ได้มีการปรับเพิ่มประสิทธิภาพ All Flash ให้เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า ซึ่งพร้อมสำหรับ NVMe และความสามารถในการรองรับหน่วยความจำแบบ SCM (Storage Class Memory)
Hewlett Packard Enterprise (HPE) ได้ประกาศการรีเฟรชพอร์ตโฟลิโอของ Nimble ทั้งหมด ซึ่งเป็นการก้าวไปสู่ "Generation ที่ 5" ทั้งในส่วนของ All Flash Array และ Adaptive Flash Array ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า เมื่อเทียบกับ Generation ก่อนหน้านี้ โดย Jean Paul Bovaird ที่เป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านการจัดเก็บและการบ่มเพาะทางธุรกิจของ HPE ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้มีการพูดคุยกับ ZDNet ก่อนที่จะมีการประกาศเปิดตัวในเรื่องนี้ โดยเขาได้กล่าวว่า "แพลตฟอร์มใหม่ของ HPE Nimble Storage นั้น ได้รับการสนับสนุนโดยการรับประกัน "เพื่อมอบประสิทธิภาพการจัดเก็บที่ดีที่สุดให้กับ All-Flash Array"
แพลตฟอร์มดังกล่าวนั้นถูกออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จาก Storage Class Memory (SCM) และ NVMe และที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ "มันช่วยปกป้องการลงทุนของลูกค้าในระยะยาว"
เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2017 HPE ก็ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการในการเข้าซื้อกิจการของ Nimble Storage ด้วยเงินสดที่มีมูลค่าสูงถึง 1,090 ล้านเหรียญ หรือถ้าคิดเป็นเงินบาทไทยก็อยู่ที่ประมาณ 42,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงเวลานั้น ทางบริษัทได้อธิบายว่า พวกเขาต้องการใช้ Nimble เพื่อเริ่มต้นพัฒนาธุรกิจด้าน Storage ด้วยตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลที่หลากหลายพร้อมทั้งระบบการทำงานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อที่จะมาช่วยเติมเต็มให้กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม HPE 3PAR ที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งยังได้มีการเพิ่มในส่วนของแพลตฟอร์ม Infosight Predictive Analytics ของ Nimble ให้กับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในกลุ่มสตอเรจ (Storage Portfolio) ซึ่งก็นับว่าเป็นแพลตฟอร์มการวิเคราะห์เชิงทำนายระดับแนวหน้าเลยก็ว่าได้
สามารถแบ่งเป็นสามส่วนด้วยกัน ซึ่งในส่วนที่สองนั้น จะเป็นเรื่องของ HPE Store More Guarantee ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของพวกเขา ด้วยความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลดิบ (Raw) ต่อเทระไบต์ (Terabyte) ที่ทำได้มากกว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ
โดยทาง HPE ได้ให้สัญญาว่าจะมอบพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมให้ฟรี ถ้าหากทาง HPE ไม่สามารถรับมือกับประสิทธิภาพการจัดเก็บ (Storage Efficiency) จากคู่แข่งขันประเภท All-Flash ทั้งหมดที่มีในขณะนั้น
"ในขณะที่เรากำลังทำการปรับขยายสภาพแวดล้อมออกไปนั้น เราก็จะเพิ่มในส่วนของการรับประกันจากภาพรวมของแอปพลิเคชั่น (Application Perspective) และจากภาพรวมของความสามารถในการขยายความจุ (Effective capacity) ซึ่งจะทำให้ Nimble สามารถดำเนินการหรือมีความสามารถในการขยายความจุมากกว่าผู้จัดจำหน่าย All-Flash Array รายอื่น ๆ" Bovaird กล่าว
ส่วนที่สามของการประกาศนั้น มุ่งเน้นไปที่ NVMe และ อาร์เรย์ที่พร้อมรองรับหน่วยความจำระดับสตอเรจ (SCM: Storage Class Memory) โดย Bovaird เรียกสิ่งนี้ว่า "Future Proof" หรือ "รองรับอนาคต"
ขณะที่เราเปลี่ยนจากการใช้ฮาร์ดดิกส์แบบจานหมุนที่คุ้นเคยไปเป็น SSD หรือ Flash นั้น ก็ได้มีการปรับปรุงในเรื่องของประสิทธิภาพให้เพิ่มสูงขึ้นรวมทั้งการปรับปรุงความล่าช้าที่เกิดขึ้นจากการทำงานของฮาร์ดดิกส์ ซึ่งหน่วยความจำระดับสตอเรจ (Storage-Class Memory) ก็เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ก้าวต่อไป ที่เราคาดว่าจะเริ่มพบเห็นในกระแสหลักเพิ่มขึ้นในสองสามไตรมาส ถัดจากนี้ไป "เขากล่าว โดยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ Nimble ก็ยังคงดำเนินต่อไป ตามกลยุทธ์การจัดเก็บที่ HPE กำหนดไว้ก่อนหน้านี้, Bovaird ให้คำอธิบาย
"อันดับแรกก็คือ ข้อเท็จจริงที่ว่าสตอเรจในปัจจุบันหรือระบบที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับข้อมูลและโซลูชั่นต่างๆ ต้องเป็นสิ่งที่สามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้นกลยุทธ์ของเราในการขับเคลื่อนสิ่งนี้ จึงช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่แตกต่าง ในขณะที่มีการจัดการและใช้ประโยชน์จากระบบจัดเก็บข้อมูลในสภาพแวดล้อมของพวกเขา" Bovaird กล่าว
"ความคิดของที่นี่ก็คือ การใช้การวิเคราะห์เชิงทำนาย (Predictive Analytics) เช่น เครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมและประสบการณ์สำหรับลูกค้า"
ตามแนวคิดของ Bovaird ก็คือ การวิเคราะห์เชิงทำนายจะเป็นการทำนายแนวโน้มและการป้องกันปัญหาทั้งหมดที่จะอาจเกิดขึ้นภายในโครงสร้างพื้นฐาน ก่อนที่ลูกค้าจะพบกับปัญหาเหล่านั้น ซึ่งมันจะครอบคลุมเฉพาะพอร์ตโฟลิโอโครงสร้างพื้นฐานของ HPE แต่สำหรับแอปพลิเคชั่นจากผู้ขายรายอื่นๆ นั้นจะถูกตรวจสอบโดยเครื่องมือวิเคราะห์ (Analytics Engine)
"สิ่งนี้กำลังดำเนินไปจนถึงระดับแอพพลิเคชั่น (Application Level), ลงไปที่สแต็ค (Stack) จนถึงแต่ละบล็อก (Block) ที่อยู่บนดิสก์ไดร์ฟ" เขายังกล่าวต่อไปอีกว่า "InfoSight ยังสามารถคาดการณ์และแก้ไข Ticket ที่ให้บริการโดยอัตโนมัติ (Automatically) และยังมีส่วนในการผลักดันมาตรฐานการให้บริการ (Service Level Agreement: SLA) ในสภาพแวดล้อมของลูกค้า ได้อย่างแท้จริง"
ดูสินค้าเพิ่มเติม : https://www.quickserv.co.th/
ที่มา : https://www.zdnet.com