1726202978.png
1731393918.jpg
1732076627.jpg
1730459076.jpg
1730782055.jpg
1730966771.jpg
1731999875.jpg
กรณีการแบน huawei ของสหรัฐส่งผลกระทบกับวงการธุรกิจอย่างไรบ้าง
กรณีการแบน huawei ของสหรัฐส่งผลกระทบกับวงการธุรกิจอย่างไรบ้าง
แม้ว่าในขณะนี้สหรัฐฯจะยกเลิกการแบน huaweiไปแล้วก็ตาม แต่ไม่มีใครบอกได้ว่ากรณีแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกได้หรือไม่ แล้วถ้าเกิดขึ้นอีกจะกระทบกับภาคธุรกิจอย่างไรบ้าง
ผลพวงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ต่อยอดผลกระทบเป็นวงกว้างออกมาถึงวงการเทคโนโลยีไอทีและเกิดข่าวที่สะเทือนวงการไปทั่ว อย่างกรณีสหรัฐฯประกาศการแบน Huaweiที่เป็นเรื่องตกอกตกใจและหวั่นใจกับผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Huaweiไปทั่วโลก แต่แล้วในเวลาถัดมาไม่นาน ในการประชุม G20ผู้นำทั้งสองประเทศยักษ์ใหญ่ก็ได้มีการเจรจาประนีประนอมผ่อนปรนในเรื่องนี้ และนำมาซึ่งการประกาศยกเลิกการแบน Huawei ของสหรัฐฯ แต่หลาย ๆ คนก็รู้ว่านี่เป็นเพียงการทิ้งระยะห่างเพียงชั่วคราวของ 2 ยักษ์ใหญ่นี้ และดูเหมือนว่าการเดินหน้าเกี่ยวกับกรณีของHuaweiจากฝั่งสหรัฐอาจจะมีอีกระลอกในเร็ววันนี้ ซึ่งถ้าเกิดมีการประกาศแบนขึ้นอีกครั้ง ภาคธุรกิจต่าง ๆ จะได้รับกระทบอะไรบ้าง
จะเกิดอะไรขึ้นหากมีการแบน Huaweiอีกครั้ง
ในตอนนี้ Huawei จัดว่าเป็นบริษัทอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้วก็ว่าได้ อีกทั้งยังเป็นองค์กรชั้นนำในเรื่องของอุปกรณ์ไอทีและโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี 5Gด้วย ซึ่งหากสงครามการค้าระลอกใหม่เกิดขึ้นอีกและแนวโน้มเป็นไปในทางลบ สถานการณ์ตึงเครียด เป็นไปได้ที่สหรัฐจะสั่งแบน Huaweiอีกครั้งเพราะด้วยความที่ Huaweiมีพลังอย่างมากในด้านตลาดสมาร์ทโฟน รวมไปถึงการเป็นผู้นำในเรื่องอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี 5Gทำให้ทางสหรัฐฯเองไม่อาจจะไว้วางใจหรือนิ่งนอนใจกับ Huaweiได้เลย ซึ่งหากเกิดการแบนขึ้นมาอีกครั้ง แน่นอนว่าจะส่งผลโดยตรงกับยอดขายสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ของ Huaweiดังที่เคยเป็นมาในการประกาศแบนครั้งแรก
จากจุดนั้นก็จะมากระทบกับเราที่เป็นผู้ใช้งานอีกทอดหนึ่งในเรื่องของอุปกรณ์ของHuaweiอาจจะไม่มีระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เพราะการแบน Huaweiไม่ได้แบนแค่เรื่องอุปกรณ์ แต่สหรัฐฯสั่งให้ Google หยุดสนับสนุนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ให้กับ Huaweiด้วยแบบนี้แล้วภาคธุรกิจไหนที่ทำแอปพลิเคชันรันบนแอนดรอยด์ก็จะกระทบชัดเจน นอกจากนั้นธุรกิจไหนที่เน้นการทำคอนเทนต์ VDOลงYouTube เช่นธุรกิจสื่อทีวีก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อสมาร์ทโฟนของผู้ใช้งานหรือลูกค้าเป็นแบรนด์ Huaweiแล้วไม่มีแอนดรอยด์ ก็จะรับชมYouTubeไม่ได้ หากได้ก็ไม่สะดวกดังเช่นที่เป็นมา นั่นทำให้ยอดผู้ชมจะหายไป แต่ที่น่าหวั่นใจไปกว่านั้นก็คือ อาจมีผลกระทบต่อการลงทุนด้านโครงสร้างเทคโนโลยี 5Gในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย
แบน Huaweiเสมือนการทำให้ 5Gหยุดชะงัก
ตอนนี้ในภาคธุรกิจของหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกกำลังรอการเข้ามาของเทคโนโลยี 5Gอย่างเต็มตัว รวมไปถึงประเทศไทยเราด้วย ซึ่งอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานหรืออุปกรณ์รับส่งสัญญาณบนเสาสัญญาณขนาดใหญ่ที่จะใช้สำหรับ 5Gนั้นผู้ผลิตก็คือ Huaweiหากมีการแบน Huaweiอีกครั้งอาจทำให้แผนการลงทุนในด้านโครงสร้าง 5Gในประเทศต่าง ๆ ต้องหยุดไปด้วย เพราะหลาย ๆ ประเทศก็อาจเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลหากฟังจากเสียงฝั่งสหรัฐฯอเมริกาที่คอยย้ำเตือนว่า Huaweiคือความไม่ปลอดภัยทางข้อมูล ส่วนประเทศไหนที่ไม่ได้เชียร์สหรัฐฯ แม้จะเดินหน้าเจรจากับ Huaweiต่อไป ก็ใช่ว่าจะทำให้งานดำเนินต่อไปได้ เพราะเชื่อว่าทาง Huaweiเองก็จะต้องมีการเปลี่ยนระบบภายในของตนเองหลายอย่าง เทคโนโลยีที่ใช้ อุปกรณ์บางชิ้นที่เคยใช้ก็ต้องเปลี่ยนเจ้า ซึ่งนั่นอาจจะทำให้การลงทุนด้านเทคโนโลยี 5Gแบบเต็มรูปแบบในหลาย ๆ ประเทศต้องชะลอไป และแน่นอนว่าเมื่อเป็นเช่นนั้น ภาคธุรกิจที่จำเป็นจะต้องใช้ 5Gเข้ามาช่วยสร้าง IoT ช่วยให้เรื่องของการขยายความสามารถของเทคโนโลยีเป็นจริงได้นั้นก็ต้องชะลอออกไปเช่นกัน
ฉะนั้น องค์กรธุรกิจไหนที่กำลังคิดจะลงทุนกับเรื่องระบบโครงสร้างไอทีเพื่อรองรับเทคโนโลยี 5Gก็ให้พิจารณาและติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องการแบน Huaweiไว้อย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะได้วางแผนการลงทุนได้อย่างรัดกุม และสามารถที่จะลงทุนกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างคุ้มค่านั่นเอง