วิธีแก้ Windows 10 ไม่ให้ค้างขณะอัปเดต
Please wait...
1726202978.png
1731393918.jpg
1732076627.jpg
1730459076.jpg
1730782055.jpg
1730966771.jpg
1731999875.jpg
SOLUTIONS CORNER
วิธีแก้ Windows 10 ไม่ให้ค้างขณะอัปเดต

วิธีแก้ Windows 10 ไม่ให้ค้างขณะอัปเดต



เครื่องของคุณเคยค้างตอนกำลังอัปเดตอยู่หรือเปล่า? เราจะบอกวิธีแก้ให้
 
‘การอัปเดต’ เป็นอะไรที่เหมือนกับการไปหาหมอฟันหรือการดึงพลาสเตอร์แผล นั่นคือเป็นสิ่งที่ต้องทำก็จริง แต่ช่างไม่น่าทำเอาเสียเลย สถานการณ์ไม่พึงประสงค์ดังกล่าวนั้นยิ่งแย่กว่าเดิมเมื่อคุณคิดจะอัปเดตระบบปฏิบัติการ แต่เครื่องดันค้างตอนอัปเดตไปได้แค่ครึ่งทาง

แต่นี่แทบไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ใช้ Windows 10 ซึ่งมีการอัปเดตไม่บ่อยและไม่ลำบากมาก ซ้ำยังแทบจะอัปเดตให้โดยอัตโนมัติ มีการซ่อมบั๊ก ยกระดับการให้บริการให้โดยที่ผู้ใช้แทบไม่ต้องทำอะไร ทั้งหมดที่ผู้ใช้ต้องทำก็แค่หยุดใช้งานเครื่องตัวเองครู่เดียวตอนมันกำลังอัปเดตเท่านั้น บางคนอาจจะบอกว่านี่แหละที่น่ารำคาญ แต่มันก็ยังดีกว่าโดนถล่มโจมตี Ddos ใส่เพราะเครื่องตกรุ่นจนกันอะไรไม่ได้เลย

นั่นเป็นการมองในภาพใหญ่ที่เราต้องจำใส่ใจไว้เมื่อถึงเวลาที่อัปเดตเครื่องไม่ได้ เมื่อไรก็ตามที่เครื่องค้างขณะอัปเดต คุณต้องใจเย็นๆ อย่าเพิ่งตกใจ อย่าเพิ่งปิดเครื่อง นี่คือชีวิตจริงไม่ใช่เรื่อง The IT Crowd เครื่องของคุณอาจจะพังไปเลยก็ได้

การอัปเดตเป็นการเปลี่ยนแกนหลักของโครงสร้างระบบปฏิบัติการและเปลี่ยนแปลงไฟล์อื่นอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ ดังนั้นหากเครื่องค้าง การปิดเครื่องกลางทางอาจทำให้ไฟล์สำคัญถูกลบหายไป สุดท้ายคุณก็จะเหลือเพียงระบบปฏิบัติการพัง ๆ ระบบหนึ่ง และเครื่องที่ใช้งานไม่ได้อีกเครื่องหนึ่งเท่านั้น

ดังนั้น ขอให้คุณตั้งสติแล้วเอามือออกมาห่างๆ ปุ่มเปิด/ปิด จากนั้นก็ทำตามวิธีต่อไปนี้เพื่อให้เครื่องของคุณใช้งานได้อีกครั้ง


วิธีแก้ Windows 10 ไม่ให้ค้างขณะอัปเดต

ขั้นที่หนึ่ง การทดลองกดคีย์ Ctrl-Alt-Del อาจช่วยได้ถ้าเครื่องค้าง การกดคีย์ดังกล่าวจะช่วยให้คุณเข้าไปที่หน้าเข้าสู่ระบบได้เหมือนปกติ แต่ถ้าไม่ได้ ก็อาจต้องไปขั้นต่อไป

ขั้นที่สอง Restart เครื่อง  การ Reset เครื่องขณะกำลังติดตั้งอัปเดตถือเป็นบาปอันใหญ่หลวงที่เหล่าผู้ผลิตทั้งหลายเตือนไม่ให้คุณทำอย่างเด็ดขาด แต่ถ้ามันค้าง คุณก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วล่ะ ทำได้แต่ต้องกดปุ่ม Reset เครื่องเท่านั้น บางทีคุณอาจจะต้องกดปุ่มนั้นค้างด้วย

ขั้นที่สาม เปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ใน Safe Mode โดยการคลิกเมนู Startup Settings โหมดนี้จะปิดการทำงานทุกอย่างยกเว้นโปรแกรมที่จำเป็นต่อการรันเครื่องเท่านั้น จะได้ไม่มีโปรแกรมที่ทำงานขัดขวางกับการอัปเดตเครื่องนั่นเอง ซึ่งเมื่ออัปเดตแล้ว คุณก็สามารถ Restart เครื่องเพื่อออกจาก Safe Mode ได้

ขั้นที่สี่ ทำ System Restore  ปกติแล้ว Windows จะวางมาตรการไว้ก่อนล่วงหน้าด้วยการมีปุ่มให้กด Restore ก่อนจะกดปุ่มอัปเดต  คุณจะได้ย้อนกลับไปได้หากเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้นมา คุณสามารถเข้าถึงฟังก์ชันนี้ได้จาก Safe Mode หรือเข้าผ่าน Advanced Startup Options ถ้าวิธีแรกใช้การไม่ได้

ขั้นที่ห้า ทำ Startup Repair ซึ่งจะช่วยได้ล้ำลึกกว่า System Restore คุณสามารถใช้เครื่องมือ Startup Repair Tool (เข้าถึงได้ด้วยการคลิก Advanced Startup Options เช่นกัน) ในการแก้ปัญหาบางอย่างที่อาจจะส่งผลกับกระบวนการอัปเดต

ขั้นที่หก ล้างระบบติดตั้งอัปเดตของ Windows วิธีการนี้ไม่ต่างอะไรจากระเบิดนิวเคลียร์ แต่ถ้าทุกอย่างไม่ได้ผล คุณอาจทำได้เพียงลบมันทิ้งทั้งหมดแล้วสร้างขึ้นมาใหม่ แต่เราขอเตือนไว้ก่อนว่าคุณควรจะ backup ข้อมูลสำคัญ ๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า
 
ที่มา: 
https://bit.ly/38N6ETV
ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์