วิธีใช้ Chromecast โดยไม่ต้องใช้ WiFi
Please wait...
SOLUTIONS CORNER
วิธีใช้ Chromecast โดยไม่ต้องใช้ WiFi

วิธีใช้ Chromecast โดยไม่ต้องใช้ Wi-Fi



สตรีมมิ่งของ Google เป็นเพื่อนเดินทางที่ยอดเยี่ยมของคุณ แต่คุณจะใช้ Chromecast โดยไม่ต้องใช้ Wi-Fi ได้อย่างไร?
 
หลังจากที่ Google Chromecast เปิดตัวครั้งแรกเมื่อหกปีที่แล้ว มันได้เสนอทางเลือกในการเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์บนโทรทัศน์
 
การอนุญาตให้มีเนื้อหาจำนวนมากรวมไปถึงโทรทัศน์ ภาพยนตร์ เกมส์ แกลเลอรี่รูปภาพหรืองานนำเสนอต่างๆที่จะถูกฉายบนทีวีของคุณในช่วงเวลาที่สมาร์ททีวีเป็นเพียงการแสดงพลังของพวกมันเท่านั้น และความคิดในการใช้อุปกรณ์ต่อพ่วง USB ขนาดเล็กเพื่อที่จะเปลี่ยนทีวีปกติของคุณให้เป็นอุปกรณ์อัจฉริยะเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การใส่ใจ
 
เกือบครึ่งทศวรรษหลังจากมีการเปิดตัว ตอนนี้เรามี Chromecast รุ่นที่สาม ซึ่งมีการสตรีมที่รวดเร็วขึ้นและมีคุณภาพสูงขึ้นที่สามารถรองรับความละเอียดได้ถึงระดับ 4K และในขณะนี้อุปกรณ์ดังกล่าวยังสามารถสตรีมเนื้อหาจากอุปกรณ์ได้เกือบทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น PC หรือ Mac, Android หรือ iPhone โดยทั้งหมดนี้เป็นเทคโนโลยีเครือข่ายที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายเพียงแค่มี Wi-Fi
 
แต่จะเกิดอะไรขึ้นหาก Wi-Fi ของคุณไม่ทำงานหรือในบางทีคุณอาจจะไม่สามารถเข้าถึงเครือข่าย Wi-Fi ได้เนื่องที่จากที่ที่คุณอยู่? เพราะบางครั้งคุณอาจจะต้องการแบ่งปันเนื้อหาของคุณไปยังทีวีในที่สาธารณะหรือที่อื่นที่ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสาธารณะ เช่นโรงแรมหรือในสถานที่ห่างไกล
สิ่งที่คุณอาจจะไม่ทราบก็คือ Amazon Fire Stick ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของ Chromecast ในตลาดอุปกรณ์ Google สามารถส่งสัญญาณเนื้อหาไปยังทีวีได้โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกต่อไป
 

การใช้ Chromecast โดยไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi 

สิ่งแรกที่คุณต้องทำก็คือคุณต้องแน่ใจว่า Chromecast ของคุณใช้เฟิร์มแวร์ที่ทันสมัยที่สุด เพราะอย่างที่ได้กล่าวไว้ว่าการใช้ Chromecast โดยไม่ใช้ Wi-Fi สามารถใช้งานได้กับซอฟต์แวร์ล่าสุดเท่านั้น
เนื่องจากการปรับปรุงมีการเพิ่มฟังก์ชันการทำงานใหม่ในรูปแบบของ 'guest mode' การตั้งค่าใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ Chromecast สามารถเปิดอุปกรณ์ให้กับผู้เยี่ยมชมได้โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้เยี่ยมชมเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi
เมื่อแอปที่สามารถสตรีมไปยัง Chromecast เปิดใช้งานบนอุปกรณ์มือถือของผู้เยี่ยมชมได้อุปกรณ์จะสามารถตรวจจับสถานะของสัญญาณ Wi-Fi บน Chromecast ซึ่งการทำเช่นนี้จะเป็นการสร้างลิงค์เดียวกันที่คุณจะได้รับจากเครือข่าย เพียงให้ผู้เยี่ยมชมกดไอคอน 'Cast to Chromecast' บนวิดีโอของพวกเขา
 
เพื่อให้การจับคู่เกิดขึ้น Chromecast จะสร้างรหัสสี่หลักแบบสุ่มก่อน และเมื่อใดก็ตามที่อุปกรณ์ใกล้เคียงพยายามจะเชื่อมต่อกับ Chromecast อุปกรณ์จะปล่อยรหัสนี้เป็นสัญญาณเสียง ถึงแม้ว่าสัญญานนี้หูของมนุษย์จะไม่ได้ยินก็ตาม
 
การจับคู่โดยใช้สัญญาณเสียงนั้นค่อนข้างดี หากแต่มันก็ยังมีความไม่เสถียร โชคดีที่ผู้เยี่ยมชมยังคงสามารถเชื่อมต่อได้โดยใช้รหัส4หลักที่แสดงบนทีวีหรือจอมอนิเตอร์
 

การจำลอง

นอกจากนี้คุณยังสามารถจำลองการแสดงผลของอุปกรณ์ Android ไปยังอุปกรณ์สตรีมมิ่ง Chromecast โดยไม่ต้องใช้ Wi-Fi แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีตัวเลือกที่คล้ายกันสำหรับอุปกรณ์ iOS ในปัจจุบัน
การจำลองบนอุปกรณ์ Android ทำได้โดยการเปิดแอป Chromecast (แอป Chromecastรู้จักกันในชื่อ Google Home) จากนั้นแตะที่เมนู burger ที่มุมบนซ้าย (ลักษณะคล้ายๆบรรทัดสามเส้นอยู่ด้วยกัน) แล้วแตะที่ Cast Screen / Audio จากนั้นเลือกอุปกรณ์ Chromecast ของคุณ
 
Screen mirroring ทำงานแตกต่างจากจอแสดงผลแบบไร้สาย (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Android ตั้งแต่ Jelly Bean 4.2 เนื่องจากผลลัพธ์ที่ออกมามีความล่าช้าและขาดหายไปน้อยกว่าจอแสดงผลแบบไร้สาย) Screen mirroring ด้วย Chromecast จำเป็นต้องใช้ Android KitKat 4.4.2

 

การใช้ Chromecast โดยไม่พึ่ง Wi-Fi (ใช้การเชื่อมต่อแบบสายแทน)

หาก Chromecast ของคุณเชื่อมต่อกับทีวีด้วยเหตุผลบางอย่างที่อยู่ใน Wi-Fi blackspot คุณจะสามารถ (หากคุณมีสายเคเบิล Ethernet หรือสายไฟที่ยาวพอ) เชื่อมต่อ Chromecast กับพอร์ต Ethernet ของ router ของคุณผ่าน Ethernet adaptor ได้โดยตรง 
การเชื่อมต่อแบบใช้สายนี้จะทำให้การเชื่อมต่อมีความรวดเร็วและน่าเชื่อถือสำหรับอุปกรณ์Chromecast สิ่งที่ผู้ใช้ต้องทำคือเชื่อมต่อสาย USB ที่ให้มาจาก Ethernet adapter เข้ากับ Chromecast จากนั้นใช้สาย Ethernet ต่อจาก router ไปยัง Ethernet adapter โดย adapter นั้นจะต้องเสียบเข้ากับเต้ารับไฟฟ้าด้วยเช่นกัน เมื่อดำเนินการนี้เสร็จสิ้นอุปกรณ์ Chromecast จะถูกตั้งค่าโดยอัตโนมัติให้ใช้การเชื่อมต่อ Ethernet แทนเครือข่าย Wi-Fi
 
 
 

ควิกเซิร์ฟ
สินค้า
งานระบบ
บริการ
กิจกรรม
ออนไลน์