วิธีเปิดใช้งาน Windows Defender

ค้นหาวิธีเปิด Windows Defender ใน Windows 10 และ Windows 11 และปิดอีกครั้งหากจำเป็น

Windows Defender เปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับ Windows Vista ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสในตัวฟรีของ Microsoft ที่ให้การป้องกันระดับพื้นฐานสำหรับเครื่อง Windows มาเป็นเวลาหลายปี โดยความสามารถและประสิทธิภาพได้รับการปรับปรุงทุกครั้งที่ทำซ้ำ

Windows Defender ปรากฏใน Windows ทุกรุ่นตั้งแต่ Vista และยังคงพบได้ใน Windows 10 และ Windows 11 รุ่นที่รองรับในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีการขยายให้ครอบคลุมเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่หลากหลายตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก

เนื่องจากเป็นซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ Microsoft จะแจ้งให้คุณทราบเป็นประจำหาก Windows Defender เปิดหรือปิดอยู่ และจะนำคุณไปยังหน้าจอที่คุณสามารถเปิดใช้งานได้หากต้องการ แต่หากยังไม่เกิดขึ้นคุณสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยตนเอง

Defender เป็นส่วนประกอบป้องกันมัลแวร์ในทางเทคนิคของ Windows แต่ปัจจุบันนี้ยังควบคุมเครื่องมือรักษาความปลอดภัยอื่นๆ มากมายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Windows น่าเสียดายที่การเข้าถึงอินเทอร์เฟซที่ถูกต้องอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของ Windows ที่คุณใช้และอัปเดตใดที่คุณใช้อยู่ เนื่องจากอินเทอร์เฟซผู้ใช้มีการอัปเดตหลายครั้ง

วิธีตรวจสอบว่า Windows Defender ทำงานอยู่หรือไม่

สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำคือตรวจสอบว่า Windows Defender เปิดหรือปิดอยู่
1. ในการดำเนินการนี้ ให้ดูที่พื้นที่แจ้งเตือนตามแถบงาน (ทางด้านซ้ายของการแสดงเวลา และก่อนถึงจุดสิ้นสุดของแถบงาน)
2. มองหาไอคอนเล็กๆ คล้ายโล่ อาจพบได้ในรายการที่ซ่อนไม่ให้เห็น และการคลิกลูกศรชี้ขึ้นควรขยายถาดไอคอนและแสดงแอปทั้งหมดที่กำลังทำงานอยู่

ไอคอน Windows Defender ควรปรากฏในถาดนี้พร้อมเครื่องหมายกากบาทสีแดง (X) หากปิดชุดรักษาความปลอดภัยบางส่วน หรือเครื่องหมายอัศเจรีย์สีเหลืองหากมีปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยของอุปกรณ์ แต่หากไม่มีเครื่องหมายกากบาทหรือเครื่องหมายอัศเจรีย์ แสดงว่าความปลอดภัยของ Windows ของคุณเปิดอยู่และทำงานตามปกติ

วิธีเปิด Windows Defender ใน Windows 10 และ Windows 11

หากคุณเห็นว่า Windows Defender ปิดอยู่ คุณสามารถทำสิ่งต่อไปนี้เพื่อเปิดใช้:
1.        คลิกเมนู Start แล้วพิมพ์ "windows security" ลงในแถบค้นหา
2.        คลิกแอป Windows Security
3.        คลิก 'เปิด' ใต้ 'การป้องกันไวรัสและภัยคุกคาม'

หาก 'เปิด' ไม่ปรากฏบนหน้าจอ:
1.        คลิกเครื่องมือ 'การป้องกันไวรัสและภัยคุกคาม' ที่อยู่ในรายการ 'ความปลอดภัยโดยสังเขป'
2.        เลื่อนลงไปที่ 'การตั้งค่าการป้องกันไวรัสและภัยคุกคาม'
3.        คลิก 'จัดการการตั้งค่า'
4.        คลิกปุ่มสลับสำหรับแต่ละฟังก์ชันเพื่อเปิดใช้งาน

หมายเหตุ: คุณยังสามารถเข้าถึงฟังก์ชันอื่นๆของ Windows Security Center ได้โดยใช้วิธีนี้ เพียงคลิก 'เปิด' ที่แสดงใต้เครื่องมือแต่ละรายการเพื่อเปิดใช้งาน

หลังจากการอัปเดตล่าสุด กระบวนการข้างต้นจะเหมือนกันใน Windows 10 และ Windows 11 อย่างไรก็ตามใน Windows 10 รุ่นเก่าบางรุ่น คุณอาจพบว่า UI แบบเก่าอยู่ หากเป็นไปได้คุณควรอัปเกรดระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากับอินเทอร์เฟซแบบเดิมเหล่านี้

วิธีปิด Windows Defender

โดยทั่วไป Windows Defender จะปกป้องระบบของคุณโดยอัตโนมัติ เว้นแต่คุณจะปิดการใช้งานด้วยตนเองหรือติดตั้งชุดรักษาความปลอดภัยอื่น ในกรณีที่คุณต้องการปิดการใช้งาน Windows Defender คุณสามารถทำได้ดังต่อไปนี้:
1.        Click the toggle buttons on each function to turn them off
2.        คลิกไอคอน Start Menu และค้นหา "Windows Security"
3.        จากที่นี่ เลือก 'การป้องกันไวรัสและภัยคุกคาม'
4.        เลื่อนลงไปที่ 'การตั้งค่าการป้องกันไวรัสและภัยคุกคาม'
5.        คลิก 'จัดการการตั้งค่า'
6.        คลิกปุ่มสลับในแต่ละฟังก์ชันเพื่อปิด
7.        จากนั้นคุณจะได้รับแจ้งป๊อปอัปว่าโปรแกรมปิดแล้ว

ทำไมคุณควรใช้ Windows Defender

แม้ว่า Windows Defender จะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนถึงจุดที่ตอนนี้สามารถแข่งขันกับทางเลือกอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้ใช้มักจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของบุคคลที่สามที่จัดหาโดยผู้จำหน่ายความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ซึ่งมีอยู่มากมายในตลาดทั้งฟรีและแบบเสียเงิน

อย่างไรก็ตาม หากเปิดใช้งาน Windows Defender ในขณะที่เครื่องมือป้องกันไวรัสหรือมัลแวร์ของบุคคลที่สามกำลังทำงานอยู่ ปัญหาการทำงานร่วมกันอาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าขัน เพราะผู้ใช้อาจคิดว่ามีการป้องกันสองเท่าจากโปรแกรมป้องกันสองตัวที่กำลังทำงาน แต่ในความจริงแล้วอาจทำให้ความปลอดภัยของระบบอ่อนแอลง

ตามการประกาศที่ Microsoft Ignite 2021 ขณะนี้ผู้ใช้ทางธุรกิจสามารถเลือก Windows Defender เวอร์ชันที่จ่ายในราคาย่อมเยาได้ เวอร์ชันสำหรับธุรกิจที่ต้องซื้อใช้งานในรูปแบบการสมัครรับข้อมูล สนนราคาอยู่ที่ 2.20 ปอนด์ ต่อผู้ใช้หนึ่งรายเพื่อป้องกันภัยคุกคามที่พบบ่อยที่สุดที่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMB) ที่ต้องเผชิญโดยเฉพาะ ซึ่งแตกต่างจาก Windows Defender ระดับผู้บริโภคที่ฟรี

การใช้ Windows Defender มีข้อดีหลายอย่างที่เหนือกว่าโซลูชันของบริษัทอื่นๆ เช่น Norton หรือ McAfee โดยมีความสะดวกสบายเป็นจุดขายหลัก อีกทั้งเนื่องจากมาพร้อมกับการติดตั้งล่วงหน้าในเครื่อง Windows ของแท้ ผู้ใช้จึงสามารถวางใจได้ว่าสิ่งที่พวกเขาสั่งซื้อจะมาพร้อมกับการป้องกันที่เพียงพอทันทีที่แกะกล่อง

นอกจากนี้ยังฟรีอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพูดได้สำหรับเครื่องมือป้องกันไวรัสหรือมัลแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาดปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมากและอัตราการตรวจจับโดยรวมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพียงแค่นี้คุณก็มีผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยที่ใช้สามารถงานได้อย่างสมบูรณ์แบบที่จะคอยดูแลอุปกรณ์ของคุณในระยะยาวแล้ว

ตามการทดสอบล่าสุดโดย AV-Test.org Windows Defender ได้คะแนน 100% ในแบบฝึกหัดการป้องกันมัลแวร์ ซึ่งเทียบเท่ากับสิ่งที่ดีที่สุดในเกม ข้อเสียเพียงอย่างเดียวที่รายงานคือการรอนานขึ้นเล็กน้อยเมื่อติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่ แต่แน่นอนว่าราคาเพียงเล็กน้อยสำหรับการป้องกัน 100% และเมตริกประสิทธิภาพทั่วทั้งระบบอื่นๆ ก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

นอกจากการป้องกันมัลแวร์ที่แข็งแกร่งแล้ว Windows Defender ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมทั้ง Windows และเบราว์เซอร์ Microsoft Edge หากคุณเป็นส่วนหนึ่งของฐานผู้ใช้ที่กำลังเติบโต

ไบโอเมตริกเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ได้รับความนิยมของ Defender และด้วย Windows Hello ผู้ใช้สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ของตนได้โดยใช้ ID ใบหน้า ลายนิ้วมือ หมายเลขประจำตัวส่วนบุคคล (PIN) หรือรหัสผ่านแบบเดิม แต่หากพวกเขาต้องการใช้แนวทางแบบเก่า การควบคุมความปลอดภัยสำหรับทั้งครอบครัวยังมีให้ใช้งานอยู่ เช่นเดียวกับฟีเจอร์มากมายสำหรับการท่องเว็บอย่างปลอดภัย เช่น การป้องกันการติดตามออนไลน์ เครื่องมือสร้างรหัสผ่าน และเครื่องมือที่จะแจ้งให้คุณทราบเมื่อรหัสผ่านของคุณถูกขโมยจากการละเมิดข้อมูล

ที่มา: https://bit.ly/3hRZfeu