1726202978.png
1731393918.jpg
1732076627.jpg
1730459076.jpg
1730782055.jpg
1730966771.jpg
1731999875.jpg
เทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชั่น (Virtualisation)
เทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชั่น(Virtualisation) คืออะไร?
เคยสงสัยหรือไม่ว่าเทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนคืออะไรและทำงานอย่างไร ในบทความนี้คือคำแนะนำของเราเกี่ยวกับเทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชั่น(Virtualisation)
เทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชั่น (Virtualisation)เป็นเทคโนโลยีสำหรับการจำลองสภาพแวดล้อมให้เสมือนมีคอมพิวเตอร์หลายเครื่องในเครื่องเดียว โดยอาศัยกระบวนการสร้างเครือข่ายที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ด้านเวอร์ชวลไลเซชั่นเป็นตัวจัดการในเรื่องต่างๆซึ่งเป็นการสร้างสิ่งเสมือนจริงเพื่อเป็นตัวแทนของสิ่งอื่นๆ เช่นเซิร์ฟเวอร์ แอปพลิเคชัน และเครือข่ายต่างๆ วิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดค่าใช้จ่ายด้านไอที เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความคล่องตัวให้กับธุรกิจ
นานหลายปีมาแล้ว ที่เทคโนโลยีนี้เสมือนจริงมากขึ้น โดยมันถูกใช้งานบนคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายต่างๆ และเทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชั่น (Virtualisation)ก็ได้เปลี่ยนรูปแบบการทำงานของเราไปเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ปฏิทิน หลายปีที่ผ่านมาองค์กรไม่จำเป็นต้องมีปฏิทินจริงๆ ตั้งอยู่ในสำนักงานเลย เนื่องจากSoftware version ที่สามารถดูปฏิทินได้เช่นกันนั้นอยู่ในคอมพิวเตอร์อย่างถาวรแล้ว
หนึ่งประโยชน์ที่ดีที่สุดของเทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชั่น (Virtualisation)คือการรวมแอพพลิเคชั่นที่แตกต่างกันได้ ขอยกตัวอย่าง เรื่องการใช้ปฏิทินในสำนักงานอีกครั้งในปัจจุบัน ปฏิทินในคอมพิวเตอร์สามารถซิงค์กับผู้ติดต่อบัญชีอีเมล หรือแม้แต่ซอฟต์แวร์ที่คุณใช้สำหรับการประชุมทางไกลได้ มันจึงเพิ่มความคล่องตัวตลอดการทำงานของคุณ
เทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชั่น (Virtualisation)คืออะไร?
เทคโนโลยีเสมือนถูกสร้างขึ้นเมื่อซอฟต์แวร์แยกระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันออกจากฮาร์ดแวร์ กระบวนการซอฟต์แวร์นี้เรียกว่าไฮเปอร์ไวเซอร์ (Hypervisor)ซึ่งจะอนุญาตให้เครื่องมือทางกายภาพอย่างฮาร์ดแวร์เป็นโฮสต์รองรับเทคโนโลยีเสมือนในฐานะแขกโดยใช้ทรัพยากรการประมวลผลต่างๆ ร่วมกัน เช่นหน่วยความจำ (Memory) แบนด์วิธหรือการวัดความเร็วในการส่งข้อมูลของอินเทอร์เน็ต(Network bandwidth) และรอบ CPU(CPU cycles).
ประเภทของเทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชั่น (Virtualisation)
คอมพิวเตอร์เสมือน(Virtual machines)
หนึ่งในแอปพลิเคชันที่สำคัญของเทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชั่น (Virtualisation)คือคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual machines) หรือไฟล์คอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะและทำหน้าที่เหมือนคอมพิวเตอร์ในรูปแบบของมันเอง มันสามารถเปิดโลกที่ไม่ใช่สามารถจับต้องได้อย่างเช่นเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์ของคุณ จากการใช้ความพิวเตอร์จริงๆแต่ระบบปฏิบัติการเพิ่มเติมหรืออุปกรณ์ทั้งหมดนั้นจะแสดงผ่านหน้าต่างแอปพลิเคชันแทน
คอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual machines)ทำงานอย่างอิสระกับโฮสต์ ดังนั้นหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับฮาร์ดแวร์ที่คุณใช้เพื่อเข้าถึงการทำคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual machines) VM ก็จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ไปด้วย หรือหมายความว่าสิ่งผิดปกตินั้นจะไม่สามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของโฮสต์ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากมันทำงานแยกจากกันอย่างสมบูรณ์
หน่วยความจำเสมือน (Virtual memory)
เพื่อให้แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์เสมือน (VMs) ทำงานได้อย่างราบรื่นที่สุด การมีหน่วยความจำเสมือนระดับสูงในคอมพิวเตอร์ที่เป็นโฮสต์นั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก สิ่งนี้จะช่วยให้แอปพลิเคชันปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม การจัดเก็บ และรับข้อมูล โดยมันจะเปิดพื้นที่การใช้งานเพิ่มเติมให้กับฮาร์ดแวร์และเก็บข้อมูลพิเศษที่เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำได้ หรือที่เรามักเรียกกันว่าเซกเมนต์หรือเพจนั่นเอง
Virtual desktop infrastructure
Virtual Desktop Infrastructure (VDI) คือการที่องค์กรซื้อVirtual desktops โดยผู้ขายจากอีกบริษัทจะเป็นโฮสต์ให้กับองค์กรเอง ดังนั้นองค์กรจึงไม่จำเป็นต้องปรับใช้เทคโนโลยีบนโครงสร้าง On-Premises เอง จึงสามารถลดต้นทุนและปรับใช้ได้ง่ายขึ้น จากข้อมูลของ Nick McQuire รองประธานฝ่ายการวิจัยองค์กรที่ CCS Insight การพัฒนา desktop-as-a-service หรือ DaaS นั้นได้รับความนิยมอย่างมาก เขากล่าวว่า Virtual desktops และแอปพลิเคชั่นได้รับความนิยมในวงการไอทีมานานกว่าทศวรรษ นับตั้งแต่การการทำงานทางไกลได้เติบโตขึ้น ความต้องการMobile workstations ก็ได้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เขาจึงขอสนับสนุนให้หลายๆ องค์กรใช้เทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง
“เนื่องจากVirtual Desktop ไม่ได้เป็นโฮสต์ในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ดังนั้นองค์กรจึงสามารถแจกจ่ายคอมพิวเตอร์เครื่องแยกหรือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก(Thin Clients) ได้ด้วยการให้ผู้ใช้เข้าถึงแอปพลิเคชันและข้อมูลขององค์ก่อนในศูนย์ข้อมูลแทนเพื่อลดต้นทุนฮาร์ดแวร์และจัดการสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น”
Virtual applications
ข้อดีของVirtual desktops หลายประการยังสามารถนำไปใช้กับApp virtualization ได้ นั่นคือการช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงแอพได้โดยไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในเครื่อง และธุรกิจต่างๆ ก็สามารถควบคุมการใช้งานของผู้ใช้ได้มากขึ้นด้วย
McGuire กล่าวว่า “เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้เปิด Appvirtualization สำหรับบุคคลที่สามด้วย เช่น Microsoft Skype for Business หรือ Browsing” และเขาได้กล่าวต่อว่า "ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและการเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติตาม เช่น หากองค์กรนั้นต้องการมองควบคุมการใช้งานแอปพลิเคชั่นและต้องการเห็นสิ่งที่พนักงานใช้ เทคโนโลยี GDPR ก็จะสามารถช่วยบริษัทต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้มากขึ้น
“ในขณะที่องค์กรต่างๆ มองหาการอัพเกรดพีซี 300 ล้านเครื่องขึ้นไป แต่องค์กรที่มีอายุมากกว่าห้าปี กลับกำลังเปิดรับแพลตฟอร์มพีซีรุ่นใหม่ อย่าง Google Chromebooks และ Microsoft Windows 10 ที่กำลังเติบโตอย่างมากในภาครัฐของสหรัฐอเมริกา
ประโยชน์ของเทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชั่น (Virtualisation)
เทคโนโลยีนี้มีประโยชน์ต่อองค์กรเป็นอย่างมาก ประการแรกมันคุ้มค่า เมื่อใช้ที่เก็บข้อมูลเซิร์ฟเวอร์และเดสก์ท็อปที่สามารถเผยแพร่เนื้อหาได้ มันก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมการดำเนินงาน รวมถึงการลดความต้องการใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ที่จำเป็นต้องใช้ได้เป็นจำนวนมาก
ประโยชน์ของเทคโนโลยีจำลองคอมพิวเตอร์เสมือนหรือเวอร์ชวลไลเซชั่น (Virtualisation)นั้นยังดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยเพราะเซิร์ฟเวอร์และแหล่งเก็บข้อมูลถูกใช้น้อยลง นั่นหมายความว่ากระบวนการทำงานต่างๆ ไม่จำเป็นต้องมีการลดความเย็นลง (Cool down) นอกจากนี้การกำจัดเมื่อสิ้นสุดการใช้งานก็ง่ายดาย เพราะไม่จำเป็นต้องนำไปฝังทิ้งเนื่องจากมันมีหน่วยที่เล็กมาก