Virtual Reality เทคโนโลยีสุดล้ำดี ๆ ที่ไม่ได้มีไว้แค่เล่นเกม

Virtual Reality เป็นเทคโนโลยีที่สร้างสภาพแวดล้อมเสมือนขึ้นมาใหม่ เพื่อตอบสนองประสบการณ์การรับรู้ใหม่ ๆ ให้ผู้คน ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นมากกว่าการใช้เล่นเกม

คุณเคยมีประสบการณ์สัมผัสหรือได้สวมใส่สิ่งที่เรียกว่าแว่นVR(VR Headset) กันบ้างหรือไม่ ปัจจุบันมีวางจำหน่ายกันหลายราคาหลายแบรนด์ ซึ่งแว่น VRนี้ก็คือผลผลิตจากเทคโนโลยีที่เรียกว่า Virtual Realityหรือการสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงขึ้นมาเพื่อผู้ใช้งาน ภาพที่ออกมาจะเป็นภาพแบบ 3 มิติ ในมุมมอง 360 องศา เมื่อผู้สวมใสอุปกรณ์นี้หันมองไปทางไหน ภาพที่ปรากฏในอุปกรณ์ก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปตามลักษณะมุมมองการเคลื่อนไหวของเราด้วย ซึ่งบางชนิดยังมีการทำงานร่วมกันกับอุปกรณ์ที่สวมใส่ที่มือ เป็นลักษณะของการจับความเคลื่อนไหว ที่จะทำให้ผู้ใช้งานทั้งเห็นภาพและสามารถจับสัมผัสได้คล้ายเสมือนจริง แม้เทคโนโลยีนี้จะมีความน่าสนใจ แต่ในความเข้าใจของคนส่วนใหญ่ก็ยังมองว่า สิ่งนี้ถูกนำมาใช้ในเรื่องของการเล่นเกมเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงคุณรู้ไหมว่าไม่ใช่แบบนั้นเลย

Virtual Realityถูกใช้ประโยชน์ในแง่ต่าง ๆ มานานแล้ว

สำหรับในบ้านเราแล้วอาจจะจริงที่ว่าเทคโนโลยีVirtual Realityหรือ VRนี้ ถูกใช้กันในแง่ของการเล่นเกมเสียมากกว่า เนื่องจากว่าในบ้านเราไม่ได้เป็นต้นแบบของเทคโนโลยีนี้ จึงมีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีนี้อย่างจำกัด แต่สำหรับต่างประเทศแล้ว Virtual Realityถูกนำมาใช้ประโยชน์ในหลายวงการมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการ Trainingบุคลากรในสาขาต่าง ๆ อย่างในสหรัฐอเมริกา ใช้เทคโนโลยี VRเข้าช่วยในการฝึกทหารอย่างในภารกิจรบทางอากาศ หรือการต่อสู้ในรถถัง ซึ่งทำให้ประหยัดงบประมาณ ค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ และลดความเสี่ยงในการฝึกได้เป็นอย่างมากทีเดียว หรืออย่างการนำไปใช้กับการฝึกนักบินอวกาศในเรื่องของการใช้ชีวิตในสภาวะไร้น้ำหนักขององค์การNASAและยังมีหลาย ๆ ประเทศที่นำ Virtual Realityเข้าไปใช้ในวงการแพทย์สำหรับการ Trainingแพทย์ผ่าตัด และอย่างในยุโรปก็ยังมีการนำไปใช้ในพิพิธภัณฑ์ สำหรับการจำลองสิ่งก่อสร้าง หรืองานศิลปะสำคัญ ๆ ด้วย จะเห็นว่าจริง ๆ แล้วเทคโนโลยีนี้มีใช้กันมาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว และมีประโยชน์มาก เพียงแต่เราไม่ค่อยรู้ว่ามีประโยชน์ในแง่ไหนเท่านั้นเอง

Virtual Realityในอนาคตจะเริ่มถูกผนวกเข้ากับความเป็นจริง

แม้ว่าเทคโนโลยีVR จะดี แต่อย่างไรก็ดีก็ยังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกเสมือน แต่เชื่อว่าในนาคตข้างหน้าอีกไม่กี่ปีนี้ บริษัทชั้นนำด้านไอทีอย่าง Googleและ Facebookจะเริ่มขยับและพัฒนาเทคโนโลยีนี้ไปอีกขั้น โดยจะเริ่มมีการผสานความเป็นโลกเสมือนกับโลกแห่งความเป็นจริงเข้าหากัน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่กำลังจะเกิด แต่เริ่มมีการพัฒนากันแล้ว อย่างในฝั่งของ Facebookมีการคิดถึงสิ่งที่เรียกว่า Virtual RealitySocialขึ้นมาแล้วนั่นก็คือ การให้ผู้ใช้งาน Facebookสามารถสร้างตัวตนเสมือนหรือตัว Avatarของตนขึ้นมาในบริบทโลกเสมือน ซึ่งผู้ใช้งานทุกคนจะสามารถทำแบบนี้ได้ และจะสามารถไปพบกัน พูดคุยติดต่อสื่อสารและทำกิจกรรมร่วมกันได้ในโลกเสมือนนั้น ซึ่งบรรยากาศในโลกเสมือนที่จะใช้พูดคุยสนทนากันผู้ใช้งานก็เลือกได้ว่าจะขึ้นไปคุยกันกลางก้อนเมฆหรือลงไปคุยกันใต้ท้องมหาสมุทรก็ยังได้ เชื่อว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราน่าจะเริ่มเห็นสิ่งนี้เป็นรูปเป็นร่างกันมากขึ้น
เห็นไหมว่าเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างVirtual Reality นี้ล้ำนำสมัยไปไกลกว่าเรื่องของเกมมาก ในบ้านเราคนยังไม่ค่อยรู้และส่วนใหญ่ต้นทุนของเทคโนโลยีนี้ยังสูง จึงยังไม่ค่อยมีใครสนใจกันเท่าที่ควร แต่ในอนาคตเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง จะทำให้ต้นทุนถูกลงและเกิดความแพร่หลาย นั่นทำให้เราจะได้มีโอกาสสัมผัสโลกเสมือนในแบบที่เราไม่เคยคิดว่าจะเจอได้อย่างที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว