SSD คือเทรนด์ใหม่ของอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลยุคถัดไปจริงหรือไม่
SSD คือเทรนด์ใหม่ของอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลยุคถัดไปจริงหรือไม่
ในทุกวันนี้เราอยู่ในยุคแห่งข้อมูล และข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างถูกบันทึกและจัดเก็บอยู่ในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ซึ่งในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาอุปกรณ์อย่าง Hard Disk Drive หรือ HDD ทำหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลให้กับพวกเรามาโดยตลอด และเมื่อประมาณ 5 - 6 ปีที่ผ่านมา ก็เกิดกระแสความนิยมอุปกรณ์การจัดเก็บและบันทึกข้อมูลแบบใหม่ที่เรียกว่า ssd ขึ้นมา จนถึงขนาดมีคนกล่าวว่า อุปกรณ์ชนิดนี้จะเข้ามามีบทบาทในการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ แทน HDD ในไม่ช้าและจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่หรือ Generation ใหม่ของโลกการจัดเก็บข้อมูล แล้ว ssd คืออะไร และจะเข้ามามีบทบาทเหนือ HDD จริงหรือไม่ มาหาคำตอบกัน
SSD คืออุปกรณ์อะไร หน้าตาเป็นแบบไหน
อันที่จริงแล้ว ssd คืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลรูปแบบเดียวกันกับ HDD สามารถทำหน้าที่แบบเดียวกันได้ ssd ย่อมาจากคำว่า Solid State Drive ถ้าดูจากชื่อก็จะเห็นว่าเป็นรูปแบบหรือลักษณะของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบ HDD เลย เพียงแต่ว่า ssd จะใช้รูปแบบหน่วยความจำในการเก็บข้อมูลแบบ Flash Memory Chips ซึ่งเป็นลักษณะการจัดเก็บข้อมูลที่ใช้กันในอุปกรณ์ประเภท Thumb Drive แต่การจัดเก็บของ ssd จะให้ความเร็วที่มากกว่าและมีความเสถียรในการรับส่งข้อมูลมากกว่า Thumb Drive ในขณะที่ การจัดเก็บข้อมูลของ HDD นั้นจะมีลักษณะเป็นจานหมุน เลเซอร์จะอ่านข้อมูลตามตำแหน่งที่บันทึกเอาไว้ในจานหมุน ซึ่งจะเห็นว่าแท้จริงแล้ว ssd คือสิ่งที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง HDD กับ Thumb Drive นั่นเอง
จุดเด่นของ ssd คืออะไร
จุดเด่นของ ssd ที่ทำให้คนฮือฮาและยกย่องว่าจะเป็นเทรนด์ใหม่ของการจัดเก็บข้อมูลในไม่ช้านี้ก็คือ
1.ความเร็ว : ความเร็วในการอ่านและบันทึกข้อมูลของ ssd คือสิ่งที่เป็นเสน่ห์อย่างมาก สามารถที่จะอ่านและบันทึกข้อมูลได้เร็วกว่า HDD ถึง 10 เท่าเลยทีเดียว นอกจากอ่านข้อมูลได้รวดเร็วแล้วยังทำงานได้เงียบอีกด้วย
2.การรองรับการกระแทก : ssd จะมีลักษณะคล้าย ๆ กับอุปกรณ์ชิปเซ็ต ฉะนั้นเวลาร่วงหล่น หรือกระทบกระแทกแบบทั่วไปไม่ได้หนักหนา ก็จะไม่กระทบกับข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ภายใน ซึ่งผิดกับ HDD ที่ใช้ระบบจานหมุน หากหล่นหรือกระแทกบริเวณจานหมุนจะเสียหายและกระทบกับข้อมูลภายในทันที
3.ใช้พลังงานน้อยกว่า : เมื่อ ssd สามารถที่จะอ่านและบันทึกข้อมูลได้เร็วกว่าจึงใช้พลังงานน้อยกว่า HDD ด้วย เพราะรูปแบบการทำงานของ ssd จะทำการ burst ครั้งเดียวแบบสั้น ๆ เมื่อต้องการส่งหรือรับข้อมูล จากนั้นระบบการทำงานก็จะหยุดเมื่อไม่มีคำสั่งการใช้งานอ่านหรือเขียนข้อมูล แต่ถ้าเป็น HDD ระบบจานหมุนจะทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อหมุนจานสำหรับบันทึกและหาข้อมูลที่บันทึกอยู่ภายใน มีการหมุนอย่างต่อเนื่องจึงทำให้ใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่โดยตลอด ซึ่งประการนี้ถ้าใช้ตามบ้านทั่วไปอาจจะสังเกตไม่ออก แต่ถ้าหากใช้ในองค์กรและธุรกิจที่ต้องมีการตั้งเครื่อง Server มีการถ่ายโอน Data กันอยู่โดยตลอดเวลา จะสัมผัสได้เลย ตรงนี้เป็นข้อดีที่ทำให้องค์กรประหยัดต้นทุนค่าไฟฟ้าไปได้อีก
ด้วยความโดดเด่นตอบโจทย์การทำงานในยุคความเร็วสูงแบบนี้ จึงทำให้ ssd คือสิ่งที่น่าจับตาและน่าจะเป็นตัวเลือกที่สำคัญในการจัดเก็บข้อมูลในปัจจุบัน แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงและประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลในเชิงลึกที่อาจจะยังไม่ตอบโจทย์เท่ากับ HDD จึงทำให้ขณะนี้โลกยังไม่ก้าวข้าม HDD ไป แต่ถึงอย่างไรเชื่อว่า ssd ก็จะมีราคาที่ถูกลงและประสิทธิภาพดีขึ้นแน่นอนในอนาคต