1726202978.png
1731393918.jpg
1732076627.jpg
1730459076.jpg
1730782055.jpg
1730966771.jpg
1731999875.jpg
ทำไมต้องปิด antivirus ทำแบบนี้ไวรัสจะแทรกเข้ามาได้หรือไม่
ทำไมต้องปิด antivirus ทำแบบนี้ไวรัสจะแทรกเข้ามาได้หรือไม่
อันตรายจากการถูกโจมตีด้วยไวรัสอาจจะส่งผลกระทบหลายอย่างที่อาจจะคาดไม่ถึง การใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้นจะถูกแนะนำให้ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสเสมอ แต่บางครั้งการทำงานของแอนตี้ไวรัสไม่สอดคล้องกับการใช้งาน บางตัวดึงทรัพยากรคอมพิวเตอร์ไปใช้งานมาก ทำให้การทำงานช้าลง บางทีก็ไปปิดการทำงานของบางโปรแกรมหรือบางไฟล์ ทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน ผู้ใช้งานหลายคนเลยปิด antivirus ไม่ให้ทำงาน ความจริงแล้วถือว่าเสี่ยงเกินไป เหมือนเราลดกำแพงหรือตัวกรองของข้อมูลลง และไวรัสมาได้หลายทางทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เราเชื่อมต่อด้วย เช่น แฟลชไดร์ฟ หรือมากับโลกออนไลน์ที่ใช้กันอยู่ทุกวัน หากมีปัญหากับการใช้ antivirus การปิดมันไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง
ปิด antivirus แล้วจะต้องทำใจว่าอาจจะเจอการโจมตีจากหลายช่องทาง
-
ไวรัสและสปายแวร์ที่สามารถใช้เพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ เพื่อควบคุมข้อมูลของเครื่องเจาะข้อมูลส่วนตัวหรือสอดแนม โดยอาจจะแฝงมากับโปรแกรมที่ได้ทำการติดตั้งหรือเปิดใช้
-
เวิร์ม (Worm) เป็นอีกตัวที่สามารถเจาะผ่านช่องโหว่เมื่อปิด antivirus เพื่อแพร่กระจายตัวเอง ไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ โดยผ่านทางเครือข่ายได้โดยอัตโนมัติ จากโปรแกรมที่ไม่มีความปลอดภัย และมักซ่อนตัวเองซึ่งเป็นอันตรายต่อประสิทธิภาพ หรือข้อมูลของระบบคอมพิวเตอร์ อาจจะมาจากการเปิดไฟล์แนบอีเมลที่ติดไวรัสเช่นไฟล์ .exe, .rar, .bat หรือ .zip เป็นต้น รวมถึงการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย หรือการเชื่อมต่อ USB ที่ติดไวรัสด้วย
ผลจากการปิด antivirus ทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยไวรัส อาจจะทำให้ไฟล์งานได้รับความเสียหาย โดนลบทิ้ง ไม่สามารถเปิดไฟลืได้ ถูกปลอมแปลงข้อมูลเพื่อทำธุรกรรมโดยเจ้าของเครื่องไม่รู้ตัว หรือคอมพิวเตอร์ทำงานได้ช้าลง
การปิด antivirus ไม่ใช่ทางออก หากติดตั้งแล้วส่งผลกระทบในการทำงานของคอมพิวเตอร์
โปรแกรมแอนตี้ไวรัสมีอยู่หลายโปรแกรม บางตัวก็สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี บางตัวก็ต้องเสียเงินซื้อ License มาใช้งาน การเลือกใช้โปรแกรม antivirus ให้เหมาะกับการใช้งานด้วยหลักการเหล่านี้ ดีกว่าแก้ไขด้วยการการปิด antivirus
-
ระยะเวลาการ boots windows ไม่ควรจะใช้เวลานานเกินไป
-
ตรวจสอบความสามารถการกำจัดไวรัสประเภทใดได้บ้าง ครอบคลุมไวรัสที่อาจจะเจอหรือไม่
-
ขนาดไฟล์ของโปรแกรม antivirus ใช้พื้นที่มากหรือไม่ ถ้าดูแล้วมากเกินไป ก็ควรเปลี่ยนโปรแกรม การปิด antivirus จะไม่ทำให้พื้นที่ลดลง แถมยังทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีอีกด้วย
-
ลักษณะการสแกนข้อมูลไม่ควรถูกออกแบบให้แสกนซ้ำไปมา ถ้าข้อมูลนั้นเคยถูกสแกนแล้วปลอดภัย ก็ควรจะ skip ข้ามไป
-
เลือกโปรแกรม antivirus ที่มีผลรายงานที่ละเอียด จะทำให้เรารู้ตัวเร็วว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีหรือไม่
-
เลือกโปรแกรม antivirus ที่มีการอัพเดตบ่อย เพราะไวรัสเองก็มีการอัพเดตอยู่ตลอด ตัวโปรแกรมก็ต้องอัพเดตเพื่อการดักจับไวรัสได้
จะเห็นว่าการใช้งานคอมพิวเตอร์มีความเสี่ยงอยู่มาก จึงไม่ควรปิด antivirus ดังนั้นการเลือกโปรแกรม antivirus ที่ดี จะทำให้ความปลอดภัยการใช้คอมพิวเตอร์มีมากกว่า