วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด สำหรับการปกป้องข้อมูลของบริษัทที่เหนือกว่า เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติที่เหมาะแก่การนำไปปรับใช้ เพื่อความปลอดภัยสำหรับธุรกิจของคุณ สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMB ) ที่กำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาการรักษาความปลอดภัยสำหรับการปกป้องข้อมูลของบริษัทที่เหมาะกับธุรกิจของพวกเขา โดยที่แอดมินระบบสามารถมองเห็น ควบคุมและปกป้อง เครือข่ายที่รับผิดชอบได้ พวกเค้าจะประทับใจเมื่อได้เห็น Endpoint Security for Business (ESB) ของ Kaspersky ในขณะที่ทำงานบน On-premises Host โดยจุดเริ่มต้นสำหรับการรีวิว ESB เวอร์ชั่น Select ในครั้งนี้ ก็เพื่อนำเสนอ Anti-malware สำหรับ Windows servers และ Workstations, OS X และ Linux, รวมทั้ง Web Control, Device Control และ Application Control with Dynamic Whitelisting และซอฟท์แวร์ที่ใช้ในการจัดการกับอุปกรณ์พกพา (Mobile Device)  

เริ่มต้นด้วยการติดตั้ง ESB Security Center ซึ่งจะเป็นการติดตั้งข้อกำหนดเบื้องต้นทั้งหมดสำหรับเรา และจะเสร็จสิ้นกระบวนการติดตั้งภายในเวลา 40 นาที ซึ่ง ESB Security Center จะทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางของการติดต่อสำหรับฟังก์ชันของ ESB ทั้งหมด ถึงแม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้คอนโซลหลักจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่มันก็ยังใช้งานง่ายและเป็นแหล่งให้ความรู้มากมาย

สำหรับปรับใช้งานของ Client, ในส่วนของ Console scanned, Lab network และการแสดง Active Directory domains ทั้งหมด, Workgroups and IP subnets นั้น แต่ละ Client จำเป็นต้องใช้ Network Agent และ Endpoint Security เป็นองค์ประกอบ ซึ่งเราสามารถนำไปใช้ได้ด้วยตนเอง โดยทำการเลือกโฮสต์ทดสอบทั้งหมดของเรา Windows 7, 10 และ Server 2012 R2 จากอุปกรณ์ที่ไม่ได้กำหนด และกดเลือกทั้งสองออกไปพร้อมกัน

การติดตั้ง Agent โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที ต่อระบบ หลังจากที่พวกเขาได้ทำการจัดเข้าไปในกลุ่มเรียบร้อยแล้ว คอมพิวเตอร์ที่มีการจัดการค่า default แล้ว เมื่อ System Center ได้รับการติดตั้ง มันจะสร้างนโยบายด้านความปลอดภัยพื้นฐานสำหรับเครือข่ายนี้ ดังนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ตัวหลักในเครือข่ายของเราทั้งหมดจึงได้รับการคุ้มครองในทันที

คุณสามารถสร้างกลุ่มที่กำหนดขึ้นมาเองสำหรับชุดของ Clients โดยเฉพาะ และการตั้งค่าของพวกเขาจะถูกนำมาใช้ขณะที่คอมพิวเตอร์ที่เข้าร่วมหรือย้ายจากกลุ่มอื่น โดยที่เราอาจจะสร้างกลุ่มที่มีนโยบายเป็นของตนเอง และกลุ่มสามารถสร้างกลุ่มย่อย ซึ่งได้รับการตั้งค่าจากระดับสูงสุดได้เช่นกัน

นโยบายของ ESB ทำหน้าที่สำหรับควบคุมเครื่องสแกนไวรัสแบบเรียลไทม์ของ Client และเพื่อรองรับแผนงานธุรกิจที่หลากหลายในทุกส่วน ยังมีบริการให้เลือกได้ตามความต้องการขององค์กร สำหรับการสแกนไฟล์, Emails, IM และ Web traffic ซึ่งเราสามารถเลือกระดับการสแกนได้สามระดับโดยใช้แถบเลื่อน นอกจากนี้ Kaspersky ยังประกอบไปด้วย Firewall client ที่มีกฎระเบียบการเข้าใช้ที่สามารถกำหนดขึ้นเอง, และ System watcher ที่คอยทำหน้าที่เฝ้าระวังและตรวจสอบพฤติกรรมของแอปพลิเคชั่นที่น่าสงสัย

นโยบายการปกป้องข้อมูลของบริษัทนั้น สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นนโยบายการเข้าใช้งานแอปพลิเคชั่นได้ โดยที่เราจำเป็นต้องทำการกำหนดประเภทของแอปพลิเคชั่นก่อน จากนั้นจึงเพิ่มข้อความเหล่านี้ลงในนโยบายเพื่ออนุญาตหรือปฏิเสธการใช้งาน

สำหรับนโยบายการควบคุมเว็บไซด์ ยังไม่เป็นที่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก เนื่องจาก Kaspersky มีข้อกำหนดสำหรับบล็อกหรืออนุญาต URLเพียง 15 Categories เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม เราพบว่าระหว่างการทดสอบ พวกเขาทำงานได้ดี และปฏิเสธทุกความพยายามของเราทั้งหมด ในการเข้าถึงเกมและไซด์การพนัน

ไม่ต้องมีการโต้ตอบกับผู้ใช้ ในกรณีที่มีการตรวจจับมัลแวร์ เมื่อเรานำเข้าตัวอย่างมัลแวร์ทดสอบของเรา Agent จะลงมือทำหน้าที่ของมันอย่างเงียบๆ ภายใต้ background โดยการทำความสะอาด, ลบ หรือกักกันมัลแวร์เหล่านั้นไว้

ความสามารถในการจัดการผ่านอุปกรณ์พกพา ทำได้โดยการโหลดปลั๊กอิน  ActiveSync บน Exchange server ของคุณ หรือใช้โมดูล iOS MDM server ของ Kaspersky เนื่องจากกระบวนการจัดเอกสารที่ด้อยประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความซับซ้อนหลังการตั้งค่า และมันยังขึ้นอยู่กับ iPhone Configuration Utility ซึ่งใช้สำหรับตั้งค่า iOS profiles ถึงแม้ว่าในขณะนี้จะสามารถดาวน์โหลดได้แล้ว แต่ก็ไม่สนับสนุน Apple ได้อีกต่อไป

ในส่วนของคอนโซล System Center นั้น เป็นการให้บริการมุมมองของ Clients ทั้งหมดในระบบด้วยการแสดงไอคอนสถานะสี และกราฟสถิติอย่างละเอียด, Activity ของไวรัสและการอัพเดต ด้วยการรายงานที่มีความละเอียดมาก พร้อมด้วยไฟล์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า สำหรับการดูข้อมูลจากผู้ใช้บนคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัส ตลอดจนพฤติกรรมการท่องเว็บ รวมทั้งตัวเลือกในการสร้างรายงานที่สามารถกำหนดเองได้

Kaspersky ยังประกอบไปด้วยเว็บคอนโซลที่ให้การเข้าถึงเบราว์เซอร์ระยะไกล เพื่อไปยังศูนย์รักษาความปลอดภัย แต่ Interface ของมันนั้นมีน้อยมาก การทำงานบน Apache web server จะให้มุมมองพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ และมีการจัดการและการแจ้งเตือน ตลอดจนตัวเลือกในการใช้งานและการกำหนดค่านโยบาย

ESB ของ Kaspersky เป็นโซลูชั่นที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางหรือ SMB เป็นหลัก เพื่อรองรับการขยายการจัดการความปลอดภัยของอุปกรณ์ปลายทางของพวกเขาลงในระบบคลาวด์ ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและมีเอกสารที่เขียนอธิบายขั้นตอนเกี่ยวกับการใช้ไว้อย่างละเอียด และที่สำคัญไปกว่านั้น เวอร์ชั่น Select ของ Kaspersky Endpoint Security for Business เป็นการนำเสนอโซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยที่เป็นมากกว่าส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ซึ่งจัดว่าเป็นเทคโนโลยีการปกป้องระดับพรีเมี่ยม ที่คุ้มค่าจนคุณต้องประหลาดใจ

รีวิวนี้นี้เดิมปรากฏใน PC Pro ลำดับที่ 273

ที่มา : www.itpro.uk