รีวิว Lenovo ThinkSystem ST550 เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยงบประมาณที่คุ้มค่ากับการลงทุน Thinksystem ST550 ข้อดี โดดเด่นด้วยคุณสมบัติการจัดการระยะไกลที่ยอดเยี่ยม รวมถึงประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีเยี่ยม ในราคาที่คุ้มค่ากับการลงทุน Thinksystem ST550 ข้อเสีย จำกัดค่า TDP (Thermal Design Power) ที่ 125W สรุป ผู้ประกอบการ SMEs ที่กังวลเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนไปสู่การประมวลผลด้วย Xeon Scalable รุ่นล่าสุด เพื่อให้การประมวลผลมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น พวกเขาสามารถคลายความรู้สึกกังวลเหล่านี้ได้ด้วย ThinkSystem ST550 ของ Lenovo เพราะนี่คือเซิร์ฟเวอร์ Tower ที่แข็งแกร่งที่จะช่วยมอบทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้น และรวมสิ่งนี้เข้ากับคุณสมบัติการจัดเก็บที่หลากหลาย เพื่อความคุ้มค่าในระดับสูงสุด Lenovo ThinkSystem ST550 เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่นำเสนอผู้ประกอบการ SMEs ด้วยการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่าง ประสิทธิภาพ, คุณลักษณะเฉพาะและความคุ้มค่า นับตั้งแต่เปิดตัวแฟ้มผลงานทางธุรกิจของ ThinkSystem ในปี 2017, Lenovo ได้กลายมาเป็นแรงผลักที่ให้ความสำคัญกับตลาดเซิร์ฟเวอร์ ซึ่ง ThinkSystem ST550 จัดว่าเป็นรุ่นล่าสุดที่รวมอยู่ในตระกูลที่กำลังเติบโตและเป็นที่น่าสนใจของบรรดาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีความต้องการเซิร์ฟเวอร์ Xeon Scalable ในรูปแบบ Tower ซึ่งมีความสามารถในการปรับใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ แอพพลิเคชั่น สำหรับส่งข้อความออนไลน์ (Messaging App) และ Workgroup App ตลอดจนการให้บริการระบบจัดการไฟล์, การใช้เครื่องพิมพ์ในระบบเครือข่าย และการให้บริการเว็บเซิร์ฟเวอร์ เป็นต้น Lenovo Thinksystem ST550 กับ Intel Xeon นอกจากนี้ ST550 ยังนำเสนอ Hardware Package ในราคาที่ยอดเยี่ยม ด้วยการควบคุมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของ Xeon Silver 4110 ที่มี CPU แบบ 8 Core และมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาพื้นฐานที่ 2.1 GHz รวมถึงพื้นที่จัดเก็บสำหรับ CPU ตัวที่สอง เมื่อคุณต้องการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการประมวลผลแบบขนาน (Parallel Processing) ของคุณ และในส่วนของข้อจำกัดของ Chassis หรือตู้ที่จะรองรับอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งมีข้อจำกัดของค่า TDP ต่ำสุดที่ 125W แต่ด้วยข้อจำกัดนี้ทำให้มันสามารถรองรับซีพียูได้ ในรุ่น Bronze, Silver และ Gold 5100 รวมถึงรุ่น Gold 6100 ที่สามารถเพิ่มได้มากถึง 20 Core ในราคาปกติโดยทั่วไป คุณจะได้รับหน่วยความจำ TruDDR4 แบบ RDIMM ขนาด 16 GB และเซิร์ฟเวอร์รุ่นนี้ยังสามารถรองรับสล็อต DIMMได้ถึง 12 ช่อง ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้ถึง 364GB ในการกำหนดค่าแบบ Dual CPU สำหรับผู้ที่มีสามารถจ่ายได้มากขึ้น คุณสามารถเลือกใช้โมดูล LRDIMM 64GB ที่มีราคาแพงกว่า เพื่อความจุที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าที่ 768GB นี่เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้อย่างเต็มที่ กับความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลที่มีความยืดหยุ่นสูง โดยสามารถรองรับ Disk ขนาด 2.5 นิ้ว (SFF) ได้ที่ 8, 16 และ 20 ช่อง หรือ LFF Disk ขนาด 3.5 นิ้ว ได้สูงสุด 8 ช่อง ซึ่งระบบของเรานั้นมาพร้อมกับ Backplane ที่สามารถรองรับฮาร์ดดิสค์ขนาด 2.5 นิ้ว (SFF) แบบ Hot-swap ได้ 8 ลูก พร้อมด้วย Room สำหรับตัวเลือกที่สองที่กล่าวมาข้างต้น ในกรณีที่ต้องการให้สามารถบรรจุไดร์ฟขนาด 2.5 นิ้ว (SFF) ให้มีจำนวนสูงสุดนั้น Lenovo เสนอตัวเลือกที่เป็น Dual-drive cage ซึ่งจะช่วยให้สามารถรองรับ Expansion Bay ขนาด 5.25 นิ้วได้อีกสองชุด หรือสามารถเลือกที่จะติดตั้งช่องสำหรับ PCI-e NVMe SSD ได้สูงสุด 4 ชุด โดยการแทนที่ Cage มาตรฐานสำหรับ SFF ด้วย โมดูล AnyBay ของ Lenovo ซึ่งจะใช้ อะแดปเตอร์สวิตช์ NVMe (NVMe Switch Adapter) ที่สามารถติดตั้งในช่องเสียบ PCIe 2 เท่านั้น เพื่อเชื่อมต่อโดยตรงกับ CPU ตัวแรก สำหรับตัวเลือก RAID เริ่มต้นด้วย Intel Rapid Storage Technology enterprise (RSTe) แบบฝัง ซึ่งสามารถรองรับการทำงานของไดร์ฟ SATA ได้สูงสุด 8 ตัว รวมถึงสามารถรองรับการทำงานที่ RAID ระดับ 0,1 และ 5 นอกจากนี้ ระบบของเรายังรับรองความคุ้มค่าที่มากยิ่งขึ้นด้วยการ์ด RAID 930-8i ของ Lenovo ซึ่งเพิ่มการรองรับ 12Gbps SAS3 และ RAID6 รวมถึง Battery-Protected Cache 2GB ในส่วนของ 930-8i นั้น ยังมีพอร์ตถึง 8 พอร์ต เพื่อให้สามารถจัดการ Backplane SFF ที่มีอยู่ได้ แต่ถ้าคุณต้องการจะเพิ่มมันอีก คุณจะต้องมีการ์ด RAID ตัวที่สอง และในส่วนของการรองรับการต่อยอดธุรกิจในอนาคต (Future-proofing) มันจะคุ้มค่ากว่า หากคุณระบุเวอร์ชันที่มี 16 พอร์ต หรือ 24 พอร์ต ของการ์ด RAID 930 เพราะฉะนั้น มันจึงพร้อมใช้งานเมื่อคุณทำการเพิ่ม Backplane Lenovo ThinkSystem ST550 จัดว่าเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีการนำเสนอการตกแต่งภายในที่ค่อนข้างจะเป็นระเบียบ ทำให้สามารถเข้าถึงส่วนประกอบทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย สำหรับการอัพเกรดและการบำรุงรักษาโดยทั่วไป นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ Gigabit port แบบ Dual ที่มีมาในตัว และช่องเสียบ PCI-Express ที่มีอีก 6 ช่อง ซึ่งนั่นก็หมายความว่า คุณจะมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับอะแดปเตอร์ 10-Gigabit เมื่อคุณรู้สึกว่าต้องการความเร็วเครือข่ายที่มากขึ้น XClarity Controller (XCC) ของ Lenovo จัดว่าเป็น Star player และ ST550 ก็ยังถูกยกขึ้นมาเทียบเคียงกับ iLO5 ของ HPE และ iDRAC9 ของ Dell นั้น ก็เนื่องด้วยคุณสมบัติการจัดการระยะไกล (Remote Management Features) สำหรับการจัดการระยะไกลผ่านทางเว็บอินเตอร์เฟส (Web interface) ของ XCC นั้น จะเป็นการนำเสนอข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับ System health และส่วนประกอบที่สำคัญ รวมถึงการนำเสนอกราฟสีเพื่อแสดงให้เห็นถึงการใช้งานและการใช้พลังงานของระบบทั้งหมด เราขอแนะนำให้ทำการอัพเกรด XCC มาตรฐาน ด้วย Advanced license ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเปิดใช้งานกราฟการจัดการพลังงาน (Power Management Graphs), การควบคุมจากระยะไกล (Remote Control), บริการสื่อเสมือนจริง (Virtual Media), OS provisioning ซึ่งทั้งหมดนี้มีค่าใช้จ่ายเพียง£ 23 เรารู้สึกชื่นชอบ XClarity Provisioning Manager เพราะมันช่วยแนะนำเราในส่วนของขั้นตอนของการกำหนดค่าอาร์เรย์ RAID โดยใช้ฮาร์ดดิสก์ 300GB SAS3 ทั้งยังสามารถติดตั้ง Windows Server 2016 จาก USB Image ได้ในเวลาไม่ถึง 30 นาที ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อื่นๆ ของ XCC รวมถึงเครื่องมืออัพเดตเฟิร์มแวร์ (Firmware Update Tool) แบบอัตโนมัติ และตัวเลือกการตั้งค่าต่าง ๆ เพื่อตั้งค่าความปลอดภัยในการเข้าถึง ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่กังวลเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนไปสู่การประมวลผลด้วย Xeon Scalable รุ่นล่าสุด เพื่อให้การประมวลผลมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น พวกเขาสามารถคลายความรู้สึกกังวลเหล่านี้ได้ด้วย ThinkSystem ST550 ของ Lenovo เพราะนี่คือเซิร์ฟเวอร์ Tower ที่แข็งแกร่งที่จะช่วยมอบทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้น และรวมสิ่งนี้เข้ากับคุณสมบัติการจัดเก็บที่หลากหลาย เพื่อความคุ้มค่าในระดับสูงสุด ที่มา:www.itpro.co.uk
