Edge Computing คือ อะไร
Please wait...
1726202978.png
1731393918.jpg
1732076627.jpg
1730459076.jpg
1730782055.jpg
1730966771.jpg
1731999875.jpg
SOLUTIONS CORNER
Edge Computing คือ อะไร

Edge Computing คือ อะไร?


Edge computing เป็นศูนย์กลางที่ทำให้IoT เร็วขึ้น, ปลอดภัยขึ้น,และ มีประโยชน์มากขึ้น


Edge Computing หมายถึง การประมวลผลข้อมูลให้แสดงผลเร็วใกล้เคียงกับความเร็วของเครือข่ายมากที่สุด

ในข้อมูลเครือข่ายจะถูกส่งจากอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน, หรือ หุ่นยนต์ในไลน์การผลิต (assembly line robots) กลับไปสู่ฐานข้อมูลกลางเพื่อประมวลผลและวิเคราะห์ ตัวอย่างเช่น ข้อมูลจากแขนกล (Robot arm)จะส่งรายงานว่ามีข้อต่อจำนวนกี่ข้อที่แขนกลได้ทำการเชื่อมในวันนั้น มีประเก็น(gaskets) จำนวนกี่แผ่นที่แขนกลได้หยิบและเคลื่อนย้ายไปบนสายพานลำเลียง ซึ่งหากจะยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวในชีวิตประจำวันนั้นต้องนึกถึงแอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนของคุณจะมีการถ่ายโอนข้อมูลการประมวลผลส่งกลับไปให้ผู้พัฒนาจากศูนย์ข้อมูลส่วนกลางเพื่อวิเคราะห์ร่วมกับผู้ใช้งานรายอื่นในผลิตภัณฑ์เดียวกัน
 
สำหรับปลายทางการส่งข้อมูลและศูนย์กลางแบบดั้งเดิมนั้นจะอยู่ในระยะทางการส่งข้อมูลค่อนข้างไกลบางทีอาจจะคนละทวีปเลยด้วย ในอดีตเรื่องความสำคัญของความเร็วไม่ถือว่าเป็นปัญหาทั้งในปัจจัยของข้อมูล Big Data กับ การหมุนเวียนของจำนวนข้อมูลมากมายไปสู่ศูนย์ข้อมูลสำคัญมากกว่าความเร็วสำหรับการวิเคราะห์และการประมวลผล อย่างไรก็ตามการเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน Internet of Things (IoT)จำเป็นจะต้องใช้การตอบสนองอย่างทันทีหรือเกือบจะทันที
 
ในสถานการณ์นี้การส่งข้อมูลสู่ศูนย์ข้อมูลคือสิ่งที่ดี ถึงแม้การวิเคราะห์และแสดงผลอาจต้องเกิดขึ้นในทันที และนี่คือตอนที่ edge computing เข้ามามีบทบาท
 
ดังนั้นการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลในedge computing สามารถประมวลผลได้จากศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก,ศูนย์ข้อมูลพิเศษแบบ on-site data centre (เช่น ศูนย์ข้อมูลแบบ micro)หรือแม้แต่การเชื่อมโยงผ่าน IoTเอง
 

ตัวอย่างในชีวิตจริงของ edge computing

หนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สามารถเห็นได้ในชีวิตจริงสามารถพบได้จากการทำงานของ แท่นขุดเจาะน้ำมัน เนื่องจากมีการบังคับด้วยรีโมทจากนอกชายฝั่ง จึงได้มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาจากศูนย์ข้อมูลที่มีระยะห่างกันค่อนข้างมากรวมถึงมีสัญญาณเครือข่ายที่ไม่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสิ้นเปลือง, และใช้เวลานานในการขุดเจาะแต่ละครั้ง ดังนั้นจึงมีการใช้รีโมทบังคับแบบเรียลไทม์ผ่านศูนย์กลางของระบบคราวด์ ดังนั้น edge computing จึงช่วยแก้ไขข้อจำกัดในขั้นตอนการทำงานเพื่อช่วยให้การขุดเจาะน้ำมันดำเนินการโดยไม่มีการล่าช้าหรือถูกรบกวน
 
อีกตัวอย่างที่คล้ายคลึงกัน ในพาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติซึ่งทำงานด้วยการเชื่อมต่อที่ความแรงสัญญาณต่ำ (low connectivity)และจำเป็นต้องใช้การวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ในการขับเคลื่อนบนท้องถนน โดยที่ host ของจุดเชื่อมของเครือข่าย (Gateway host)ภายในยานพาหนะสามารถรวบรวมข้อมูลจากพาหนะคันอื่นๆ, ข้อมูลสัญญาณไฟจราจร,อุปกรณ์ที่มีสัญญาณ GPS, เซ็นเซอร์ป้องกันการเฉี่ยวชน,ตัวควบคุมและแอพลิเคชั่นบนคราวด์, รวมถึงสามารถประมวลและวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่นๆด้วย
 

ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

จากรายงานขององค์กร IDC เรื่อง “Edge computing กำลังเปลี่ยนแปลงIoT: ถึงเวลาที่บริษัทในยุโรปจะต้องรับรู้”ให้ข้อมูลว่าความปลอดภัยของ edge computing นั้นเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของIoT.
จากการขยายตัวของศูนย์ข้อมูลทำให้โครงสร้างของedge computing นั้นขยายพื้นที่และกำลังเผชิญกับภัยคุกคาม โดยเฉพาะกับอุปกรณ์ที่มี edge computing ที่สร้างพร้อมกับระบบความปลอดภัยในโปรโตคอลแบบดั้งเดิม นั่นหมายถึงความไม่ปลอดภัยในจุดส่งข้อมูลที่อาจถูกดึงเข้าไปสู่“การโจมตีโดยปฏิเสธการให้บริการ” (denial of service (DDoS) attacks) และยิ่งมอบโอกาสให้เหล่าแฮ็คเกอร์เข้าถึงเครือข่ายที่กว้างขึ้นที่จะสามารถเชื่อมต่อได้

นอกจากนี้ จะต้องพิจารณาการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ (Physical security)เช่นกัน หากอุปกรณ์สามารถเข้าถึงได้โดยผู้ประสงค์ร้ายหรือบุคคลที่อาจมีแนวโน้มที่จะร่วมกันประสงค์ร้าย
อย่างไรก็ตาม หากมีการเฝ้าระวังอย่างเหมาะสม edge computing สามารถลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของ IoT โดยการจำกัดจำนวนข้อมูลหมุนเวียนระหว่างจุดเก็บข้อมูลและศูนย์กลางเก็บข้อมูลหลัก รายงานโดย IDC
 

ก้าวต่อไปของ Edge Computing คืออะไร

ตามที่ Gartner ได้รายงานผ่านบทความเรื่อง“โครงสร้างของธุรกิจดิจิทัลจะถูกผลักดันไปสู่ Edge Computing”ว่าข้อมูลที่เก็บและประมวลผลโดยธุรกิจที่อยู่นอกระบบการเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิมจะเพิ่มขึ้นจากจำนวนน้อยกว่า10 % ในปี 2018 เป็น 75%ภายในปี 2022
นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลยที่ความนิยมจากIoT ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากส่วนธุรกิจและผู้บริโภค และขณะนี้เราอยู่ในจุดที่ยังมีการพัฒนายานพาหนะเคลื่อนที่ได้โดยอัตโนมัติที่วิ่งบนท้องถนนเรียบร้อยแล้ว หรือในอีกไม่นาน แต่อย่างไรเราก็ยังต้องการเทคโนโลยีที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพภาพมากขึ้น

สุดท้ายนี้นักวิเคราะห์ยังได้คาดการณ์จากจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีในปี2019ว่าเทคโนโลยีจาก edge computing ที่อาจจะมีเพิ่มเติมโดยเฉพาะในปัญญาประดิษฐ์AI และ “กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่”(Analytics) จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในเทคโนโลยีนี้ที่จะมาถึงภายในอีก 5 ถึง10 ปี

ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์