รีวิว Nvidia RTX 4090 การ์ดจอ 4K ระดับเทพ
Please wait...
1726202978.png
1731393918.jpg
1730459076.jpg
1730782055.jpg
1730966771.jpg
COMMERCIAL IT UPDATE
รีวิว Nvidia RTX 4090 การ์ดจอ 4K ระดับเทพ

รีวิว Nvidia RTX 4090: การ์ดจอ 4K ระดับเทพ


Nvidia RTX 4090 review_4K Beast

RTX 40 series เปิดตัวมาด้วยประสิทธิภาพที่ก้าวกระโดด 

 
เราถึงกับต้องตรวจสอบ benchmark ของเราซ้ำแล้วซ้ำอีกระหว่างที่รีวิว เพราะแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง การ์ด RTX 4090 ถือเป็นการ์ดจอระดับเทพที่ขีดเส้นเข้าสู่ยุคใหม่ของเกมพีซีเลยทีเดียว เฟรมระดับสูงระดับ 1440p ที่พวกเราคุ้นเคย ตอนนี้มีให้ใช้ในระดับ 4K แล้ว
 
เมื่อรวมกับอัปเดต Deep Learning Super Sampling (DLSS) ล่าสุดของ Nvidia แล้ว RTX 4090 ยังช่วยมอบประสิทธิภาพระดับ 4K แสนราบรื่นในเกม Cyberpunk 2077 อย่างที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน เรากำลังพูดถึงระดับเฟรมเรตเกือบ 140fps ที่ระดับ 4K โดยปรับการตั้งค่าเป็นสูงสุดทั้งหมด และเปิดใช้งาน Psycho Ray Tracking ซึ่งที่ระดับ 1440p ก็แทบถึงขีดจำกัดของจอภาพ 240Hz ของเราแล้ว และ DLSS 3 ยังมอบประสิทธิภาพที่น่าประทับใจอย่างไม่น่าเชื่อ แต่สำหรับเกมที่ยังไม่รองรับ คุณก็ยังได้เฟรมเรตที่ดีขึ้นโดยเฉลี่ยถึงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์
 
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้มีราคาที่ต้องจ่าย ด้วยราคาถึง 1,599 ดอลลาร์ การ์ดจอ RTX 4090 แตะจุดสูงสุดของตลาด GPU แล้ว ซ้ำขนาดฟุตปรินต์ที่ใหญ่ของมันอาจทำให้เสียบเคสพีซีบางรุ่นได้ยาก นอกจากนี้ RTX 4090 ยังใช้พลังงานถึง 450 วัตต์ และคุณจะต้องมีขั้วต่อพลังงาน PCIe สำรองเป็นจำนวนมากเพื่อให้การ์ดนี้ทำงานได้ แต่ถ้าคุณรับได้กับราคา ขนาด และพลังงานของมัน นี่คือการ์ดที่มอบประสบการณ์ 4K ในแบบที่ไม่เหมือนใครให้คุณได้
 

ข้อดีและข้อเสียของ Nvidia RTX 4090

ข้อดี

·      ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมระดับ 4K
·      DLSS 3 แปลงเฟรมเรต
·      VRAM ขนาด 24GB

ข้อเสีย

·      ใช้พลังงานกว่า 450W
·      ตัวเสียบดองเกิลของสายอะแดปเตอร์ยังน่ารำคาญอยู่
·      โคตรใหญ่
·      โคตรแพง
 

วิธีให้คะแนนและรีวิวผลิตภัณฑ์ของเรา

RTX 4090 Founders Edition ถูกส่งมาในกล่องที่ใหญ่จนดูตลก เรานึกภาพว่ามันคงเป็นเหมือนกล่องใส่เช็คเงินถูกหวย เพราะขนาดกล่องที่ใหญ่เกินนั้นทำให้คุณเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับขนาดที่เหนือจริงของ RTX 4090 ได้เลยทีเดียว
 
ถึงแม้ RTX 4090 จะสั้นกว่า RTX 3090 เกือบ 10 มม. แต่ความสูงที่เพิ่มขึ้น 1 นิ้วก็ทำให้มันดูหนาขึ้นมาก เราไม่มีปัญหาใด ๆ ตอนเสียบมันเข้ากับเคส แต่เรานึกภาพออกเลยว่าขนาดของมันคงเป็นปัญหาในบางกรณีแน่ ๆ  โดยเฉพาะถ้าคุณเลือกใช้การ์ดจอ RTX 4090 รุ่นอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่ารุ่น Founders Edition
 
แม้ว่าความสวยงามโดยรวมของ RTX 4090 จะคล้ายกับ RTX 3090 แต่ RTX 4090 ออกแบบพัดลมใหม่ให้มีใบพัดเจ็ดใบแทนที่จะเป็นเก้าใบ พัดลมตัวนั้นกินพื้นที่ด้านหลังการ์ดเกือบทั้งหมด
 
Nvidia ยังเปลี่ยนตัวเชื่อมต่อพลังงานของ RTX 4090 และเลือกใช้ single 12-pin PCIe 5 ซึ่งกำลังส่งสูงสุด 600 วัตต์ และเป็นตัวเชื่อมต่อเดียวกันกับ RTX 3090 Ti โดย Nvidia ยังมีสายอะแดปเตอร์ 12VHPWR มาให้ในกล่อง เพื่อให้คุณเชื่อมต่อสาย PCIe แบบแปดพินทั้งสี่เส้นได้ ซึ่งมีจำนวนเป็นสองเท่าของจำนวนสายแปดพินที่จำเป็นต้องใช้สำหรับ RTX 3090 แต่ในทางเทคนิคแล้ว คุณจะต้องเชื่อมต่อสายเคเบิลแปดพินทั้งสามเส้นที่จ่ายไฟได้ 150 วัตต์ต่อเส้น เพื่อให้ครอบคลุมทั้ง 450 วัตต์ โดย Nvidia แนะนำให้คุณเชื่อมต่อสายแปดพินสายที่สี่ ถ้าคุณวางแผนจะโอเวอร์คล็อกการ์ด
 
คุณอาจต้องใช้พาวเวอร์ซัพพลายขนาด 1,000 วัตต์สำหรับ RTX 4090 เนื่องจากคุณต้องจับคู่มันกับ CPU รุ่นล่าสุด หากต้องการใช้งานมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดย Nvidia แนะนำให้ใช้พลังงานทั้งหมด 850 วัตต์ แต่การเผื่อที่ไว้เพิ่มเติมสำหรับการโอเวอร์คล็อกก็อาจมีประโยชน์ก็เป็นได้
 

Benchmark 1440p

เรากำลังทดสอบ RTX 4090 ด้วยโปรเซสเซอร์ Core i9-12900K ของ Intel สำหรับการทดสอบ benchmark  1440p โดยเราเลือกจับคู่ GPU นี้กับจอ Samsung Odyssey G7 ขนาด 32 นิ้ว ทั้งนี้ จอภาพนี้รองรับรีเฟรชเรตสูงสุดที่ 240Hz และรองรับเทคโนโลยี G-Sync ของ Nvidia
 
เราวาง RTX 4090 เทียบกับ RTX 3090 ไปเลย เพื่อดูว่าเจ้า GPU รุ่น Ada Lovelace ล่าสุด นี้มีอะไรมากกว่า Ampere ไหม โดยเราเลือกทดสอบด้วยเกมระดับ AAA หลากหลายเกม รวมถึง Forza Horizon 5, Assassin’s Creed Valhalla และ Cyberpunk 2077 ด้วย นอกจากนี้ เรายังทดสอบ DLSS 3 ด้วย Cyberpunk 2077 และ Microsoft Flight Simulator ซึ่งเป็นเกมที่มีข้อกำหนดความต้องการสูงมากทั้งสองเกม
 
เกมทั้งหมดที่ใช้ในการทดสอบถูกปรับการตั้งค่าเป็นระดับสูงสุดหรือระดับ Ultra เมื่อเล่นบน RTX 4090 และเกมส่วนมากมีอัตราเฟรมเรตสูงกว่า 100fps แม้จะเปิดใช้ตัวเลือก Ray-tracing แล้วก็ตาม ระบบการควบคุมได้สูงถึง 223fps ที่ 1440p และแม้ว่าจะเปิดใช้ Ray Tracing แล้ว RTX 4090 ก็ยังสามารถส่งมอบเฟรมเรตที่อัตรา 167fps ได้อย่างน่าประทับใจ
 
ส่วนเกม Watch Dogs: Legion นั้นมีความต้องการพิเศษกว่าเกมอื่นเสมอ แม้แต่ใช้การ์ด RTX 3090 และ RTX 4090 ก็ยังมีอัตราอยู่ที่ 132fps ได้โดยไม่ต้องเปิดใช้ Ray Tracing ซึ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 36 เปอร์เซ็นต์ โดยจากเกมทั้งหมดที่เราได้ทำการทดสอบ เราพบว่าประสิทธิภาพของเกมเพิ่มขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ที่ 1440p หากเปลี่ยนจากการ์ดจอ RTX 3090 มาเป็น RTX 4090 แค่สิ่งนี้สิ่งเดียวก็เป็นการก้าวกระโดดที่น่าประทับใจแล้ว และยังน่าสนใจยิ่งขึ้นเมื่อเปิดใช้งาน DLSS 3
 
เราทดสอบด้วย Cyberpunk 2077 และ Microsoft Flight Simulator เวอร์ชันใหม่ ซึ่งทั้งคู่มี DLSS 3 โดยเวอร์ชันล่าสุดนี้ใช้เทคนิค AI upscaling แบบเดียวกันกับ DLSS 2 ควบคู่ไปกับเทคโนโลยี AI Frame Generation ใหม่ โดยใช้สถาปัตยกรรม Ada Lovelace ใหม่ ซึ่งหลัก ๆ แล้วฟีเจอร์ Frame Generation นี้จะสร้างเฟรมขึ้นมาสองเฟรมโดยใช้เทคนิคการเรนเดอร์ที่มีอยู่ จากนั้นเฟรมที่สามจะถูกแทรกเข้ามาระหว่างเฟรมทั้งสองโดยใช้เทคโนโลยี Frame Generation ผลลัพธ์ที่ได้คือประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ DLSS 3 ใน RTX 40 series ณ ขณะนี้
 
เมื่อเล่น Cyberpunk 2077 โดยใช้การตั้งค่าสูงสุดและเปิด Psycho Ray Tracing กับ DLSS 2 Quality ไว้เมื่อใช้การ์ด RTX 4090 จะทำงานโดยเฉลี่ยที่ประมาณ 114fps แต่ถ้าเปิดแค่ frame generation ประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวเป็น 181fps หรือถ้ายอมสละคุณภาพของภาพลงเล็กน้อย โหมดประสิทธิภาพ DLSS 3 ก็จะมีความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นความเร็วสูงสุด 217fps ซึ่งสำหรับ 1440p แล้ว เป็นการก้าวกระโดดอย่างน่าเหลือเชื่อสำหรับเกมที่รันที่ 70fps บน RTX 3090
 
สิ่งที่ว่ามานี้สามารถพบได้ใน Microsoft Flight Simulator เช่นกัน เราทดสอบด้วย Flight Simulator ภาคพิเศษสำหรับทดสอบ และพบว่าทำได้ถึงประมาณ 64fps ที่การตั้งค่าที่ระดับ Ultra เปิด DLSS 2 Quality และปิดโหมดออนไลน์ และเพียงกดปุ่มเลื่อนเปิดใช้งานการ DLSS 3 frame generation ก็ยกระดับทั้งหมดพุ่งขึ้นมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ขึ้นเป็น 133fps เราแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะทำประสิทธิภาพได้ขนาดนี้ Microsoft Flight Simulator ก็เป็นเกมที่มีความต้องการไม่ได้น้อยเลย 
 

benchmark 4K 

ถ้าคิดว่า benchmark 1440p ดูน่าประทับใจแล้ว รอจนคุณได้เห็นก่อนเถอะว่า RTX 4090 ทำอะไรได้บ้างถ้าเป็น benchmark 4K ซึ่งสำหรับ benchmark 4K เราจับคู่ GPU ตัวนี้กับจอภาพ Acer Nitro XV2 ขนาด 31.5 นิ้ว จอภาพนี้รองรับรีเฟรชเรตสูงสุดถึง 144Hz และจะเห็นได้จาก benchmark ว่า RTX 4090 ทำให้เกิดเฟรมเรตในแบบที่ใช้ประโยชน์จากเจ้าจอ 4K นี้ได้อย่างแท้จริง
 
หากทำประสิทธิภาพที่ benchmark 1440P ด้วย RTX 4090 ได้ถึงประมาณ 50% ณ ตอนนั้น ประสิทธิภาพก็จะมากกว่าเดิมเสียอีกในระดับ 4K เราทดสอบเกมทั้งหมดและพบว่าถ้าใช้ RTX 4090 จะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์มากกว่า RTX 3090 ที่ระดับ 4K นับเป็นการ์ดระดับเทพเพื่อการเล่นเกมระดับ 4K อย่างแท้จริง
 
เราไม่ได้สนใจเล่นเกมระดับ 4K ขนาดนั้น เหตุผลมีอยู่ว่า GPU ยังไปถึงระดับที่เฟรมเรตสูงพอจนถึงระดับที่เราคุ้นเคยไม่ได้ที่ระดับ 1440P เราเป็นคนประเภทที่บอกได้ทันทีว่าตัวเองกำลังเล่นอยู่ที่ระดับ 120fps แทนที่จะเป็นระดับเกือบ 200fps แต่การใช้ RTX 4090 ควบคู่กับ DLSS 3 นี่ดึงดูดให้อยากใช้ 4K จริง ๆ
 
เราใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่น Cyberpunk 2077 ที่ 4K ด้วย RTX 4090 เพียงเพราะว่าเราอยากเล่นเกมนี้แบบตั้งค่าสูงสุดทุกอย่างและเปิด Ray Tracing ที่ระดับ 4K มาโดยตลอด ซึ่ง RTX 3090 เปิดทุกอย่างสูงสุดที่ระดับ 4K ไม่ได้ เฟรมเรตตกลงต่ำกว่า 30fps บ่อยครั้ง แล้วยังให้ประสบการณ์หน่วงเหมือนลุยโคลน
 
ด้วย DLSS 3 เราทำได้เกือบ 140fps ที่ 4K โดยเฉลี่ยและตั้งค่าทุกอย่างสูงสุด ทั้งเปิด Psycho Ray Tracing  และเปิดใช้งานโหมด DLSS 3 และต่อให้จะไม่มี DLSS 3 แมพ Night City ก็ยังให้ฟีลที่นุ่มนวลขึ้นมากด้วยคุณภาพ DLSS 2 ซึ่งเป็นระดับ 66fps โดยเฉลี่ย แต่การเล่น Cyberpunk 2077 ที่ระดับมากกว่า 100fps ที่ 4K นั้นดีของจริง
 
ไม่ใช่แค่ Cyberpunk 2077 เท่านั้นที่เล่นได้ดีที่ระดับ 4K บนการ์ด RTX 4090 โดยรวมแล้ว เกมส่วนใหญ่ทำได้มากกว่า 100fps ที่ระดับ 4K การควบคุมนั้นลื่นไหลถึงขีดสุดเมื่อเปิดใช้ Ray Tracing และ DLSS โดยเฟรมเรตแตะถึง 158fps ในขณะที่เราชินกับระดับ 1440p เท่านั้น เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า DLSS 3 จะเข้ามา เพราะการยกระดับประสิทธิภาพสุดอึ้งที่เห็น ๆ กันอยู่จาก Cyberpunk 2077 ซึ่งจะดีมากหากได้เห็นสิ่งนี้ในเกมอื่น ๆ ที่รองรับ DLSS เพิ่มขึ้นอีก
 
Microsoft Flight Simulator เองก็ทำงานได้ดีบน RTX 4090 ที่เปิดใช้งาน DLSS 3 โดยภาคพิเศษสำหรับทดสอบทำได้ถึง 61fps เมื่อตั้งค่าเป็นระดับ Ultra เปิด DLSS 2 Quality และปิดใช้งานโหมดออนไลน์ ซึ่งถ้าย้ายไปการสร้างเฟรมโดย DLSS 3 จะทำให้อัตราเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ กลายเป็น 125fps และทำให้เกมที่ตั้งค่าเป็น Ultra เล่นได้มากขึ้นในส่วนของเกมที่มีความต้องการสูง ๆ
 
การ์ด Ada Lovelace แรกของ Nvidia แสดงให้เห็นว่ามีการปรับปรุงประสิทธิภาพครั้งใหญ่ในรุ่น Ampere 30-series ซึ่งระดับราคา 1,599 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ RTX 4090 ราคาเกินงบไปสำหรับนักเล่นเกมพีซีส่วนใหญ่ แต่ก็อาจเป็นตัวเปิดของการ์ดรุ่นต่อไปที่จะน่าตื่นเต้นขึ้นเรื่อย ๆ ก็เป็นได้
 
DLSS 3 เปลี่ยนวงการเฟรมเรตไปอย่างแท้จริง โดยที่ยังคงตัวเลือกด้านคุณภาพ สมดุล หรือประสิทธิภาพไว้ได้อยู่ จนถึงตอนนี้ มีเพียง 35 เกม/แอปพลิเคชันเท่านั้นที่ยืนยันแล้วว่าใช้ DLSS 3 ได้ ดังนั้นคงต้องใช้เวลาสักระยะก่อนจะได้เห็นผลกระทบของเทคโนโลยีใหม่นี้อย่างแท้จริง
 
ถึงแม้ RTX 4090 จะไม่รองรับ DLSS 3 ของ Nvidia แต่ก็อยู่ในลีกของตัวเองแล้วในขณะนี้ ถ้าต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมระดับ 4K การ์ด RTX 4090 จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง และสำหรับคนอื่นๆ การ์ด RTX 4080 จะเปิดขายในเดือนพฤศจิกายนและอาจเป็นการ์ดระดับ entry Point ที่เหมาะกว่าการ์ดรุ่นนี้ แต่ประสิทธิภาพของมันจะน่าประทับใจเท่ากับ12GB RTX 4080 ราคา 899 ดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นที่ถกเถียงกันหรือไม่?
 
AMD อาจเปิดขายในเดือนพฤศจิกายนและทำให้ตารางของ Nvidia RTX 40-series พร้อม RDNA 3 ปั่นป่วนได้ แต่จะให้มีอะไรมาเทียบกับ DLSS 3 ได้ก็คงยาก นี่คือดาวเด่นของงานสำหรับ RTX 4090 ของแท้ และแค่เหตุผลนี้ก็เพียงพอให้อัปเกรดแล้ว ถ้าคุณเชื่อว่า Nvidia จะทำได้ในระดับเดียวกับที่เคยทำมากับ DLSS 2 น่ะนะ
 
ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม RTX 4090 ก็เป็นการ์ดจอระดับเทพของ GPUs สำหรับเล่นเกม 4K โดยแท้ ยั่วยวนใจให้เราอยากอัปเกรดใจจะขาด แต่ป้ายราคา 1,599 ดอลลาร์สหรัฐนั่นแหละที่ทำให้เราหยุดไว้ก่อน
 
ที่มา:
 https://bit.ly/3JsP9w3
ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์