AI กำลังมีผลต่อประวัติส่วนตัว (CV) ข้อมูลข่าวสาร แม้แต่ภาพแมวของคุณ
Please wait...
1726202978.png
1731393918.jpg
1732076627.jpg
1730459076.jpg
1730782055.jpg
1730966771.jpg
1731999875.jpg
SOLUTIONS CORNER
AI กำลังมีผลต่อประวัติส่วนตัว (CV) ข้อมูลข่าวสาร แม้แต่ภาพแมวของคุณ

AI กำลังมีผลต่อประวัติส่วนตัว (CV), ข้อมูลข่าวสาร หรือแม้แต่ภาพแมวของคุณ

การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning), การเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกำลังสร้างเครื่องมือแปลกใหม่ (และบางครั้งก็มีประโยชน์) ในมุมมองที่ต่างออกไป
 
ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial intelligence) สามารถสร้างใบหน้ามนุษย์ที่เหมือนจริง, ข้อความ (Text), สูตรอาหารหรือแม้แต่ประวัติส่วนตัว (Curriculum Vitae) โดยมีงานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับ AI และโครงข่ายประสาทเทียม (Neural Network) ที่ชี้ให้เห็นว่าผลงานดังกล่าวนั้นมาไกลแค่ไหนแล้ว แต่ก็ยังเน้นถึงความซับซ้อนของการใช้แบบจำลองเพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆ ซึ่งเราก็ได้นำมาวิเคราะห์ถึง 5 ตัวอย่างเกี่ยวกับวิธีที่ AI สร้างและการทำงานที่เข้าถึงอำนาจของพวกมัน
 

ภาพสต็อก (Stock Photos) ในจินตนาการ

อย่างน้อยที่สุดนักวิจัยที่ Nvidia ก็ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกพอใจกับรูปภาพของพวกเขา ด้วยการสร้างภาพที่มีอยู่เดิมโดยใช้ Generative Adversarial Networks เพื่อสร้างภาพของใบหน้าใหม่ โดย Nvidia ได้เพิ่มระบบที่เรียกว่า Transfer ซึ่งเป็นการขโมยใบหน้าของมนุษย์ เพื่อนำไปยกระดับให้กับใบหน้าปลอมที่ไม่ใช่ใบหน้าของมนุษย์จริงๆ ดังนั้น มันจึงจับเอาจมูกจากที่นี่ ตาจากที่นั่น จากรูปภาพที่ถูกรวบรวมไว้ในคลัง โดยที่ไม่ต้องมีมนุษย์เหล่านั้นก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน จากนั้นมันก็นำมารวมเข้ากับภาพถ่ายจริง เพื่อให้ได้ใบหน้าของคนที่ไม่เคยมีอยู่จริง ซึ่งระบบจะใช้รูปภาพต้นฉบับจำนวนสองภาพ โดยภาพจากแหล่งที่มา A จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณลักษณะเฉพาะ เช่น เพศ หรืออายุหรือแม้แต่ท่าทาง ในขณะที่แหล่งที่มา B นั้นจะช่วยเติมเต็มในส่วนที่เหลือ คุณสามารถดูตัวอย่างได้ที่ thispersondoesnotexist.com หรือค้นหาภาพตัวอย่างได้ในบทความนี้
 
แล้วถ้าเป็นเช่นนั้น ผลงานดังกล่าวอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาพปลอมที่เหมือนจริงมากเกินกว่าที่เราจะเชื่อสายตาของเราได้อีกต่อไป ใช่หรือไม่? คำตอบก็คือ การสร้างภาพดังกล่าวไม่เพียงแต่จะต้องใช้ทักษะด้านโครงข่ายประสาทเทียม (Neural Network) เท่านั้น แต่ยังต้องใช้ Tesla GPU อีก 8 ชุด เพื่อสร้างชุดของใบหน้าดังกล่าว นอกจากนี้ก็ยังมีเวอร์ชั่นของการปลอมตัว (Spoof Versions) อย่างเช่น สัตว์แปลกๆ ที่ดูเหมือนแมวประหลาด ซึ่งสามารถเข้าไปดูตัวอย่างได้ที่ thiscatdoesnotexist.com และที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า มันยากแค่ไหนที่จะสร้างภาพถ่ายปลอมที่เหมือนจริงได้ขนาดนั้น
 

ประวัติส่วนตัว (Curriculum Vitae: CV) ที่ทำขึ้นโดย Neural Network

ทำไมจึงไม่ให้ใช้ Neural Network เขียนประวัติส่วนตัวของคุณ? คำตอบก็คือ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าตัวสร้างประวัติส่วนตัวที่ดำเนินการโดย Enhancv ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่สร้างประวัติย่อ (CV) นั้น จะไม่พูดถึงผลงานที่เกี่ยวกับความสำเร็จที่เป็นของคุณ แต่กลับเขียนรายงานการทำงานและทักษะที่คัดสรรมาจากอินเทอร์เน็ต แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? บริษัทกล่าวว่าจุดมุ่งหมายของพวกเขาก็คือ เพื่อเป็นการแสดงตัวอย่างที่หลากหลายของ CV ว่าสามารถออกแบบให้ออกมามีรูปแบบใดได้บ้าง ซึ่งภาพถ่ายจำนวนมากที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อให้ควบคู่ไปกับ CV นั้น มาจากโครงการของ Nvidia หากคุณสนใจลองเข้าไปสำรวจได้ที่ thisresumedoesnotexist.com
 

การแก้ไขภาพถ่ายด้วยวิธีง่ายๆ

รูปภาพที่ได้รับการปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขภาพดิจิตอล (Photoshopping) นั้น จำเป็นต้องใช้ทักษะ ซึ่งทีมนักวิจัยจากเกาหลีใต้ก็ได้ออกมาพูดถึงการสร้างอัลกอริทึมที่จะช่วยให้มนุษย์ส่งคำสั่งไปยัง Neural Network ว่าเราต้องการเปลี่ยนแปลงรูปถ่ายให้ออกมาในรูปแบบใด ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนทรงผม, เพิ่มรอยยิ้ม, เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างใบหน้าของพวกเขา หรือแม้กระทั่งสั่งให้ถอดแว่นกันแดดออก นอกจากนี้ Doodle บนรูปภาพและ Neural Network ก็เข้าใจดีว่าคุณต้องการให้ผมอ่อนนุ่มหรือถอดแว่นตาออก เพราะนั่นเป็นการฉกฉวยความคิดจากภาพอื่นๆ ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทดลองทำทรงผมใหม่ๆ แต่มันยังใช้ได้ดีสำหรับการสร้างภาพลวงที่แสดงให้เห็นว่าบุคคลสาธารณะยังยิ้มแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
 

รสชาติที่ได้มาจาก AI

AI นั้นไม่เพียงแต่จะสร้างภาพถ่ายและประวัติย่อเท่านั้น แต่มันยังช่วยในเรื่องของรสชาติได้อีกด้วย ซึ่ง IBM และผู้ผลิตเครื่องเทศ McCormick & Company ได้ร่วมมือกันใช้ AI เพื่อสร้างแนวคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับอาหาร โดยหวังว่ามันจะลดจำนวนการวนซ้ำของสูตรอาหารที่ต้องทำ เพื่อให้พร้อมสำหรับพ่อครัว-แม่ครัว จากการที่ AI สามารถดึงข้อมูลการวิจัยตลาดของสูตรอาหารที่มีอยู่มาหลายทศวรรษ รวมถึงรายการของส่วนผสมและข้อจำกัดที่สำคัญ เช่น มังสวิรัติ (Vegetarian) หรืออาหารโคเชอร์ (Kosher) จึงทำให้เกิดการคิดค้นสูตรสำหรับการปรุงแต่งอาหาร ทั้งในส่วนของซอสปรุงรสและส่วนผสมที่เป็นเครื่องเทศ ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดจากความพยายามดังกล่าวก็มีวางจำหน่ายแล้วในปี 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งก็รวมถึงการผสมผสานรสชาติของเครื่องเทศสำหรับเมนู Tuscan Chicken ด้วยเช่นกัน
 

GPT-2 โมเดลทางภาษาที่พัฒนาโดย OpenAI

หลังจากที่แจกพรอมต์ (Prompt) ให้กับระบบ มันก็สามารถที่จะแต่งเรื่องราวที่สอดคล้องกับข้อความนั้นๆ ในสาระสำคัญเดียวกันจนเป็นบทความที่สมบูรณ์ได้ จากการฝึกฝนผ่านชุดข้อมูลที่ได้มาจากหน้าเว็บต่างๆ ที่มีข้อมูลรวมทั้งสิ้นจำนวน 8 ล้านเว็บเพจ และการคัดลอกมาจากเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงกับจาก Reddit โดย GPT-2 จะทำนายคำถัดไปโดยอิงจากคำก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการแนะนำแบบอัตโนมัติ (Autosuggest) ในเวอร์ชั่น Advanced เช่นเดียวกับบนคีย์บอร์ดของโทรศัพท์ และดูเหมือนว่ามันจะสร้างข้อความที่ดูสมเหตุสมผล และมันก็ยังเขียนด้วยภาษาที่ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น เรื่องราวเกี่ยวกับดาราที่แบกรับกับพลังงานจากข่าวซิบซุบในวงการบันเทิง ในขณะที่พรอมต์ (Prompt) ดังกล่าวเป็นสไตล์ของครูที่ให้การบ้านแก่นักเรียน เพื่อเป็นการจุดประกายความคิดให้แก่นักเรียนในการเขียนเรียงความระดับโรงเรียน ที่กล่าวไปเช่นนั้นก็เพราะว่า มันต้องใช้ความพยายามสักสองสามครั้งเพื่อให้ได้ตัวอย่างที่ดี ด้วยรูปแบบการสร้างข้อความที่เป็นประโยชน์แค่บางช่วงเท่านั้น และประโยคเหล่านั้นก็ไม่จำเป็นต้องถูกต้องตามความเป็นจริง
 
แน่นอนว่าทาง OpenAI เองก็มีความกังวลเป็นอย่างมากว่าระบบดังกล่าวอาจจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งพวกเขาก็ได้ปฏิเสธที่จะปล่อยโมเดลและชุดข้อมูลทั้งหมด ในขณะที่ตัวสร้างข้อความ (Text Generator) ก็สามารถที่จะนำมาใช้เพื่อสร้างระบบแปลภาษาหรือการจดจำเสียงได้ดีขึ้น  และทาง OpenAI ก็ยังมีความกังวลว่ามันอาจจะถูกนำไปใช้เพื่อสร้างบทความที่เป็นข่าวปลอมและ  Automated Spam หรือแม้แต่ปรับปรุง Social Media Bot (ว่าแต่บทความนี้เขียนขึ้นโดยมนุษย์หรือ AI กันนะ?)


ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์