ปัจจุบันการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ชาวเน็ตต้องศึกษาและมีความรู้ติดตัวไว้ เนื่องจากในชีวิตประจำวันทุกคนย่อมวนเวียนใช้งานโลกออนไลน์และโซเชียลมีเดียกันอยู่อย่างไม่ขาดสาย การรู้กฎหมาย รวมถึงข้อควรระวังที่อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อทั้งตัวเองและผู้อื่น จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ
ที่มาของพรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก็เนื่องมาจากในปัจจุบันการใช้คอมพิวเตอร์โดยการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตนั้น เป็นการนำเข้าซึ่งข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ มากมายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพ เสียง และรูปแบบวิดีโอ ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นมีทั้งข้อเท็จจริงและข้อมูลที่ถูกปรุงแต่งขึ้นด้วยหลากหลายวัตถุประสงค์ ทั้งด้วยเจตนาการเปิดเผยข้อเท็จจริง การให้ความรู้ การโฆษณา ซึ่งเป็นเจตนาที่ดี รวมถึงเจตนาไปในทางที่ไม่ดี ทั้งด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง หลอกลวง ซึ่งทำให้เกิดปัญหาและคดีความต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย พรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์จึงได้ถูกบัญญัติขึ้น เพื่อให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบและกำกับดูแล มีเครื่องมือที่จะสามารถตรวจสอบการกระทำความผิดและมีบทลงโทษหากเกิดการกระทำผิวเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับบุคคล ส่วนรวม รวมถึงความมั่นคงปลอดภัยของประเทศได้
พรบ.การกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับที่ประกาศใช้กันอยู่ในปัจจุบันเป็นฉบับที่ 2 ปี 2560 ที่ถูกปรับปรุงจากฉบับเดิมในปี 2550 ซึ่งข้อควรระวังก็คือบทบัญญัติเกี่ยวกับลักษณะโทษที่ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายตามพรบ.ฉบับนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่อาจจะเกิดขึ้นได้เพียงแค่ปลายนิ้วคลิก ได้แก่
ที่สำคัญในพรบ.การกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับล่าสุดนี้ ยังได้ระบุบทลงโทษให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งหมายความว่าเจ้าหน้าที่สามารถเอาผิดกับผู้ที่ทำผิดได้ง่ายขึ้นนั่นเอง เพราะฉะนั้นชาวเน็ตทั้งหลายจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะการกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือจากความคึกคะนอง อาจจะนำมาซึ่งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมายได้ การใช้ความรู้และสติปัญญาพิจารณาข้อมูลต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนก่อนการนำเข้าและส่งต่อไปยังเครือข่ายออนไลน์และโซเชียลมีเดีย จึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด