รีวิว Dell XPS 15 (2019)

ตำแหน่งเว็บแคมต่างไป แต่ในส่วนอื่นๆ ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก

คำตัดสินในเบื้องต้น

Dell XPS 15 สำหรับปี 2019 นั้น ได้มีการแก้ไขข้อบกพร่องที่เห็นได้ชัดที่สุดของแล็ปท็อปไปแล้ว นั่นก็คือตำแหน่งของเว็บแคม - แต่มันก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากไปกว่าองค์ประกอบอื่นๆ ที่ได้รับการอัปเดต นี่เป็นโอกาสที่สูญเปล่าที่จะจัดอันดับให้กับแล็ปท็อปขนาด 15 นิ้ว ของ Dell เพื่อให้สอดคล้องกับส่วนที่เหลือของผลิตภัณฑ์ในตระกูล XPS ที่ออกแบบมาใหม่

ในขณะที่ Dell ทำการเปิดตัว Dell XPS 15 (2019) ที่งาน Computex 2019 นั้น มันให้ความรู้สึกเหมือนกับการให้คำอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้การเปิดตัวดูน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะเป็นการปรับปรุงที่ทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ แต่แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้ก้าวล้ำไปกว่าสิ่งที่เราคาดหวังไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันเป็นการเปิดตัวภายหลังจากที่มีการอัพเดตดีไซน์ใหม่ของ Dell XPS 13 2-in-1 (2019) และ Alienware Gaming PC ของ Dell ที่ผู้ใช้ต่างก็ให้การยอมรับ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าการอัพเดตที่สำคัญๆ ในครั้งนี้จะไม่ได้สร้างความน่าประทับใจให้กับเรา แต่ Dell XPS 15 (2019) ก็ยังคงรักษาในสิ่งที่ทำให้รุ่นก่อนหน้านี้ยอดเยี่ยมได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันก็มีการนำเสนอการออกแบบภายในด้วยรูปแบบที่ใหม่กว่า เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผู้คนจำนวนมากที่ใส่ใจกับการจัดวางตำแหน่งของเว็บแคมก่อนหน้านี้ เราขอแจ้งให้ทราบว่ามันได้กลับมาอยู่เหนือหน้าจอซึ่งเป็นที่ที่มันควรอยู่แล้ว พร้อมด้วยขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม

กล่าวโดยสรุปก็คือ Dell XPS 15 (2019) เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาแล็ปท็อปที่มีจอแสดงผลขนาด 15 นิ้ว พร้อมกับพลังที่เหลือเฟือและการออกแบบที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม หากว่าคุณต้องการบางสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะมาจากอนาคต คุณจะได้รับบริการที่ดีที่สุดจากการออกแบบที่มีความเป็นไปได้จากการอัพเดตครั้งหรือสองครั้งต่อจากนี้ หรือในกรณีที่คุณมีเครื่องเก่าและต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีสเปคที่สูงขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน คุณจะไม่ผิดหวังกับ Dell XPS 15 (2019) อย่างแน่นอน

ราคาและการวางจำหน่าย

Dell XPS 15 นั้นมีราคาเริ่มต้นที่ $1,168 (หรือประมาณ £930, AU$1,660) สำหรับสเปคพื้นฐาน ซึ่งมันก็เป็นข้อเสนอที่ดีในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานที่พอเหมาะ โครงสร้างภายในนั้นประกอบไปด้วยโปรเซสเซอร์ (CPU) Intel Core i5 Quad-Core Generation ที่ 9, หน่วยความจำประเภทแรม (RAM) 8GB/2,666 MHz และ PCIe Solid-State Drive (SSD) 256GB ที่อยู่เบื้องหลังจอ FULL HD (1,920 x 1,080 pixels) ขนาด 15.6 นิ้ว

การกำหนดคุณสมบัติขั้นพื้นฐานดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้ในสหราชอาณาจักร (UK) และออสเตรเลีย แต่การกำหนดคุณสมบัติขั้นพื้นฐานในสหราชอาณาจักรนั้นพวกเขาได้มีการโฆษณาไว้ว่าจะใช้เป็นโปรเซสเซอร์ i7 Generation ที่ 9 แทน แม้ว่ามันจะมีหน่วยความจำ, พื้นที่จัดเก็บและจอแสดงผลแบบเดียวกันก็ตาม ขณะเดียวกัน ที่ออสเตรเลียก็มีการกำหนดคุณสมบัติขั้นพื้นฐานที่ต่างกันออกไป ด้วยโปรเซสเซอร์, หน่วยความจำและจอแสดงผลในแบบเดียวกันแต่พวกเขาจะได้รับของขวัญที่พิเศษกว่า นั่นก็คือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

แน่นอนว่าไฮไลท์ของการแสดงฝีมือในครั้งนี้ก็คือ องค์ประกอบต่างๆ ที่ถูกติดตั้งไว้อย่างเต็มที่ ซึ่งการกำหนดค่าของ Dell XPS 15 2019 รุ่นที่มีสเปคสูงสุดนั้นจะประกอบไปด้วยซีพียู Intel Core i9 แบบ 8-Core, GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) กราฟิกสุดล้ำจากสถาปัตยกรรม NVIDIA, RAM 32GB และ SSD ความจุ 2TB ทั้งหมดอยู่เบื้องหลังการทำงานของจอมัลติทัช OLED ความละเอียดจอภาพแบบ 4K Ultra HD (3,840 x 2,160) ถ้าต้องการเป็นเจ้าของโมเดลที่ว่านี้ คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงินที่สูงถึง $3,118 (£2,899 หรือประมาณ AU$4,440)

การกำหนดค่าแบบพิเศษนี้ดูเหมือนจะไม่มีในออสเตรเลีย เพราะโมเดลที่มีสเปคสูงสุดนั้นจะมีองค์ประกอบภายในที่เป็นแบบเดียวกัน เพียงแต่จะมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลจำกัดที่ 1TB และเรื่องนี้จะทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในราคา AU$5,199

คุณมีแนวโน้มที่จะสามารถเข้าถึงกราฟิก Nvidia ได้ ซึ่งโดยประมาณแล้วจะอยู่ในขั้นสูงสุดของการกำหนดค่าที่มีให้เลือก เหมือนอย่างที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ และเราก็พอจะทราบว่าจำนวนเงินขั้นต่ำที่คุณจะสามารถเลือกจอแสดงผล OLED ที่น่าทึ่งนั้น จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่ $2,018 / £1,868 / AU$3,499

ดังนั้น จากที่กล่าวมาข้างต้นคุณน่าจะได้เห็นประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ จาก Dell XPS 15 ของปีนี้แล้ว ซึ่งก็ไม่น่าจะมีราคาขายที่แพงไปกว่าราคาของ XPS 13 มากเท่าใดนัก

การออกแบบและจอแสดงผล

พวกเราดีใจที่ได้เห็นว่า ในที่สุด Dell ก็ได้ทำการย้ายเว็บแคมจากด้านล่างของหน้าจอไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมกับมัน ซึ่งก็คือที่ด้านบนของหน้าจอนั่นเอง น่าเสียดายที่เราเองก็ยังรู้สึกไม่พอใจในส่วนอื่นๆ เกี่ยวกับการออกออกของ Dell XPS 15 อยู่ดี เพราะส่วนใหญ่มันก็ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม Dell ก็ได้ลงทุนไปแล้วในเรื่องของเวลาและความพยายามเพื่อเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในการออกแบบ ดังนั้น มันคงดูไม่มีเหตุผลที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อตัดสินในด้านอื่นๆ เพียงแค่รูปลักษณ์และความรู้สึกที่มีต่อ XPS 15

ยกตัวอย่างเช่น เราน่าจะรู้สึกดีกว่านี้ หากสิ่งที่จะได้รับนั้นเป็นชุดเครื่องเสียงระบบ Stereo ที่ใช้เทคโนโลยีในการกระจายเสียงแบบ Top-Firing หรือแป้นพิมพ์ตัวเลขบนคีย์บอร์ดเพื่อใช้พื้นที่ว่างทั้งสองด้านของคีย์บอร์ดให้เป็นประโยชน์

น่าเสียดายที่คุณเกือบจะได้เป็นเจ้าของแล็ปท็อปที่มีการออกแบบที่เหมือนกับแล็ปท็อปรุ่นหนึ่ง หรือสองรุ่นล่าสุดนี้ ทั้งในส่วนของฝาครอบอลูมิเนียมและส่วนฐานที่มีที่วางฝ่ามือคาร์บอนไฟเบอร์สีดำหุ้มแป้นพิมพ์ ซึ่งการออกแบบในลักษณะนี้ถูกนำมาใช้งานได้สักระยะหนึ่ง แต่ในปัจจุบันมันกลับให้ความรู้สึกเหมือนมีความโบราณหรือล้าสมัยไปสักหน่อย โดยเฉพาะรุ่นที่ถัดจาก Dell XPS 13 และ XPS 13 2-in-1 ที่ดูเหมือนจะมีความสดใสและยังถือเป็นความสมบูรณ์แบบของปี 2019

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เป็นธรรมต่อ XPS 15 ในปี 2019 ทาง Dell ก็ได้ทำการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยในส่วนของคีย์บอร์ด แต่ก็เพียงเพื่อแก้ไขรูปแบบตัวอักษร (Font) บนปุ่มกดให้เป็นฟอนต์ในตำนาน อย่างฟอนต์ Helvetica นั่นเอง แต่ก็ใช่ว่าลักษณะที่ไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนั้นจะไม่ดี เพราะระยะห่างของปุ่มกดก็ยังคงเหมือนเดิมคือที่ 1.3mm และ Feedback จากแรงกดก็ยังให้ความรู้สึกมั่นคงเหมือนอย่างที่เคย หลังจากการทดสอบในช่วงสั้นๆ ของเรา นอกจากนี้ แทร็คแพด (Trackpad) ก็ยังคงรูปแบบเดิมไว้เช่นกัน ด้วยการเคลือบแก้วที่ให้ความเรียบเนียนและแม่นยำ

เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ Dell ต้องการที่จะโฟกัสนั้น แท้จริงแล้วก็คือการผลิตแล็ปท็อปสำหรับ "Prosumer" ชั้นแนวหน้า (หรือลูกค้าที่มีความเป็นมืออาชีพนั่นเอง) โดยมาพร้อมกับจอแสดงผล OLED ที่มีค่า Contrast Ratio ที่สามารถปรับได้สูงถึง 100,000:1 ทำให้เห็นถึงความแตกต่างได้ในทันที ซึ่งจะเห็นได้จากสีดำที่ค่อยๆ จางหายเข้าไปในขอบ (Bezels) อันบางเฉียบของแล็ปท็อป

โดย Dell ได้แจ้งให้เราทราบว่า จอแสดงผลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการใช้งานให้กับเหล่า Content Creator ด้วยการแสดงขอบเขตสีตามมาตรฐาน DCI-P3 ที่ 100% ซึ่งมันอาจจะไม่ได้ดูสว่างเท่ากับหน้าจออื่นๆ ที่ให้ความสว่างสูงสุดที่ 400 nits แต่จะอาศัยการปรับค่า Contrast Ratio ที่เพิ่มขึ้น เพื่อแบ่งเบาภาระส่วนที่เหลือจากการลดความสว่าง

แล็ปท็อปดังกล่าวก็ยังคงรักษาน้ำหนักเดิมของมันเอาไว้ได้ นั่นก็คือที่ 4 ปอนด์ (1.8 กก.) ที่มาพร้อมกับจอแสดงผลมาตรฐาน (Standard Display) และแบตเตอรี่ 57Whr นอกจากนี้ก็ยังมีน้ำหนักที่ 4.5 ปอนด์ (2 กก.) ที่มาพร้อมกับจอแสดงผล OLED และแบตเตอรี่ 97Whr ในทำนองเดียวกัน มันก็ยังคงความบางไว้เช่นเดิม คือมีความหนาเพียงแค่ 0.66 นิ้ว (17 มม.) ในทุกๆ ด้าน และสุดท้าย พอร์ตของมันก็ยังคงเหมือนเดิม คือมีพอร์ต USB 3.1 จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต USB-C ที่มี Thunderbolt 3 และ PowerShare อีก 1 พอร์ต, พอร์ต HDMI 2.0, เครื่องอ่านการ์ด SD และแจ็คสำหรับเสียบหูฟัง (Headset Jack)

ประสิทธิภาพการทำงาน

มีเพียงเราเท่านั้นที่สามารถบอกถึงประสิทธิภาพของ XPS ใหม่ได้ เพราะเราได้รับหน่วยตรวจสอบที่ผ่านขั้นตอนนี้ และที่กล่าวไว้ว่า จะต้องขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของ Dell XPS 15 นั้น เพราะเราคิดว่ามันค่อนข้างทำได้ดี เกี่ยวกับสิ่งที่เราคาดหมายไว้ นั่นก็คือ การรวมพลังของ Core i9 ที่มี 8-Cores และกราฟิกการ์ด GTX 1650 เข้าด้วยกัน มีแนวโน้มที่จะทำให้แล็ปท็อปรุ่นนี้เป็นจอมพลัง เมื่อมันต้องจัดการกับภาพความละเอียดสูง (High Resolution) และการแสดงผลเนื้อหาวิดีโอความละเอียดสูง ในประสิทธิภาพที่เท่าเทียมกัน

ในทำนองเดียวกัน ประสิทธิภาพการเล่นเกมของแล็ปท็อปก็ควรที่จะสามารถจัดการเซสชันของ Fortnite ได้ สำหรับมืออาชีพที่ต้องการแทรกการเล่นเกมส์เข้าในช่วงเวลาของมื้อกลางวันหรือหลังเลิกงาน - หรือแม้แต่เกมพีซีอื่นๆ ก็ต้องสามารถจัดการได้เช่นกัน สำหรับเรื่องนี้ ในกรณีที่คุณเป็นนักศึกษาที่ยังต้องการที่จะตั้งใจเรียนอย่างจริงจังในชั้นเรียน ความจุของ RAM ในแล็ปท็อปดังกล่าว ยังคงมีให้เพียงพอสำหรับการทำงานแบบ Multitasking อย่างง่ายๆ ที่เหมาะสมกับฮาร์ดแวร์

Dell ได้ให้คำมั่นสัญญาเกี่ยวกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไว้ค่อนข้างมาก ว่ามันจะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 20 ชั่วโมง กับอีก 30 นาที สำหรับการใช้งานทั่วๆ ไปในโมเดลที่ใช้จอแสดงผลแบบ FHD, มากกว่า 13 ชั่วโมง สำหรับโมเดล 4K หรือมากกว่า 7 ชั่วโมง สำหรับโมเดลที่ใช้จอแสดงผล OLED ซึ่งในความคิดของเรา ดูเหมือนว่าตัวเลขเหล่านี้จะเป็นค่าที่ดีเกินไป และยังเกินกว่าที่จะเป็นจริงได้ แต่อาจจะต้องมีการตรวจสอบอย่างครอบคลุมอีกครั้งเท่านั้น จึงจะบอกเราได้ว่าตัวเลขเหล่านี้แม่นยำเพียงใด

สรุป

Dell XPS 15 ของปี 2019 ได้รับการแก้ไขในสิ่งที่อาจจะเป็นข้อบกพร่องที่เห็นได้ชัดและน่ารำคาญที่สุดไปเรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือตำแหน่งของเว็บแคม นอกจากนี้ Dell ก็ได้ทำการอัพเกรดส่วนประกอบต่างๆ อย่างเหมาะสมในแทบทุกหมวดหมู่ และในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ได้ทำการสืบทอดส่วนที่ดีจากรุ่นก่อนๆ ของพวกเขา ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เราได้ทดลองใช้เวอร์ชั่นที่ผ่านการแก้ไขนี้แล้ว แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ในการทดสอบ มันทำให้เรารู้ว่า "เราอยากเห็นอะไรที่มากกว่านั้น" มีการปรับปรุงในส่วนต่างๆ มากมายที่นี่ และ Dell ก็สามารถที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ในปีนี้ เพื่อให้ได้มาซึ่งแล็ปท็อปขนาด 15 นิ้ว ที่สมบูรณ์แบบของ Dell แต่ก็น่าเสียดายที่ Dell ระมัดระวังมากจนเกินไปในปีนี้ และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ แล็ปท็อปที่ดูเหมือนว่าจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่นั่นก็ยังทำให้เราผิดหวังอยู่หลายประเด็น

เราจะบันทึกคำชมหรือการตัดสินเพิ่มเติมต่างๆ สำหรับการตรวจสอบอย่างเต็มรูปแบบของ Dell XPS 15 ในภายหลัง แต่ตอนนี้เราจะขอจบไว้เพียงเท่านี้ และสิ่งที่คุณกำลังเห็นอยู่ก็คือ แล็ปท็อปขนาด 15 นิ้ว ที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อตอกย้ำในส่วนที่สำคัญๆ แต่ก็ยังไม่ดีพออย่างที่เราคิดไว้