การทำงานแบบยืดหยุ่น VS การทำงานแบบ Agile
Please wait...
1726202978.png
1731393918.jpg
1732076627.jpg
1730459076.jpg
1730782055.jpg
1730966771.jpg
1731999875.jpg
SOLUTIONS CORNER
การทำงานแบบยืดหยุ่น VS การทำงานแบบ Agile

การทำงานแบบยืดหยุ่น VS การทำงานแบบ Agile


@RLTheis via Twenty20


ถึงสองคำนี้จะมีความหมายใกล้เคียงกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างระหว่างที่ทำงานแบบยืดหยุ่นกับที่ทำงานแบบ ‘Agile’ อยู่

หลังจากไม่ได้เข้าออฟฟิศกันมาเกินหนึ่งปี พวกเราก็คงค่อย ๆ ลืมไปแล้วว่าชีวิตก่อนเกิดโรคระบาดนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ว่าการทำงานแบบยืดหยุ่นและ Agile นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แค่ในยุคนี้มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วต่างหาก

ก่อนหน้านี้ การทำงานที่บ้านถูกสงวนไว้สำหรับพนักงานบางคนเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเพราะลักษณะของงานหรือเพราะความจำเป็นก็ตาม จากผลสำรวจแรงงานที่ทำโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) บอกว่ามีเพียงหนึ่งในสิบ (9.5%) ของแรงงานในสหราชอาณาจักรที่ทำงานที่บ้านในปี 1998 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึง 54% ในปี 2020 อิงจากรายงานดัชนีคุณภาพงาน (Job Quality Index) ของ CIPD

สหราชอาณาจักรผ่านการล็อกดาวน์มาสามครั้งในปีที่แล้ว การทำงานทางไกลกลายเป็นทางเลือกเดียวสำหรับหลาย ๆ คน ในทางตรงกันข้าม การทำงานแบบยืดหยุ่นถูกพูดถึงอย่างเปิดเผยในการสัมภาษณ์งาน และถูกการระบุว่าเป็น 'ข้อดี' ในการสมัครงานบางประเภท และแม้ว่าเงินเดือนจะยังคงเป็นตัวตัดสินหลักในการรับงานใหม่ กลุ่มประชากรต่าง ๆ ก็ต้องการความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานมากขึ้น และชีวิตที่ดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งกลุ่มคนในหมู่นี้รวมถึงคุณแม่มือใหม่ นักเรียน คนที่เปลี่ยนอาชีพ และแม้แต่คนที่ต้องการมีตัวเลือกเพิ่มเติมในบริเวณที่พวกเขาอาศัยอยู่

บางคนอาจบอกว่าวัฒนธรรมที่ทำงานในออฟฟิศตกอยู่ภายใต้ความเสี่ยงเพราะการทำงานแบบยืดหยุ่นทางไกล แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่มองว่าการทำงานในรูปแบบนี้ช่วยกระตุ้นให้ได้งานมากกว่าเดิมและมีความครอบคลุุมมากกว่าที่เคยเป็นมา


การทำงานแบบยืดหยุ่นคืออะไร?

ในปี 2021 คำว่า ‘ยืดหยุ่น’ และ ‘Agile’ เป็นคำที่มักถูกพูดถึงอยู่เรื่อย ๆ แต่แม้ทั้งสองคำนี้จะมีความหมายคล้ายกัน ต่างก็เป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันอยู่ดีเมื่อเป็นเรื่องของการทำงาน พูดง่าย ๆ ก็คือ อย่างหนึ่งคือเพื่อให้คุณมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในแง่ของความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต ส่วนอีกอย่างหนึ่งคือการที่คุณทำงานให้กับองค์กรในลักษณะที่ ‘Agile’ หรือคล่องตัวมากขึ้น

สิทธิในการขอทำงานแบบยืดหยุ่นถูกนำมาใช้ในปี 2014 ภายใต้ข้อบังคับการทำงานแบบยืดหยุ่น (Flexible Working Regulations) ซึ่งช่วยให้ผู้คนสามารถควบคุมการงานและชีวิตของตนได้ดียิ่งขึ้น โดยข้อบังคับนี้ได้กำหนดตัวเลือกการทำงานแบบยืดหยุ่นประเภทต่างๆ ที่พนักงานสามารถขอได้ - ถ้าหากพวกเขาทำงานที่บริษัทมาอย่างน้อย 26 สัปดาห์ โดยรวมชั่วโมงการทำงาน การทำงานที่บ้าน และส่วนแบ่งของงาน เป็นต้น

Kelly Tolhurst รัฐมนตรีพาณิชย์กล่าวว่า "การทำงานแบบยืดหยุ่นช่วยให้ผู้คนสามารถสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตที่บ้าน และเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างระบบเศรษฐกิจที่มีความครอบคลุมและแรงงานที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังช่วยให้นายจ้างสามารถเข้าถึงแหล่งรวมฝีมือที่กว้างขวางมากขึ้น และช่วยให้สามารถจับคู่ผู้สมัครที่เหมาะสมกับงานได้ดียิ่งขึ้น" 

“รัฐบาลมีความตั้งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพของการทำงาน เมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้กำหนดให้มีการปฏิรูปสถานที่ทำงานครั้งใหญ่ เพื่อให้แรงงานหลายล้านคนรวมถึงแรงงานที่ทำงานแบบยืดหยุ่นได้รับสิทธิและความคุ้มครองรูปแบบใหม่ นี่ถือเป็นการยกระดับสิทธิแรงงานครั้งใหญ่ที่สุดในรุ่นของเรา โดยที่ในการยกระดับนี้ เรายังจะพิจารณาว่าเป็นหน้าที่ของนายจ้างในการพิจารณาว่างานสามารถทำได้อย่างยืดหยุ่นหรือไม่ และลงประกาศโฆษณาตำแหน่งงานว่างโดยระบุในส่วนนี้ให้ชัดเจน"


การทำงานแบบ Agile คืออะไร?

ในอีกแง่หนึ่ง การทำงานแบบ Agile นั้นเกี่ยวกับธุรกิจล้วน ๆ โปรเจกต์แบบ Agile คือจุดที่ขั้นการวิจัย วางแผน ออกแบบ และพัฒนารวมไปถึงการทดลองเกิดขึ้นควบคู่ไปด้วยกัน การทำงานในรูปแบบนี้จะช่วยให้เกิดการปรับปรุงยกระดับอย่างต่อเนื่องตลอดกระบวนการทำงาน โดยระบบใหม่จะทำหน้าที่เพียงงานบริการและทำตามความต้องการของผู้ใช้เท่านั้น

การทำงานแบบ Agile ใช้เทคโนโลยีช่วยในการสร้างรูปแบบการทำงานแบบ new normal โดยที่พนักงานทุกคนสามารถทำงานได้ในเวลาที่ต่างกันจากสถานที่ต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ ผลพวงก็คือก่อให้เกิดประโยชน์ในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานที่มากขึ้น ต้นทุนออฟฟิศที่ลดลง และพนักงานมีแรงจูงใจมากขึ้น

พนักงานที่ทำงานแบบ Agile สามารถทำงานจากที่บ้าน ทำงานที่ร้านกาแฟ หรือแม้แต่ทำงานในสวนสาธารณะเพื่อทำงานของตนให้เสร็จตอนไหนก็ได้ อาจจะทำงานอยู่ที่ออฟฟิศกับทีม ทำงานในโซนพักเบรก ในสวนสาธารณะ ร้านกาแฟ หรือทำงานที่บ้าน แนวคิดนี้เกิดจากการมีแนวทางปฏิบัติและกระบวนการที่ถูกต้องเพื่อเอื้อให้พนักงานสามารถทำงานได้จากทุกที่

ในการทำงานแบบ Agile ส่วนบริหารจัดการต้องเปลี่ยนแนวคิดจากการมุ่งเน้น input (การมาเข้างานในพื้นที่ออฟฟิศอย่างเฉพาะเจาะจงในเวลาที่กำหนด) มาเป็นสนใจแนวทางที่อิงกับผลลัพธ์ (outcome) มากขึ้น (สนใจการทำงานและโปรเจกต์ให้เสร็จ)


ความแตกต่างหลักระหว่างการทำงานแบบยืดหยุ่น vs. การทำงานแบบ Agile

ข้อแตกต่างสำคัญระหว่างการทำงานแบบ Agile และการทำงานแบบยืดหยุ่นในรูปแบบอื่น ๆ ก็คือความมุ่งมั่นทุ่มเท เพราะการทำงานแบบยืดหยุ่นนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ขอแค่มีเทคโนโลยีในปัจจุบัน แต่ความมุ่งมั่นทุ่มเทในแบบที่การทำงานแบบ Agile ต้องใช้นั้นต้องมาจากทั้งฝั่งบริหารจัดการและตัวพนักงานเอง 

การทำงานแบบยืดหยุ่นมักเน้นพนักงานเป็นศูนย์กลาง และเชื่อกันว่าการทำงานรูปแบบนี้จะช่วยยกระดับสมดุลในการทำงานและการใช้ชีวิต ช่วยเพิ่มความสุขให้กับพนักงาน และยังมีประโยชน์ในด้านประสิทธิภาพการทำงาน ลดการขาดงานลง และการรักษาพนักงานไว้

อย่างไรก็ตาม การทำงานแบบ Agile ถูกออกแบบมาให้เอื้อประโยชน์ทั้งต่อพนักงานและต่อบริษัท กล่าวคือพนักงานมีอิสระมากขึ้นในการทำงานทุกที่ทุกเวลาที่ตนต้องการ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นผลการปฏิบัติงาน มีการตอบสนองที่ว่องไว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยพนักงานมีแรงจูงใจในการส่งมอบงานที่มีคุณภาพและมีการบริการลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น


เครื่องมือสำหรับการทำงานแบบยืดหยุ่นและ Agile

ในแง่ของเทคโนโลยี การทำงานแบบยืดหยุ่นและแบบ Agile ก็ใช้เครื่องมือเดียวกันหลายอย่าง เช่น ระบบหมุนเวียนโต๊ะทำงานแบบ Hot Desk ใช้แล็ปท็อป หรือแล็ปท็อปแบบแปลงสภาพ (Convertible) สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์มือถือ ซึ่งอุปกรณ์พวกนี้มีการใช้ในทั้งสองรูปแบบการทำงาน และ Wi-Fi ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย 

อย่างไรก็ตาม การทำงานแบบ Agile นั้นต้องเปลี่ยนแปลงด้านการวางกลยุทธ์ไอทีเป็นวงกว้างกว่า โดยต้องนำบริการต่าง ๆ เข้ามาใช้ร่วมด้วย เช่น การสื่อสารแบบรวมศูนย์ แพลตฟอร์มทำงานร่วมกันสำหรับทีม บริการข้อมูลบนคลาวด์ และบริการ Business intelligence (BI) และเทคโนโลยี VPN เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานทุกคนมีพร้อมทุกสิ่งที่ต้องใช้ในการทำงานทุกที่ทุกเวลา แม้ออฟฟิศแบบยืดหยุ่นจะสามารถรองรับการทำงานแบบ Agile ได้ก็จริง แต่การทำงานแบบ  Agile ก็ทำให้สิ่งต่าง ๆ ก้าวหน้ายิ่งขึ้น สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือการจัดหาพื้นที่ทำงานที่หลากหลาย เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน และการทำให้พนักงานมีพื้นที่ที่จำเป็นสำหรับการทำงานในรูปแบบต่าง ๆ สำหรับทีมที่ต่างกัน

ที่มา: 
https://bit.ly/3r0incm

ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์