ระบบสแกนใบหน้า ประโยชน์อีกขั้นสำหรับองค์กรในยุคดิจิตอล

ระบบสแกนใบหน้า เป็นหนึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่นำมาช่วยให้ระบบการทำงานในภาคส่วนต่าง ๆ ขององค์กรทำงานได้ง่ายขึ้น อันช่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร

ในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมและโรงงานต่าง ๆ เชื่อว่าต้องเคยประสบปัญหาการดำเนินงานที่ล่าช้าของพนักงาน เพราะต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนในการตอกบัตรเข้างาน หรือแม้กระทั่งองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง อาจจะต้องเคยมีพนักงานลืมคีย์การ์ดที่จะใช้เข้าออฟฟิศอย่างแน่นอน ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อธุรกิจยุคใหม่หันมาเลือกใช้เทคโนโลยีแบบ Face Scan System หรือเทคโนโลยีระบบสแกนใบหน้าซึ่งจะช่วยให้กระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ ง่ายมากยิ่งขึ้น ช่วยให้องค์กรได้รับความสะดวกสบายไปในอีกหลายส่วน

ระบบสแกนใบหน้าจำเป็นต่อองค์กรธุรกิจอุตสาหกรรมวันนี้อย่างไรบ้าง

เชื่อว่าหลาย ๆ องค์กรภาคอุตสาหกรรมและโรงงานยังคงมีปัญหาเรื่องการเข้าออกของพนักงาน และยังมีการใช้การตอกบัตรแบบเดิม ๆ อยู่ สมมุติว่าคุณมีพนักงาน 500 คน ลองคิดดูว่าคุณจะต้องใช้เวลาให้พนักงานไปตอกบัตรกันนานขนาดไหน กว่าพนักงานจะเข้ามาเริ่มงานกันได้ และจะต้องเสียงบประมาณค่าใช้จ่ายในการเตรียมบัตรสำหรับบันทึกการเข้าออกของพนักงานถึง 500 ใบ ซึ่งหากคิดเป็นค่าใช้จ่ายในหนึ่งปีก็ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่เรื่องของเวลาเท่านั้น อาจจะยังมีปัญหาในเรื่องของความไม่ซื่อสัตย์ของพนักงาน มีการนำบัตรมาตอกแทนกันบ้าง และเรื่องอื่น ๆ อีก ที่อาจจะต้องกวนใจเหล่า HRทั้งหลาย แต่จะดีกว่าหรือไม่ถ้าบริษัทคุณมีเทคโนโลยีระบบสแกนใบหน้าเข้ามาช่วย ซึ่งแค่คุณให้พนักงานทั้งหมดมาทำการลงทะเบียนเข้าระบบเครื่องสแกน ซึ่งเฉลี่ยเวลาที่ใช้ต่อคนเพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้น ในคราวต่อไปก็จะใช้เวลาในการสแกนการเข้าออกงานน้อยลงมาก แถมระบบสแกนใบหน้าในปัจจุบันนั้นไม่ได้สแกนได้แค่ใบหน้าอย่างเดียวยังสามารถสแกนนิ้วก็ได้ และสามารถเพิ่มข้อมูลพนักงานได้ถึงหลักพันคนเลยทีเดียว คุณลองคิดดูว่าจะดีแค่ไหนที่คุณสามารถเก็บข้อมูลประวัติการเข้าทำงาน การขาดลามาสายของพนักงานทุกคนได้อย่างเป็นระบบได้ในแค่ระบบเดียว ไม่ต้องสิ้นเปลืองเอกสาร อุปกรณ์อื่น ๆ และพนักงานในการตรวจสอบด้วย จึงต้องกล่าวว่าเทคโนโลยีนี้มีความจำเป็นกับองค์กรธุรกิจอุตสาหกรรมในวันนี้จริง ๆ

เทคโนโลยีระบบสแกนใบหน้าทำงานอย่างไร

เราได้รู้ถึงความจำเป็นไปแล้ว ทีนี้หลายคนคงอยากรู้ว่าเทคโนโลยีระบบสแกนใบหน้ามีเบื้องหลังการทำงานอย่างไรบ้างและเก็บข้อมูลอะไรได้บ้าง ปัจจุบันเทคโนโลยีการสแกนหน้าไม่ได้เป็นการสแกนแบบ 2 มิติเหมือนในสมัยก่อนแล้ว แต่เป็นการจดจำใบหน้ากันแบบ 3 มิติเลยทีเดียว ระบบจะทำการสแกนและจดจำตั้งแต่ในส่วนของขนาดและตำแหน่งของศีรษะ การวางท่าทางของสรีระส่วนบน คุณลักษณะเด่นของโครงหน้า อย่างเบ้าตา จมูกและคาง เพื่อแยกความแตกต่างของคนแต่ละคนออกจากกัน นอกจากนั้นยังสามารถสแกนแยกความแตกต่างของรูม่านตา ลักษณะใบหูของคนแต่ละคนได้ด้วย นั่นเท่ากับว่าเทคโนโลยีนี้สามารถเก็บและแยกแยะโครงสร้างสรีระใบหน้าของคนแต่ละคนได้ชัดเจน ไม่มีการสับเปลี่ยนหรือหลอกลวงกันได้ จึงทำให้ระบบนี้มีความปลอดภัยสูง สามารถนำไปใช้งานกับองค์กรได้ทุกขนาด อย่างกรณีองค์กรใหญ่ที่มีห้องแลปต้องมีการคัดกรองคนเข้าใช้งาน หรือ มีการสร้าง Data Centerของตนเองแล้วต้องการกำหนดสิทธิ์ผู้ที่จะเข้าใช้งาน การมีเทคโนโลยีนี้เข้ามาช่วยก็จะทำให้เกิดความปลอดภัยต่อทุกระบบมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

จึงต้องกล่าวว่าเทคโนโลยีระบบสแกนใบหน้ามีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านในการใช้งานสำหรับองค์กรยุคใหม่ และเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยทำให้องค์กรธุรกิจมีศักยภาพมากขึ้นในการดำเนินกิจการและพร้อมโตอย่างก้าวกระโดด