Please wait...
IT UPDATE ENTERPRISE
รีวิว Dell EMC PowerEdge C6525

รีวิว Dell EMC PowerEdge C6525: Server ที่พร้อมสำหรับหน่วยประมวลผล EPYC อย่างแท้จริง

รีวิว Dell EMC PowerEdge C6525 
เซิร์ฟเวอร์ Multi-Node ของ Dell ที่ยกระดับ Core Density ขึ้นไปอีกระดับ
 
ซีพียู AMD EPYC 7002 Series นำเสนอ Core Density ของเซิร์ฟเวอร์ที่ Intel ทำได้แค่เพียงฝันเท่านั้น ในขณะที่ PowerEdge C6525 ของ Dell EMC สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างเต็มที่ ภายใต้โครงสร้างของแร็คขนาด 2U นั้นมีพื้นที่สำหรับโหนดเซิร์ฟเวอร์แบบ Dual-Socket มากถึงสี่โหนด ที่รองรับสแต็คของ EPYC 7002 ได้ทั้งหมด ซึ่งก็รวมถึงรุ่น 7Fx2 ใหม่ ที่มีความถี่สูง (High-Frequency) ทำให้สามารถส่งมอบความหนาแน่นสูงสุดได้อย่างไม่น่าเชื่อด้วยหน่วยประมวลผลที่มี 512 Physical Core และ 1,024 Logical Core
 
ด้วยประสิทธิภาพที่มากขึ้น องค์กรต่างๆ สามารถรวมเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องไว้ในระบบเดียว และพวกเขาก็ยังสามารถสร้างศูนย์ข้อมูลที่สมบูรณ์แบบได้อย่างง่ายดายจาก Rack เพียงแถวเดียว ซึ่งโดยปกติแล้วการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (High-performance Computing: HPC) และ Workload ระดับ Hyperscale นั้นถือว่าเป็นแอพพลิเคชั่นเป้าหมาย แต่สำหรับธุรกิจที่ต้องคำนึงถึงต้นทุน คุณยังสามารถที่จะปรับใช้โหนดที่มีการกำหนดค่าเป็น Single-CPU ได้ ในขณะที่ยังคงมี Core Density สูง ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับระบบระบายความร้อน (Cooling) ภายใน Data Center ได้อีกด้วย
 
ทางเลือกการจัดเก็บก็มีดีไม่แพ้กัน เนื่องจาก Chassis รุ่นนี้สามารถใช้ได้กับไดร์ฟ SAS3 / SATA ทั้งแบบ LFF และ SFF รวมถึง NVMe SSD ซึ่งคุณก็อาจจะไม่ต้องใช้ Backplane เลยก็ได้ เพราะแต่ละโหนดนั้นมีตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์เพียงพอแล้ว
 
Chassis C6400 นั้นเป็นรุ่นเดียวกันกับที่โหนด Dell PowerEdge C6420 Xeon Scalable ใช้ โดยที่พวกมันจะมีช่องเสียบอยู่ที่ด้านหลังและทำหน้าที่เป็นหน่วยอิสระ (Independent Units) อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ Chassis ดังกล่าวก็ยังสามารถรองรับ PSU แบบ Hot-plug สองตัว ขนาด 2 X 2,400W ระดับ Platinum ในระบบตรวจสอบของเรา โดยที่ Dell ก็ยังมีรุ่น 2,000W และ 1,600W เพื่อเป็นตัวเลือกให้อีกด้วย
 
พลังงานจะถูกกระจายไปยังโหนดต่างๆ โดยผ่านบอร์ด Mid-Plane ในขณะที่ Expander Backplane ของไดร์ฟที่แยกต่างหากก็จะจัดเตรียมพื้นที่เก็บข้อมูลให้กับแต่ละโหนด โดยที่ทั้งพลังงาน (Power) และสตอเรจ (Storage) จะถูกรวมเข้าด้วยกันอย่างลงตัวในปลั๊กๆ เดียว สำหรับแต่ละโหนด ซึ่งมันสามารถเคลื่อนผ่านเข้าไปที่ด้านหลังของ Chassis ได้อย่างง่ายดาย และใช้ Edge Connector ขนาดเล็ก เพื่อรับบริการทั้งหมดที่กล่าวมา
 
นอกจากนี้ Chassis ดังกล่าวก็ยังสามารถรองรับ Hot-Swap Bay สูงสุด 12 LFF หรือ 24 SFF โดยที่แต่ละโหนดจะได้รับส่วนแบ่งไดร์ฟเท่าๆ กัน ส่วนแบ็คเพลนของ NVMe ที่เป็นอุปกรณ์เสริมจะนำเสนอแต่ละโหนดด้วย NVMe SSD สองตัว และฮาร์ดดิสก์ SFF SAS3/SATA หรือ SSD สี่ตัว
 
ในส่วนของ Air Cooling ทั้งหมดนั้นได้รับการจัดการโดยพัดลมแบบ Dual-Rotor ที่เป็นอุปกรณ์ประเภท Cold-Swap จำนวนสี่ตัว ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันจะทำงานด้วยความเร็วในระดับที่สูงมากๆ หากเสียงรบกวนเป็นปัญหาสำคัญสำหรับคุณและถ้าคุณยังต้องการที่จะใช้ซีพียู 280W TDP EPYC อยู่ ทาง Dell ก็มีข้อเสนอที่เป็นระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (Liquid Cooling) ที่ผลิตโดย CoolIT Systems ซึ่งประกอบด้วย CPU Cold Plate, ท่อ Stainless Steel ที่มีทางเข้าออกหลายทาง, ตัวตัด-ต่อของเหลว (Quick Disconnect) โดยที่จะไม่เกิดการรั่วไหล ตลอดจนโมดูลแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchangers Module)
 

รีวิว Dell EMC PowerEdge C6525 : Node Features

โหนดของ C6525 มีการบรรจุอุปกรณ์ที่น่าทึ่งไว้ในพื้นที่ที่ค่อนข้างเล็ก ซึ่งซ็อกเก็ตทั้งสองของซีพียู EPYC จะถูกจัดเรียงไว้ตรงกลางของเมนบอร์ด โดยที่แต่ละซ็อกเก็ตก็จะถูกขนาบข้างด้วยสล็อต DIMM อีกแปดช่อง
 
ระบบที่เราทำการตรวจสอบนั้นได้รับการติดตั้งด้วย C6525 สองโหนด โดยแต่ละโหนดจะประกอบไปด้วยซีพียู EPYC 7702 แบบ Dual ที่มีจำนวนคอร์ 64-core ความเร็วที่ 2.0 GHz ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำงานร่วมกับโมดูลของ DDR4 RDIMM ขนาด 64GB 3,200MHz จำนวน 16 โมดูล สำหรับความจุสูงสุด 1TB - หรือจะใช้แรมแบบ LRDIMM ขนาด 128GB และคุณก็ยังสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 2TB ต่อโหนด
 
แต่ละโหนดนั้นจะมี Gigabit Port เพียงแค่ 1 พอร์ต ซึ่งสามารถใช้เป็นลิงค์ไปยังคอนโทรลเลอร์การจัดการ iDRAC9 หรือจะเป็น NIC มาตรฐาน ก็ได้ ในส่วนของ OCP 3.0 Mezzanine ที่อยู่ที่ขอบของสล็อตนั้นจะช่วยเพิ่มตัวเลือกเครือข่ายที่มากขึ้น ด้วยคู่ของโมดูล 10GbE แบบ SFP+ ในโหนดของเรา ซึ่ง Dell ก็ยังนำเสนอทางเลือกอื่นๆ อีกมากมายในส่วนของ Gigabit, 10GbE, 25GbE และ 100GbE นอกจากนี้สล็อตดังกล่าวก็ยังรองรับ OCP 3.0 Network Cards ที่เป็นมาตรฐานเปิด (Open Standard) จากพันธมิตรรายอื่นๆ เช่นเดียวกับข้อเสนอของ Dell เอง
 
โหนดดังกล่าวนั้นมีคอนโทรลเลอร์ S150 SATA RAID ในตัว ดังนั้นหากคุณต้องการพื้นที่จัดเก็บประเภท SAS3 คุณจะต้องเพิ่มอะแดปเตอร์ Dell PERC ในแต่ละโหนด ซึ่งนั่นไม่ใช่ก็ปัญหา เพราะพวกเขามี PCIe Risers แบบ Half-Height สองตัว เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
 
นอกจากนี้เรายังได้รับการ์ด PCI-E BOSS (Boot Optimized Storage Solution) ของ Dell ซึ่งใช้เสียบเข้ากับสล็อตเฉพาะที่ด้านหลังของโหนด มันมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูล M.2 SSD แบบ Mirroring เพื่อรันระบบปฏิบัติการ (OS) และคุณก็จำเป็นต้องใช้มันถ้าคุณต้องการใช้ Chassis แบบที่ไม่มีดิสก์ไดร์ฟ (Diskless Chassis)

 
รีวิว Dell EMC PowerEdge C6525 : Node Management

โหนดเหล่านี้ได้รับการเสริมด้วยคอนโทรลเลอร์ iDRAC9 ในตัวอย่างครบถ้วน ดังนั้น ถ้าพูดถึงการจัดการเซิร์ฟเวอร์ก็คงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว ด้วยเว็บคอนโซลที่ลื่นไหลมันจะช่วยให้คุณรู้ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการทำงานของโหนด, ฮาร์ดแวร์และสถานะต่างๆ แม้ว่ามันจะไม่มี CPU Performance Tab ในส่วนของ System Page ด้วยเหตุที่มันยังไม่สามารถรองรับสถาปัตยกรรมของ AMD ได้ นั่นเอง
 
iDRAC9 นั้นมาพร้อมกับ Preload พร้อมด้วยตัวเลือกโปรไฟล์ Performance BIOS ซึ่งสามารถเลือกได้จากเว็บคอนโซล นอกจากนี้โหนดของเราก็ยังมี Enterprise X5 license ที่ใช้เพื่อเปิดใช้งานคอนโซลระยะไกล (Remote Console) และบริการสื่อเสมือน (Virtual Media) ต่างๆ ในขณะที่การสตรีมข้อมูลทางไกล (Streaming Telemetry) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงทำนาย (Predictive analytics) นั้น ได้รับอภินันทนาการจาก Datacenter X5 license
 
เราเรียกใช้ซอฟต์แวร์ OpenManage Enterprise (OME) 3.4 ของ Dell ในห้องห้องปฏิบัติการ โดยการสร้างคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine) ด้วย Hyper-V และเพิ่มโหนด C6525 ทั้งสองของเราเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีการจัดการโดยใช้ iDRAC9 IP Address จากนั้นเว็บคอนโซล OME ก็จะให้รายละเอียดต่างๆ มากมายเกี่ยวกับสถานะของระบบ พร้อมกับตัวเลือกในการควบคุมพลังงานของเซิร์ฟเวอร์, โหลดคอนโซลการควบคุมระยะไกลและทำงานบำรุงรักษา (Maintenance) ตามปกติแบบอัตโนมัติ
 
ในส่วนของ Chassis นั้น มีปุ่มเปิด-ปิดโหนดอยู่สองปุ่มบน Rack Ear แต่ละข้าง ซึ่งก็หมายความว่ามันจะไม่มีที่ว่างสำหรับ Bluetooth Module อย่าง Quick Sync 2 ของ Dell อย่างไรก็ตาม เราก็ยังสามารถเพิ่ม iDRAC9 Address ของแต่ละโหนดลงในแอพพลิเคชั่น OpenManage Mobile (OMM) ซึ่งเป็น App ของระบบปฏิบัติการ iOS บน iPad ของเราได้ด้วยตนเอง และยังสามารถใช้เพื่อตรวจสอบสถานะของพวกมัน, ดูข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด, รับการแจ้งเตือนพร้อมเรียกอ่านข้อมูลเกี่ยวกับสถานะจากเครื่องคอมพิวเตอร์ (Readouts) และเปิดใช้งานคอนโซลเสมือนจากระยะไกล (Remote Virtual Console)
 

สรุป

การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของ Dell กับ AMD เป็นการผลิตโซลูชั่นเซิร์ฟเวอร์ที่โดดเด่นในบางส่วน ซึ่งผลงานชั้นยอดของคู่แข่งก็ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ ช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบ Dell EMC PowerEdge R7525 แร็คเซิฟเวอร์ (Server Rack) ขนาด 2U นั้น เรารู้สึกประทับใจกับ Core Density ของ EPYC และ C6525 ก็นำเอาสิ่งนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
 
การพยายามยัดเยียดเอา EPYC ที่มี 512 Core ลงในพื้นที่แร็คขนาด 2U นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ Dell ก็ประสบความสำเร็จด้วยโซลูชั่นที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาดและมีความยืดหยุ่นสูง (Highly Flexible) นอกเหนือจากโหนดที่ขยายได้อย่างน่าทึ่งแล้วมันก็ยังมีตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลอีกมากมายให้เลือก ในขณะที่เครื่องมือการจัดการเซิร์ฟเวอร์นั้นก็ทำได้ดีจนไม่มีที่ติ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้มันสมบูรณ์แบบสำหรับโปรเจ็คสำคัญๆ อย่าง Server Consolidation, HPC Applications และ Workload ระดับ Hyperscale
 

Dell EMC PowerEdge C6525 specifications

Features Technical Specification
Chassis Dell C6400 2U rack enclosure
CPU       2 x 64-core 2GHz AMD EPYC 7702
Memory  1TB 3,200MHz RDIMM DDR4 ECC (max 2TB with LRDIMM)
Storage Dell BOSS with 2 x 480GB M.2 SSDs (RAID 1)
Node slots Up to four C6525 nodes
Nodes    2 x C6525 nodes included each with the following specification
Storage No backplane included
Power     2 x 2,400W hot-plug PSUs
RAID       Embedded S150 SATA
Network 2 x 10GbE SFP+ OCP 3.0 mezzanine card
Expansion 2 x PCI-E 4.0 X16 risers
Management        Dell iDRAC9 Enterprise X5
Other      Mellanox ConnextX-6 Single Port HDR100 QSFP56 Infiniband PCI-E
Warranty                3Yr ProSupport On-Site NBD
 
 

ที่มา: https://bit.ly/37mQAaC
ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์