คุณเคยสงสัยกันไหมว่าทำไม Facebook รู้ว่าในรูปนั้น ๆ มีใครอยู่บ้าง หน้าใครเป็นหน้าใคร หรือ YouTube รู้ได้อย่างไรว่าเราชอบดูอะไร ทำไมถึงสุ่มคลิปประเภทที่เราชอบมาให้เราเลือกชมได้ คำตอบสำหรับความอัจฉริยะเหล่านี้ก็มาจาก Machine Learning แล้ว Machine Learning คืออะไร แล้วเกี่ยวข้องกับการเพิ่มศักยภาพให้กับองค์กรธุรกิจอย่างไร มาหาคำตอบกัน
หลายปีที่ผ่านมานี้ เราคงได้ยินถึงเรื่อง AI (Artificial Intelligence) กันมาบ่อย ๆ และตอนนี้อุปกรณ์ไอทีและสมาร์ทโฟนต่าง ๆ ได้นำ AI เข้ามาใช้แล้วด้วย ซึ่งถ้าเราเจาะลงไปดูภายในตัวของ AI แล้ว ก็จะพบว่ากลไกหรือสิ่งที่ทำให้ AI มีความฉลาดอัจฉริยะอย่างที่เราเห็นนั้น เบื้องหลังก็มาจาก Machine Learning หากจะกล่าวง่าย ๆ ก็ต้องบอกว่า Machine Learning คือสมองของ AI นั่นเอง หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วสิ่งนี้มันแตกต่างอะไรกับการเขียนโปรแกรมป้อนเข้าไปในคอมพิวเตอร์แบบสมัยก่อน เพราะลักษณะกระบวนการหรือรูปแบบก็น่าจะคล้ายกัน ก็จริงอยู่ว่ามีความคล้ายกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นแตกต่างกันมาก การเขียนโปรแกรมของโปรแกรมเมอร์นั้นจะใช้พื้นฐานการเขียนโค้ด ที่เป็นหลักทางตรรกศาสตร์ขึ้นมาหนึ่งชุดแล้วก็ส่งเข้าไปในคอมพิวเตอร์ เครื่องก็จะประมวลผลลัพธ์ต่าง ๆ ตามชุดโค้ดที่โปรแกรมเมอร์ใส่เข้าไป และจะไม่ทำนอกเหนือจากนี้ เมื่อมนุษย์เราต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมต่าง ๆ ในหลายรูปแบบมากขึ้น โปรแกรมเมอร์ก็ต้องมีการสร้างโปรแกรมใหม่และใส่โค้ดเข้าไปเพิ่มเรื่อย ๆ จนทำให้โค้ดมีความซับซ้อนมากขึ้นและในที่สุดโปรแกรมหรือการทำงานก็จะไม่เสถียรเพราะมันซับซ้อนเกินไป
แต่ Machine Learning คือ วิธีการเอาชนะข้อจำกัดเหล่านั้น โดยจะมีผู้เขียนโปรแกรมหรือที่เรียกว่า Data Scientist ทำหน้าที่ออกแบบและป้อนข้อมูลให้กับคอมพิวเตอร์ AI จากนั้นให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้เอง เหมือนเป็นการใส่ข้อมูลเข้าไปในคอมพิวเตอร์ แล้วให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ข้อมูลนั้นและหาคำตอบจากข้อมูลที่ใส่ลงไปเอง โดยที่ Data Scientist ไม่ต้องไปใส่คำตอบหรือกฎอะไรเพิ่ม
หากจะสรุปง่าย ๆ Machine Learning คือ การทำให้คอมพิวเตอร์ สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองจากข้อมูลที่มนุษย์ใส่ลงไป และเมื่อคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน เครื่องจักรอุตสาหกรรมที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์มีความฉลาดมากพอที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเองแบบนี้ มันจะรู้ว่าสิ่งไหน กระบวนการไหนที่เกิดซ้ำ ๆ ทำบ่อย ๆ สภาพแวดล้อมแบบไหนที่จะต้องเจอบ่อย สภาพแวดล้อมไหนที่ไม่คุ้นเคย แล้วมันก็จะเกิดการแยกแยะ จากนั้นก็จะประมวลผลและทำงานผ่าน AI ออกมากลายเป็นความสะดวกสบายของมนุษย์เรานั่นเอง ซึ่งองค์กรธุรกิจไหนสามารถเข้าถึงเรื่องนี้และนำมาปรับใช้กับธุรกิจของตนเองได้ ก็จะทำให้ได้เปรียบในการแข่งขันมาก เพราะสามารถที่จะลดเวลาการทำงาน และลดต้นทุนแรงงานได้มากเลยทีเดียว จึงเรียกได้ว่าสิ่งนี้เป็นศักยภาพแห่งอนาคตที่เข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจอุตสาหกรรมได้ดีจริง ๆ
ทั้งหมดนี้คงเผยให้เห็นแล้วว่า Machine Learning คือ อนาคตแห่งโลกธุรกิจยุคใหม่จริง ๆ เราไม่ต้องคอยหนักใจกับกระบวนการทำงานซ้ำ ๆ ที่ใช้คนหรือการเขียนโค้ดแบบเก่ามาช่วยแก้ หากมี Machine Learning และ AI เข้ามาช่วย จะไม่เสียเวลาในเรื่องเหล่านี้นัก ธุรกิจจะคล่องตัวมากขึ้นและเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อย่างต้องการแน่นอน