การเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและการทำงานให้กับองค์กร ด้วยโซลูชั่น HPE ProLiant Gen10

ในปัจจุบัน ระบบเศรษฐกิจที่เพียบพร้อมไปด้วยความทันสมัยทางด้านไอที ผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งก่อให้เกิดอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งจัดว่าเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อข้อมูลประเภทต่างๆ เหล่าองค์กรธุรกิจต่างก็มุ่งแสวงหาเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม เพื่อเพิ่มผลผลิตและปกป้องข้อมูลทางธุรกิจเป็นสำคัญ ซึ่งธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMBs) ต่างก็ให้ความวางใจการทำงานของ Servers ในรูปแบบ On-Premise ด้วยเทคโนโลยี Hybrid IT ที่เหมาะสม ทั้งนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานแบบ End-to-End จะสามารถช่วยป้องกันข้อมูลขององค์กรให้มีความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น

จากผลการศึกษาของสถาบัน Ponemon ในปีพ.ศ.2016, บริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา พบมูลค่าความเสียหายจากการสูญเสียรายได้เฉลี่ย 9.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการละเมิดข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 21% จากปีที่ผ่านมา โดยในแต่ละวันจะพบว่ามีความพยายามในการละเมิดอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่มากถึง 720 ล้านครั้ง ซึ่งในขณะที่ผู้นำธุรกิจจำนวนมากต้องลงทุนในมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง นอกจากนี้ยังพบว่า 60% ของ SMB ที่ประสบปัญหาจากการโจมตีของอาชญากรรมไซเบอร์ จะต้องมีอันเลิกกิจการภายในระยะเวลาหกเดือน

สำหรับระบบปฏิบัติการแบบเดิมนั้น ไม่เพียงพอที่จะให้ความเร็วและความปลอดภัยแก่บริษัทที่ทันสมัย ด้วยงบประมาณและความเชี่ยวชาญทางด้านไอทีที่มีจำกัด SMBs ต่างก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมในโลกไซเบอร์ (Cyber Crime) ส่งผลทำให้นวัตกรรมมีความสำคัญต่อการเติบโตและความมั่นคงทางธุรกิจของพวกเขา และในวันนี้องค์กรจำเป็นต้องมีระบบ Hybrid IT ที่ให้ความพร้อมในการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ก็เพื่อการเชื่อมระหว่างระบบไอทียุคเก่ากับใหม่เข้าด้วยกัน รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานของระบบ Cloud ที่มีการรักษาความปลอดภัยของเทคโนโลยีภายในองค์กร ที่เจาะลึกลงไปถึงระดับฮาร์ดแวร์

นวัตกรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จ
ธุรกิจ SME ต่างก็ต้องการลงทุนในโซลูชั่นทางด้าน IT ที่เหมาะสมกับธุรกิจของตน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการช่วยลดเวลาในการทำความเข้าใจกับข้อมูลและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมและธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ดั้งนั้น Digital Transformation จึงนับว่าเป็นก้าวแรกที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ

Hewlett Packard เอ็นเตอร์ไพรส์ (HPE) เตรียมความพร้อมให้กับองค์กรที่ต้องการที่จะประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงในอนาคต ด้วยการแนะนำเซิร์ฟเวอร์มาตรฐานอุตสาหกรรม ที่มีความน่าเชื่อถือในด้านการรักษาความปลอดภัยมากที่สุดในโลก เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถดำเนินงานได้อย่างมั่นใจ เซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant Gen10 ให้ประสบการณ์ด้านไอทีที่เหนือกว่า ช่วยเร่งอัตราการทำงาน สำหรับ Workloadsที่มีความซับซ้อน, เพิ่มขีดความสามารถในการปรับใช้ Cloud-Based, และปกป้องข้อมูลที่สำคัญโดยไม่ทำให้พวกเขาใช้งบประมาณที่มากจนเกินไป เปิดเผย ณ วันที่ 5 มิถุนายน, the Gen10 portfolio is the first of its kind จากพอร์ตโฟลิโอ Gen10 พบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทแรกที่ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบซิลิคอน (silicon-based security) ที่ถูกนำมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์มาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาการโจมตีเฟิร์มแวร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดที่องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของเฟิร์มแวร์ ในขณะเดียวกันยังส่งผลให้เกิดความคล่องตัวและความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น

HPE ยังเป็นผู้จำหน่ายรายเดียวที่นำเสนอระบบ Secure Compute Lifecycle โดยฝัง silicon ในเฟิร์มแวร์ ในส่วนของ Silicon Root of Trust ที่สร้างลายนิ้วมือดิจิตอล (Digital Fingerprinting) ลงในซิลิกอน เพื่อป้องกันไม่ให้รหัสเฟิร์มแวร์ที่ถูกบุกรุกทำงานได้และกู้คืนรหัสที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ทำให้คุณมั่นใจ ด้วยความระบบรักษาความปลอดภัยตั้งแต่กระบวนการผลิต, การจัดจำหน่าย, การติดตั้ง ตลอดจนการใช้งาน

เครื่องมือเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยปรับปรุงการดำเนินงานทางด้านไอทีให้กับธุรกิจของคุณ ด้วยกลไกการทำงานที่สำคัญ 3 ข้อ ต่อไปนี้

เป็นวิธีที่ดีกว่า ในการขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจ :
เซิร์ฟเวอร์ Gen10 ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากแอพพลิเคชั่นและข้อมูลของตน, ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อ, ประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงการเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในการจัดการกับระบบ IT Automation ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยโครงสร้างพื้นฐานภายในองค์ และยังเป็นการช่วยเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรให้สามารถสร้างมูลค่าใหม่ได้ในเวลาอันรวดเร็วและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

เป็นวิธีที่ดีกว่าในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล :
HPE ได้มีการนำเสนอระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีการรักษาความปลอดภัย ที่ช่วยป้องกันอาชญากรรมในโลกไซเบอร์ ตั้งแต่ในส่วนของ Core ไปสู่ระบบ Intelligent Edge ไปจนถึงระบบ Cloud

เป็นวิธีที่ดีกว่าในการใช้งานทางด้านไอที :
ผู้ใช้จะได้รับประโยชน์จากการให้บริการการสมัครสมาชิก หรือเทคนิคการ Refresh โปรแกรม ซึ่งการควบคุมทางด้านเศรษฐกิจที่ทำได้มากกว่านี้ ช่วยให้ SMB สามารถลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ (Total cost of ownership: TCO) ได้มากขึ้น รวมถึงความสามารถในการจัดสรรทรัพยากรการประมวลผลที่มีอยู่ในการรักษาความปลอดภัย ให้อยู่ในรูปแบบที่เรียบง่ายและการขยายตัวที่น่าจะเป็นไปได้

การสร้างประสบการณ์ใหม่ทางระบบคอมพิวเตอร์
HPE ProLiant DL360 Gen10 และ HPE ProLiant DL380 Gen10 ที่รวมอยู่ในผลงานการปฏิวัติครั้งนี้ ให้ประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัยที่เหนือกว่า สำหรับสำนักงานขนาดเล็ก, Home Office, และสาขาที่มีสถานที่ที่แตกต่างกันออกไป

DL360 นำเสนอความสามารถในรูปแบบของการประมวลผลแบบเข้มข้น สำหรับสภาพแวดล้อมแบบ Multi-Workload ที่มอบความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขนาดที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการออกแบบ Rack ขนาด 1U ที่เต็มไปด้วยความหนาแน่น เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้สามารถสร้างแพลตฟอร์มด้านความปลอดภัยแบบ 2P สำหรับปริมาณงานที่หลากหลายในสภาพแวดล้อมที่มีพื้นที่จำกัด

ในส่วนของการขยายขีดความสามารถเหล่านี้ DL380 จัดเป็นเซิร์ฟเวอร์ชั้นนำของอุตสาหกรรม เหมาะสำหรับรองรับการใช้งานได้หลายรูปแบบ (Multi-Workload) ด้วยการรักษาความปลอดภัยของระบบ 2P 2U ที่มีความยืดหยุ่นและให้ประสิทธิภาพการทำงานระดับโลก รวมถึงความคล่องตัวสำหรับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย Containers ของ DL380 อนุญาตให้ซอฟต์แวร์ทำงานในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริด ซึ่งได้รวบรวมเอากระบวนการที่ซับซ้อนไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ที่มีความปลอดภัยและเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการแพลตฟอร์ม

แพลตฟอร์ม HPE ProLiant Gen10 ช่วยผู้ใช้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมทางด้านไอทีที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ และด้วยการใช้ประโยชน์จากการสนับสนุนเชิงรุกและการวิเคราะห์เชิงคาดการ โซลูชั่น HPE ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว, ช่วยให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และลดความสูญเสียที่เกิดจากช่วงเวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์หยุดทำงาน (Downtime)

ที่มา: community.hpe.com