1726202978.png
1731393918.jpg
1730459076.jpg
1730782055.jpg
1730966771.jpg
DELL LATITUDE 7390 2 IN 1: แล็ปท็อปสำหรับธุรกิจ
DELL LATITUDE 7390 2-IN-1: แล็ปท็อปสำหรับธุรกิจที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและความสามารถที่หลากหลาย
Dell Latitude 7390 2-in-1 ถือว่าเป็นนักจัดการที่เก่งกาจเลยทีเดียว แต่คิดว่าประสิทธิภาพของมันนั้นมากเกินความจำเป็นสำหรับผู้ใช้งานในเชิงธุรกิจทั่วไป
ใครๆ ต่างก็ชื่นชอบแล็ปท็อปของ Dell ที่มีทั้งความบางเบา และขนาดที่กะทัดรัด แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่ต้องการซื้อก็ยังคงต้องทำการประเมินลักษณะงานที่พวกเขาจะต้องทำโดยใช้แล็ปท็อปด้วยเช่นกัน สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และผู้ใช้ประเภท Enterprise User นั้นเชื่อว่าการรักษาความปลอดภัย (Security) และความรู้สึกอุ่นใจเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าเสมอ และนั่นก็คือตลาดที่ Dell Latitude 7390 2-in-1 เลือกไว้ให้เป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของพวกเขา
มันเป็นแล็ปท็อปธุรกิจที่ดูเคร่งขรึม เน้นความคล่องตัวและความทนทานเป็นสำคัญ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่กำลังมองหาแล็ปท็อปที่บางและเบาแต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพนั้นDell ขอแนะนำ XPS 13 ให้กับท่าน อย่างไรก็ตาม ด้วยป้ายราคาที่ติดไว้ที่ 1,35,000 รูปี ของ Latitude 7390 ซึ่งเป็นแล็ปท็อปประเภทที่หน้าจอพับได้ (Convertible Laptop) นั้น คุณคิดว่ามันน่าจะเพียงพอที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบ2-in-1(แบบถอดแยกคีย์บอร์ดได้) ขณะเดินทาง ได้หรือไม่?เราลองมาหาคำตอบกัน
Dell Latitude 7390 2-in-1 : รูปทรงและการออกแบบ – 8คะแนน
มันเป็นการออกแบบที่ชาญฉลาด นั่นเป็นเพราะว่า Dell Latitude 7390 มีขนาดที่เล็กและกะทัดรัด แต่ดูเหมือนว่ามันจะถูกตกแต่งด้วยแผ่นพลาสติกสีดำด้านที่อ่อนนุ่มปูทับด้านบนและยังมีโลโก้ของDell อยู่ตรงกลาง เมื่อเปิดมันขึ้นมาคุณจะสังเกตเห็นว่าจอแสดงผลของมันนั้นหนาพอๆ กับส่วนที่ถูกห่อหุ้มอยู่ด้านล่าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจอแสดงผลแบบสัมผัส (Touchscreen Panels) ก็พอจะมีความหนาอยู่บ้าง แต่หน้าจอของ Latitude 7390นั้น มันหนาเกินกว่าที่ฉันจะรู้สึกชอบมันได้
ในส่วนของกรอบด้านข้างของหน้าจอนั้นค่อนข้างบาง แต่กรอบด้านบนและด้านล่างดูค่อนข้างใหญ่และล้าสมัย ที่ขอบจอด้านบนนั้นจะมีเว็บแคมความละเอียด 720p ติดตั้งอยู่ ซึ่งบางที Dell ก็น่าจะขยับไปใช้อัตราส่วนภาพ (Aspect Ratio) ที่ 3:2 ตามที่เราได้เห็นกันบน Surface Laptop ของ Microsoft ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด
คุณภาพการผลิตเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมนอกเหนือจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น และ Dell ยังอ้างด้วยว่าเครื่องของพวกเขาผ่านการทดสอบจนได้รับมาตรฐานMIL-SPEC 810G เพื่อทดสอบว่ามันสามารถทนต่อสภาพอุณหภูมิที่เลวร้าย(Extreme Temperature), ฝุ่นละออง, การช็อกและแรงสั่นสะเทือน ดังนั้น จึงหมดห่วงเรื่องปัญหาเหล่านี้เมื่อพูดถึงความทนทาน
โดยรวมแล้วการตกแต่งด้วยวัสดุที่ทำจากพลาสติกอ่อนนั้นทำให้แล็ปท็อปดูมีความนุ่มนวล แต่เมื่อเวลาผ่านไปรอบๆ ตัวเครื่องก็น่าจะมีแนวโน้มที่จะรับเอาน้ำมันและฝุ่นจำนวนมากมาไว้ที่พื้นผิวสีดำด้านนั้น อย่างไรก็ตาม ด้วยน้ำหนักที่ 1.43 kg อาจจะจะทำให้มันไม่ได้เบาเท่ากับXPS 13 แต่มันก็สะดวกที่คุณจะพกพามันไปด้วยในทุกๆ ที่
เมื่อพูดถึงการขยับหรือเคลื่อนที่ขณะใช้งาน ตัวของแล็ปท็อปเองจะมีแถบยางอยู่สองเส้นที่ด้านล่าง และสิ่งนี้เองที่จะช่วยให้แล็ปท็อปยึดอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ ขณะที่คุณใช้งานมันบนโต๊ะหรือวัสดุอื่นๆ ที่มีพื้นผิวเรียบ
บานพับของจอแสดงผลของ Dell Latitude 7390 ก็เหมือนกับอุปกรณ์2-in-1 อื่นๆ ที่สามารถพับจนหมุนกลับได้ 360 องศา เพื่อให้คุณสามารถปรับใช้โน้ตบุ๊กเป็นแท็บเล็ตได้ สำหรับเราแล้วจอแสดงผลขนาด 13 นิ้ว ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นขนาดที่พอเหมาะสำหรับงานประเภทที่ทำได้ทั้งบนโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ต และ Latitude 7390 เองก็ไม่มีข้อยกเว้นในเรื่องนี้ ซึ่งบานพับของมันเองนั้นแข็งแรงพอที่จะยึดจอแสดงผลให้อยู่ในตำแหน่งต่างๆ ได้ตามที่คุณต้องการ
แม้ว่านี่จะเป็นอุปกรณ์ประเภท Convertible แต่ Dellก็ไม่ได้รวมปากกาไว้ให้ในแพ็คเกจ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถที่จะซื้อแยกต่างหากได้ ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ เพราะมันคืออุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน Windows Ink สำหรับผู้ใช้งานบนอุปกรณ์Windows 10 ซึ่งหมายความว่าคุณจำเป็นที่จะต้องใช้มันเพื่อร่างหรือจดบันทึก แต่ทว่า Dell ก็ได้มอบ Dock ที่เป็นอุปกรณ์เสริมที่จะช่วยเพิ่มพอร์ตเชื่อมต่อให้กับเรา ซึ่งมันสามารถเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต USB-C ได้หนึ่งพอร์ต ไปจนถึงการเชื่อมต่อเข้ากับจอแสดงผล Full HD สูงสุด 2จอ และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ โดย Dock นี้จะใช้พลังงานจากอะแดปเตอร์ขนาด130 W ซึ่งเป็นการช่วยส่งกำลังให้กับแล็ปท็อป นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกเป็นอะแดปเตอร์ Dell USB-C Mobile Adapter ในขณะที่ตัดสินใจซื้อแล็ปท็อป เพราะนั่นจะเป็นตัวเลือกที่ดี ถ้าคุณตั้งใจที่จะเดินทางไปมาไหนพร้อมกับมัน เพราะก่อนหน้านี้ฉันได้พยายามชาร์จ Dellด้วยอะแดปเตอร์ 27 W OnePlus และฉันก็สามารถชาร์จแล็ปท็อปได้สำเร็จ แต่มันเป็นการชาร์จที่ช้าอย่างเจ็บปวดด้วยกำลังไฟสูงสุดที่ 27 W แต่มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียวในสภาวะคับขัน
Dell Latitude 7390 2-in-1 : คีย์บอร์ดและแทร็คแพด - 7.5คะแนน
เราคิดว่าคีย์บอร์ดเรืองแสงนั้นเป็นเรื่องที่ดี รวมทั้งระยะห่างที่มากพอและระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไป (Key Travel) ก็ เหมาะสมดีแล้ว โดยทั่วไปแล้วในวันทำงานปกติฉันก็มักจะใช้มันเพื่อพิมพ์เอกสารจำนวนมาก และแม้ว่าแป้นพิมพ์จะดูคับแคบไปในตอนแรก แต่ก็ใช้เวลาไม่นานก่อนที่ฉันจะคุ้นเคยกับขนาดของมัน
Dell จัดการกับแถวของตัวเลขที่มีขนาดของปุ่มกดแบบ Full-Sizeได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมั่นใจได้ว่าปุ่มลูกศรนั้นกว้างกว่าที่คุณคาดหวังไว้ในแล็ปท็อปที่มีขนาดเดียวกันนี้ และกุญแจที่สำคัญของคีย์บอร์ดเครื่องนี้ก็คือ การมีสัมผัสและความรู้สึกที่ดีกับการใช้งาน หากคุณคุ้นเคยกับแป้นพิมพ์ที่มีขนาดใหญ่บนเดสก์ท็อป การพิมพ์อย่างรวดเร็วอาจจะเป็นปัญหาอยู่พักหนึ่ง เพราะขนาดของปุ่มกดที่เล็กกว่า
ในส่วนของคีย์บอร์ดของ Latitude 7390 นั้น จะมีBacklit ที่มีระดับความส่องสว่างอยู่ 2 ระดับ และไฟแบ็คไลท์ที่คอยส่องอยู่นั้นมันสามารถเปิด-ปิดได้ หากคุณต้องการ
แทร็กแพดขนาด 3.6 x 2 นิ้ว นั้นถือว่าสะดวกสบายและตอบสนองต่อท่าทางขั้นพื้นฐานได้เป็นอย่างดี แต่การรวมปุ่มแบบ Physical ลงในช่องที่แบ่งแยกเป็นช่องซ้าย-ขวา ก็ยังเป็นสิ่งที่ฉันสามารถพบเห็นได้ทั่วไปบนแล็ปท็อปธุรกิจ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สิ่งที่ฉันให้ความสนใจเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามปุ่มดังกล่าวก็ยังคงมีอยู่ คุณเองก็สามารถที่จะใช้มันได้ตลอดเวลาถ้าต้องการ
Dell Latitude 7390 2-in-1 : ฟีเจอร์ต่างๆ - 8คะแนน
Dell Latitude 7390 2-in-1 นั้นมาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Intel Core i7-8650U vPro เจนเนอเรชั่น 8 พร้อมด้วย Intel UHD Graphics 620 ที่รวมอยู่ในซีพียู (Integrated GPU) มันเป็นซีพียูที่มีประสิทธิภาพมากสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้ และยังเป็นสิ่งเดียวกับที่ Microsoft นำไปใช้ใน Surface Book
เครื่องที่เราได้รับมอบให้ตรวจสอบนั้น มีหน่วยความจำ (RAM) 16 GB ที่จับคู่กับ SSD ที่มีอินเตอร์เฟสการเชื่อมต่อแบบPCIe NVMe ความจุ 512 GB ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับแล็ปท็อป
ย้ายไปดูที่จอแสดงผลกันต่อ Dell Latitude 7390 2-in-1 มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 13.3 นิ้ว พร้อมด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 4 ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแรงและทนทานเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นหน้าจอที่มีความละเอียดในการแสดงผล 1920x1080 พิกเซล
ในส่วนของพอร์ตที่เกี่ยวข้อง เท่าที่สังเกตเห็นที่ขอบด้านซ้ายของ Latitude 7390 เราจะพบว่ามีพอร์ต USB Type-C อยู่ 2พอร์ต (สามารถเข้ากันได้กับ Thunderbolt-3), เอาต์พุตHDMI 1.4 แบบ Full-size 1 ช่อง, USB 3.0 Type-A 1 พอร์ต และช่องเสียบสมาร์ทการ์ดเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลของคุณ
ส่วนทางด้านขวานั้นจะมีช่องสำหรับ Noble Wedge Lock เตรียมไว้ให้ นอกจากนี้ก็ยังมีพอร์ต USB 3.0 Type-A อีกหนึ่งพอร์ต, ช่องสำหรับ micro-SD Card และ micro-SIM Card รวมถึงช่องเสียบหูฟัง (Headphone Jack) ขนาด 3.5 มม. พร้อมปุ่มปรับระดับเสียง (Volume Rocker) และปุ่มเปิด-ปิด (Power Button) ที่จะช่วยให้สามารถเข้าถึงได้แม้จะอยู่ในโหมดแท็บเล็ต
นอกจากนี้ยังมีเครื่องสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ฝังตัวอยู่ในบริเวณพื้นที่ว่าง ถัดจากแป้นพิมพ์ลงมา
Dell Latitude 7390 2-in-1 : จอแสดงผล - 7.5คะแนน
Latitude 7390 2-in-1 นั้นมาพร้อมกับจอแสดงผลขนาด 13.3นิ้ว โดยมีความละเอียดในการแสดงผล 1920x1080 พิกเซล มันเป็นจอที่มาพร้อมความสว่าง (Bright) และความสดใสมีชีวิตชีวา (Vibrant) เราได้ทดลองรับชมตัวอย่างภาพยนตร์ของAvengers: Endgame บนแล็ปท็อปและสีต่างๆ ที่ผุดขึ้นมานั้นก็ดูมีชีวิตชีวาดี จากนั้นเราได้สตรีมรายการโชว์จาก Netflix และการแข่งขันพรีเมียร์ลีกจำนวนหนึ่งบนแล็ปท็อป ซึ่งมันก็ให้ผลเป็นที่น่าพอใจสำหรับภาพที่เราเห็นโดยรวม
อย่างไรก็ตาม จอแสดงผลของ Latitude 7390 2-in-1 ก็อาจจะยังไม่ดีเท่ากับจอของDell XPS 13 แต่มันก็ยังคงเป็นจอแสดงผลที่ดีและสีที่ปรากฏนั้นก็มีความถูกต้องแม่นยำ (Accurate) ในระดับที่ดี
ระดับของความสว่างโดยรวมแล้วอาจจะเป็นอะไรที่เราไม่ได้พูดเกี่ยวกับการใช้งานที่บ้าน แต่จากประสบการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองก็คือ ฉันเคยทำงานจากด้านในของรถยนต์ที่จอดอยู่ภายใต้แสงแดดจ้า และก็ยังพบว่าจอแสดงผลของมันทำงานได้ดีพอที่จะทำให้ฉันสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่บนจอได้โดยไม่ต้องเพ่งมองมัน แต่อย่างใด
การอ่านก็ไม่ใช่ปัญหาอีกเช่นกัน เรารู้สึกพึงพอใจกับหน้าจอ และความที่มันค่อนข้างที่จะคมชัดนั้นทำให้เราสามารถอ่านไฟล์PDF ที่ค่อนข้างยาวและตอบกลับอีเมลได้อย่างสะดวกสบาย
Dell Latitude 7390 2-in-1 : ประสิทธิภาพ - 7.5คะแนน
ถ้าพูดถึงการใช้งานภายในสำนักงาน มันจัดว่าเป็นแล็ปท็อปที่จัดการได้ทุกอย่างเท่าที่ฉันจะสามารถทำได้ และมันก็ยังทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย ด้วยซีพียู Intel i7 8650U เจนเนอเรชั่น8ที่เป็นชิปที่ทรงพลัง และบางทีก็ดูเหมือนว่ามันมากเกินความจำเป็นสำหรับสิ่งที่ผู้ใช้งานในเชิงธุรกิจส่วนใหญ่ต้องการ แต่ก็ยังไม่มีอะไรที่จะทำให้มันช้าลง และ SSD ที่รวดเร็วก็ช่วยให้ทุกอย่างเป็นที่น่าพอใจมากยิ่งขึ้น
ด้วย Ram แบบ onboard ขนาด 16 GB เราสามารถเปิดแท็บใน Chrome ได้มากถึง 40แท็บ, Word Documents อีกสอง, โปรแกรม Slack, Telegram, วิดีโอบน VLC ที่หยุดการเล่นไว้ (Pause) และยังสามารถแสดงสีของภาพที่ถูกต้องได้โดยไม่มีอาการสะดุด จากการทดสอบประสิทธิภาพของฮาร์ดดิสก์ตามมาตรฐานของเราด้วย CrystalDiskMark แล้วพบว่าหน่วยความจำ SSD มาพร้อมกับความเร็วในการอ่านที่เร็วที่สุดจากที่เราได้เห็นในครั้งล่าสุด โดยมีเพียง Lenovo Yoga 920 เท่านั้น ที่สามารถทำคะแนนทิ้งห่างกันเพียงเล็กน้อย
พัดลมจะเริ่มมีผลเมื่อคุณเริ่มใช้งานอุปกรณ์อย่างหนัก แต่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก ในขณะที่พัดลมเริ่มหมุนพวกมันค่อนข้างที่จะส่งเสียงดัง แต่วิธีการตั้งค่าโปรไฟล์ของพัดนั้นดูเหมือนว่าแล็ปท็อปต้องการที่จะทำให้ตัวเองเย็นลงอย่างเร็วที่สุด จากนั้นก็จะกลับเข้าสู่ Silent Mode ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้สำหรับเปิด/ปิดการทำงานของพัดลมระบายอากาศในกรณีที่ต้องการความเงียบในการทำงาน ส่วนช่องลมเข้า (Air Intake) และช่องระบายอากาศ (Vent)ที่ถูกปล่อยออกไปนั้นจะอยู่ที่ด้านหลังของเครื่อง และนั่นจะทำให้มั่นใจได้ว่าต้นขาของคุณจะไม่ถูกย่างเมื่อคุณวางแล็ปท็อปไว้บนตัก และที่จะกล่าวในที่นี้ก็คือ แล็ปท็อปเครื่องนี้ไม่เคยร้อนจนถึงจุดที่ทำให้เราต้องกังวล
สำหรับแล็ปท็อปโดยทั่วไปที่ไม่มีการ์ดจอแยกนั้น โดยปกติแล้วมันก็จะไม่เหมาะกับการเล่นเกมสักเท่าไหร่นัก เนื่องจากการ์ดจอออนบอร์ดที่มาพร้อมกับ CPU นั้นไม่ได้แรงพอที่จะสามารถเล่นเกมหนักๆ ได้ ซึ่งเราก็ได้ลองกับเกม Fortnite และเครื่องก็สามารถจัดการได้แค่18-19 fps (เฟรมเรท/วินาที) นั่นเป็นการตั้งค่าที่ต่ำที่สุด ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วมันแทบจะเล่นไม่ได้เลย
ในส่วนของเสียงที่ออกจากลำโพงนั้น มันสามารถส่งเสียงดังในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบได้ แต่ความลึก (Depth)ของเสียงนั้นมีไม่มากนัก
Dell Latitude 7390 2-in-1 : Battery Life - 7คะแนน
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ (Battery Life) ใน Latitude 7390 2-in-1 เป็นไปตามที่เราคาดไว้ ซึ่ง Dell อ้างว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้นอยู่ที่8 ชั่วโมง แต่เราสามารถใช้งานอย่างต่อเนื่องได้ประมาณเจ็ดชั่วโมง โดยจะเป็นการค่อยๆ ระบายแบตเตอรี่จาก 100 เปอร์เซ็นต์ ไปจนถึงประมาณ 8-10 เปอร์เซ็นต์ นี่คือระยะเวลาที่ฉันใช้แล็ปท็อปเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันในที่ทำงานของฉัน ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการท่องเว็บ บางส่วนก็จะเป็นการแก้ไขสีและการแก้ไขภาพเป็นหลัก,อีเมล และงานที่เกี่ยวข้องกับงานพิมพ์อื่นๆ เจ็ดชั่วโมงที่ว่านี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีสำหรับแล็ปท็อปโดยทั่วไป แต่ก็ไม่ได้จัดว่าเป็นตัวเลขที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน เพราะ Dell XPS 13และ Lenovo Yoga 920 ก็ยังสามารถทำได้ดีกว่า Latitudeเครื่องนี้ได้ในบางสถานการณ์
หากคุณชอบที่จะสตรีมมิ่งภาพยนตร์ (Streaming Movies) และฟังเพลงบนแล็ปท็อป รวมทั้งใช้มันเพื่อการทำงานทั่วๆ ไป Dell Latitude 7390 2-in-1 ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมันจะอยู่กับคุณได้นานกว่า
PCMark 8 เป็นการทดสอบระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่หนักกว่าการทดสอบของเรา และมันก็ให้ผลลัพธ์โดยประมาณที่ 3 ชั่วโมง 27 นาที นี่ก็ถือว่าเป็นค่าที่ค่อนข้างมาตรฐานสำหรับแล็ปท็อปที่มีแบตเตอรี่ 65 Wh ภายในเครื่อง แต่ถ้าจะต้องพิจารณาให้มันเป็นแล็ปท็อปที่มีไว้สำหรับการทำงานระหว่างเดินทาง เราคาดหวังว่ามันจะมีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ (Battery Life) ที่ยาวนานมากกว่านี้
คำตัดสินและราคาในอินเดีย
แล็ปท็อปประเภท 2-in-1 ดูเหมือนว่าจะแปลกใหม่สำหรับผู้ใช้งานในเชิงธุรกิจ แต่คุณสามารถจินตนาการถึงความสามารถหลายๆ อย่างของมันได้อย่างง่ายดาย ในฐานะของแล็ปท็อปประเภท Convertible ที่สามารถเข้ากันได้กับงานของคุณ ซึ่ง Dell Latitude 7390 2-in-1 เองก็มีบริการต่างๆ ให้เลือกมากมายสำหรับกิจกรรมยามว่าง แต่จะว่าไปแล้ว คุณเองก็คงจะไม่ได้มองแล็ปท็อปเครื่องนี้เป็นพิเศษในกรณีที่คุณเป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไป (Casual User)และสำหรับผู้ใช้งานดังกล่าวเราคิดว่า DellXPS 13 หรือDell XPS 15 ก็น่าจะเพียงพอ
Dell เน้นในเรื่องของความปลอดภัยอย่างชัดเจนเมื่อพูดถึงการออกแบบ ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้ต่างก็เป็นที่คาดหวังสำหรับแล็ปท็อปธุรกิจ ทั้งนี้ มันอาจจะดูน่าเบื่อไปบ้าง แต่ไม่นานมันก็จะถูกหลอมรวมเข้ากับสภาพแวดล้อมในที่ทำงานของคุณ ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานของมัน
นี่เป็นแล็ปท็อปที่มีความแข็งแรงทนทานมากเลยทีเดียว และมันก็ไม่หนักจนเกินไป นอกจากนี้ระบบต่างๆ ภายในของมันยังสามารถจัดการกับภาระงาน (Workloads)หนักๆ ได้ รวมทั้งอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ (Battery Life) ก็เกือบจะเป็นที่น่าพอใจ
การรวมเข้าด้วยกันของเครื่องอ่านสมาร์ทการ์ด (Smart Card Reader), เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) และจอแสดงผล (Display) ควรเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานระดับมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม ที่ราคา Rs 1,35,000 (รูปี) นั้น ถือว่าเป็นราคาที่แพง แต่คุณก็จะได้รับฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมกลับไปด้วยเช่นกัน ซึ่งความจริงแล้วคุณสามารถเลือกใช้อะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น Dell XPS 15 หรือแม้แต่ MacBook Pro แต่นั่นเป็นแล็ปท็อปสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป (Consumer-Grade) และแล็ปท็อปเหล่านั้นก็ยังไม่ได้รับการประเมินมาตรฐานMil-Spec เช่นเดียวกับ Dell Latitude 7390 2-in-1 อีกด้วย
ดูสินค้าเพิ่มเติม : https://bit.ly/396pBA0