแก้ปัญหาทางธุรกิจ ซึ่งรางวัลที่ได้รับมาล่าสุดนี้ สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ HPE ที่มีต่อลูกค้า และยังแสดงให้เห็นถึงวิธีที่ HPE ใช้ความคิดเห็นจากลูกค้าเพื่อช่วยในการกำหนดรูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับGartner Peer Insights Customers’ Choice ด้าน Hyperconverged Infrastructure หรือต้องการอ่านความเห็นที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่ใช้โซลูชั่นเหล่านี้ ให้ไปที่ประกาศเกี่ยวกับ Customers’ Choice ของ Gartner และถ้าหากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ HPE SimpliVity สามารถติดตามได้ที่ Gorilla Guide to Hyperconverged Infrastructure Strategy ทางเว็บไซต์ของ HPE
ดูสินค้าเพิ่มเติม: https://www.quickserv.co.th
ที่มา: https://www.cio.com