COMMERCIAL IT UPDATE
รีวิว Microsoft Surface Pro X
รีวิว Microsoft Surface Pro X : เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า จึงต้องยอมแลกด้วยบางสิ่ง
เป็นเรื่องที่น่าประทับใจที่ผลิตภัณฑ์ในตระกูล Surface ของ Microsoft ได้นำ Snapdragon มาใช้เป็นรุ่นแรก แต่ระดับความน่าประทับใจก็ยังไม่เพียงพอสำหรับใครหลายๆ คน
ปัจจุบัน เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย หากคุณต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ดูได้จากข้อเท็จจริงที่ว่า ในตอนนี้ Apple เป็นบริษัทที่ผลิตแล็ปท็อปที่ปลอดภัยและยังแปลงข้อความเป็นคำพูดได้ (Predictable) ในขณะที่ Microsoft ก็กำลังทำการทดลองกับแนวคิดใหม่ๆ โดยผลงานรุ่นล่าสุดก็คือ Surface Pro X ซึ่งจัดว่าเป็นอุปกรณ์ Microsoft Surface ของ First-Party ที่ไม่ได้ขับเคลื่อนโดย Intel แต่เป็นการใช้โปรเซสเซอร์ ARM ที่ผลิตโดย Qualcomm แทน
นี่อาจจะเป็นเรื่องที่ฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ แต่วิธีการเช่นนั้นก็เกิดขึ้นจริง เนื่องจาก Pro X ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อกับ 4G และใช้ชิป Qualcomm เพื่อรักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้นในขณะที่ใช้งาน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องย้ำให้เข้าใจก็คือ มันไม่สามารถเรียกใช้แอพพลิเคชั่น x86 Windows ได้เต็มรูปแบบ
รีวิว Microsoft Surface Pro X : การออกแบบ
การออกแบบของ Pro X นั้นให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยในทันทีที่พบเห็น เพราะสุดท้ายแล้วมันก็แค่มีความโค้งมนที่เพิ่มมากขึ้น และบางกว่าดีไซน์ของ Surface Pro ในเวอร์ชั่นก่อนๆ ที่ได้รับการยอมรับ แต่มันก็น่าสนใจพอสมควร แม้ว่าจะดูน่าเบื่ออยู่บ้างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ Surface Pro ทั่วๆ ไป ในส่วนของขอบที่กลมมนนั้นดูธรรมดากว่ามุมและเส้นที่โดดเด่นของเฟรมของ Pro ถึงแม้ว่าสีดำด้านจะเป็นสีที่ไม่มีความเสี่ยงและยังเป็นสีที่พวกเขาเชี่ยวชาญ แต่การทำให้มันเป็นตัวเลือกเดียวก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ในขณะที่สีอื่นๆ ที่เคยมีในตระกูล น่าจะให้ความรู้สึกที่ดูมีชีวิตชีวามากกว่านี้
ในเรื่องของการตลาดของ Microsoft เท่าที่สังเกตเห็นนั้น Pro X จะถูกจำหน่ายเพื่อนำไปใช้เป็นอุปกรณ์ทางธุรกิจเป็นหลัก แต่บรรดาผู้ผลิตงานสร้างสรรค์และนักออกแบบก็ไม่ต้องกังลงกับเรื่องนี้ เพราะ Pro X เองก็มีอุปกรณ์ต่างๆ เพียบพร้อมเพื่อช่วยให้พวกเขาได้สร้างสรรค์ผลงานดีๆ เช่นเดียวกับเพื่อนรุ่นอื่นๆ ที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับมัน
รีวิว Microsoft Surface Pro X : แป้นพิมพ์ Type Cover และปากกา Surface
รีวิว Microsoft Surface Pro X : รายละเอียดต่างๆ และประสิทธิภาพ
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ทุกอย่างเรียบร้อยและเป็นที่น่าพอใจ แต่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่ามีอะไรที่สำคัญอยู่ข้างในนั้น และไม่มีที่ไหนที่น่าเชื่อถือมากไปกว่า Pro X อีกแล้ว เพราะนี่เป็นอุปกรณ์ Surface เครื่องแรกที่สร้างขึ้นโดยใช้ฮาร์ดแวร์ Qualcomm Snapdragon แต่ Microsoft ก็ได้ทำมากกว่าแค่การติด Snapdragon 855 ไว้ในนั้นและเลิกคิดที่จะทำอะไรกับมันต่อ
เพราะพวกเขาได้ร่วมกันออกแบบแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ใหม่ทั้งหมดโดยเฉพาะสำหรับ Pro X ซึ่งเรียกกันว่าชิปเซ็ต "Microsoft SQ1" แต่อุปสรรคที่ตามมาก็คือ นี่คือชิป ARM ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับความเข้ากันได้ (Compatibility) ตามความหมายก็คือ มันจะไม่รันแอพพลิเคชั่นใดๆ ที่สร้างขึ้นสำหรับชิป Intel ดั้งเดิม (ซึ่งก็หมายถึง แอพพลิเคชั่นทั้งหมดที่จำเป็น) เพื่อแก้ไขปัญหานี้ Microsoft จึงทำการสร้างเครื่องมือจำลอง (Emulation Engine) เพื่อช่วยให้ Pro X สามารถเรียกใช้ Windows Applications แบบ 32-bit ได้
ข้อขัดข้องนั้นยังห่างไกลจากทฤษฎี และปัญหาความเข้ากันได้ก็ยังคงเป็นเรื่องใหญ่ แม้ว่าจะอยู่นอกเหนือจากที่เราคาดไว้ก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น มีบางแอพพลิเคชั่นที่ไม่สามารถใช้งานได้ในรูปแบบ ARM หรือ Windows เวอร์ชัน 32-bit ดังนั้น Pro X จึงไม่สามารถเรียกใช้งานพวกมันได้เลย ซึ่งกรณีตัวอย่างก็คือ แอพพลิเคชั่น Lightroom และ Premiere Pro ของ Adobe
แหล่งตรวจสอบอื่นอาจจะได้รบ Adreno 685 iGPU และ RAM 8GB หรือ 16GB แต่เครื่องที่เราทำการตรวจสอบนั้นมาพร้อมกับ RAM ขนาด 16GB และยังขับเคลื่อน Pro X ให้ไปสู่ผลลัพธ์ที่เราเองก็คาดไม่ถึงในการทดสอบเพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะของเรา โดยจากการทดสอบ Geekbench 5 ในครั้งนี้ Pro X ทำคะแนนในส่วนของ Single และ Multi-core ได้ที่ 736 และ 2,891 คะแนน ซึ่งก็ถือว่าตามหลัง Core i7 Surface Pro 7 อยู่ไม่ถึง 10% หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ มันมีกำลังขับเคลื่อนพอที่จะรับมือกับ Workload ทางธุรกิจได้อย่างที่คุณต้องการ โดยที่เราก็มีข้อสันนิษฐานว่าซอฟต์แวร์ของมันสามารถรองรับการทำงานในรูปแบบดังกล่าวได้
จุดขายอื่นๆ ที่น่าสนใจสำหรับ Pro X และข้อสันนิษฐานทั้งหมดที่เกี่ยวกับคุณค่าที่แท้จริงของมัน ก็คือ ความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่อ LTE Advanced Pro ที่รวดเร็วเป็นพิเศษ เพื่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา (Always On) แม้ว่าจะค่อนข้างประหลาดใจที่ Microsoft ไม่ได้พยายามที่ใช้ประโยชน์จาก 5G Bandwagon กับอุปกรณ์นี้ แต่เราก็ได้เห็นแล้วว่าทำไมจึงต้องตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง เมื่อพิจารณาถึงข้อเท็จจริงที่ว่า แล็ปท็อปที่ใช้ ARM นั้น มีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อยในตัวของมันเอง
แต่ก็ถือว่ายังโชคดีที่ความเสี่ยงนั้นมีผลตอบแทน เพราะการเชื่อมต่อ LTE ทำงานได้ดี เพราะเมื่อได้ใช้งานมันเราก็แทบจะไม่ได้สังเกตเห็นถึงความแตกต่างในเรื่องของความเร็วหรือความเสถียร (Stability) เมื่อเทียบกับการเชื่อมต่อแบบใช้สาย (Wire) ตามปกติของเรา และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็ทำให้เราใช้งานได้อย่างง่ายดายตลอดทั้งวันที่มีการเชื่อมต่อ LTE ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะบุคคล อย่างไรก็ตามควรจำไว้ว่าสิ่งนี้จะต้องมี Data Contract แยกต่างหาก ดังนั้น อาจจะดีกว่าที่บุคคลจำนวนมากหรือธุรกิจขนาดเล็กจะใช้ WiFi เว้นแต่ว่าพวกเขาเต็มใจที่จะจ่ายเพิ่มเติมให้กับฟีเจอร์ Mobile Data Plan
นอกจากนี้มันยังรองรับระบบการจดจำใบหน้าผ่าน Windows Hello ตลอดจน Studio Mics ไมโครโฟนคู่ ระบบ Far-Field สำหรับการสนทนาทางวิดีโอและสถานการณ์ที่จะต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม (Collaboration) ซึ่งอย่างหลังนี้มีประโยชน์เป็นอย่างมาก สำหรับผู้ใช้ทางธุรกิจที่ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการประชุมทางโทรศัพท์หรือการประชุมทางไกล และมันก็ทำงานได้ดีสำหรับการรับเสียงที่ชัดเจน ในขณะเดียวกันมันก็ยังช่วยกรองเสียงรบกวนจากรอบข้างได้ดีอีกด้วย
รีวิว Microsoft Surface Pro X : สรุป
ในตอนแรกดูเหมือนว่า Surface Pro X ก็พอจะมีความหวังอยู่บ้างเล็กน้อย แต่อุปกรณ์ของ Windows ที่สามารถรันได้เฉพาะบางแอพพลิเคชั่นนั้นรู้สึกว่ามันจะใกล้เคียงกับ Windows RT ในสมัยก่อนมากเกินไป และความน่ากลัวของปัญหาความเข้ากันได้ก็เป็นเรื่องสำคัญ อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาที่ยากเกินกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจจะมีบางแอพพลิเคชั่นที่ไม่สามารถใช้งานได้เลย แต่ก็จะมีบางแอพพลิเคชั่นที่มีอาการสะดุดบ้างเล็กน้อย เนื่องจากความเสถียรที่ไม่ต่อเนื่อง แต่แน่นอนว่าประสบการณ์จากการใช้งานของเราไม่ได้ถูกรบกวนจากปัญหาด้านประสิทธิภาพแต่อย่างใด
แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่เราชอบเกี่ยวกับ Pro X ไม่ว่าจะเป็นลักษณะที่เพรียวบาง น้ำหนักเบา และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานผ่านระบบ 4G ทำให้มันสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับการทำงานในระหว่างการเดินทาง ซึ่งหลังจากที่เราใช้เวลาอยู่กับมันมาสักระยะ ทำให้เรารู้สึกเสียดายที่จะต้องวางมันลง ขณะที่ต้องไปตรวจสอบเครื่องอื่นๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่เห็นได้ชัดว่าทุกคนไม่ต้องการจะพูดถึงมันนั้นไม่มีเหตุผลมากพอที่จะยอมรับการประนีประนอมเพียงไม่กี่ข้อที่เป็นข้อเรียกร้องจากเรา แต่เมื่อเทียบกับ Acer Swift 7 ที่นำเสนอแพ็คเกจน้ำหนักเบา ในขณะที่ Surface Pro 7 ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในทางเทคนิคเลยแม้แต่น้อย (นอกเสียจากอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่น่าประทับใจน้อยกว่า) และสิ่งที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงปรากฏการณ์เพียงอย่างเดียวที่ Pro X มีติดตัวก็คือ การรองรับระบบ 4G ที่แข็งแกร่งของมัน แต่นั้นอาจจะเป็นไปได้ว่ามันต้องแลกเปลี่ยนกับความสามารถที่เข้ากันได้ของอุปกรณ์ ซึ่งก็น่าจะเป็นการลงทุนที่มากเกินไปสำหรับคนอื่นๆ ยกเว้นก็เพียงแต่ผู้ใช้ที่ใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นส่วนใหญ่
เมื่อพิจารณาจากเรื่องทั้งหมดที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น เราไม่มีข้อสงสัยเลยว่าทำไม Microsoft Surface Pro X จึงเป็นผลงานทางวิศวกรรมที่น่าประทับใจ และหวังว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของอนาคตที่สดใส เพราะมันเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะได้รับอะไรมากไปกว่าการเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจ ในฐานะของแปลกที่ล้ำสมัย