1726202978.png
1731393918.jpg
1732076627.jpg
1730459076.jpg
1730782055.jpg
1730966771.jpg
1731999875.jpg
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลมือสองเต็มไปด้วยข้อมูลส่วนตัวและทางธุรกิจ
90% ของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลมือสองเต็มไปด้วยข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางธุรกิจ
งานวิจัยจาก Kaspersky เผยว่าอุปกรณ์มากถึงหนึ่งในห้า มีข้อมูลที่สามารถเปิดเผยและดึงข้อมูลออกมาใช้ได้ทันที
ผลการศึกษาใหม่ของ Kaspersky พบว่า 90 % ของอุปกรณ์บันทึกข้อมูลอย่าง USB และฮาร์ดไดรฟ์ที่เคยมีเจ้าของมาก่อน มีข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางธุรกิจบางส่วนจากเจ้าของเดิมหลงเหลืออยู่
องค์กรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์เผยว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นได้ตั้งแต่ข้อมูลเอกสารทางธุรกรรม อีเมลบริษัท ไปจนถึงข้อความส่วนตัวและเนื้อหาลามก
ทีมวิเคราะห์และวิจัยทั่วโลก (GReAT) ของ Kaspersky ค้นพบเรื่องดังกล่าวขณะวิเคราะห์เนื้อหาของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลมือสองกว่า 185 อุปกรณ์ มีเพียง 11% เท่านั้นที่ล้างข้อมูลสะอาดไม่มีอะไรเลย ทีมยังพบว่ามากถึงหนึ่งในห้าของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลมีข้อมูลที่หาเจอได้ง่ายและดึงออกมาได้ทันทีอยู่ ในขณะที่เกือบสามส่วน (74%) มีข้อมูลที่ยังกู้คืนกลับได้ด้วยวิธี File Carving
มาร์โค พรอยส์ หัวหน้า GReAT สาขายุโรป กล่าวว่า “อาจมีความเสียหายเกิดขึ้น ถ้าข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญๆ นั้นตกไปอยู่ในมือที่ผิด”
“อาจมีการขโมยตัวตน ลอบเข้าถึงบัญชีผู้อื่น การแบล็กเมล์ หรือแม้แต่การจงใจบ่อนทำลายชื่อเสียงทางสังคมของเจ้าของเดิม นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังสามารถใช้ในการโจมตีเจ้าของเดิมรวมไปถึงทครอบครัว เพื่อนหรือคนรอบข้างของบุคคลนั้นได้” เขากล่าว
ความนิยมการเป็นเจ้าของอุปกรณ์มือสองกำลังเพิ่มมากขึ้นในสหราชอาณาจักรอันเนื่องมาจากความพยายามจะพอเพียง Kaspersky พบว่าในหมู่ผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักรทั้ง 2,000 คน มี 649 คนที่ซื้อคอมพิวเตอร์มือสองมาใช้ มี 802 คนที่ใช้โทรศัพท์มือสอง และ 321 คนใช้พื้นที่มือสองใช้แล้ว
อย่างไรก็ตาม วิถีปฏิบัติที่ดูจะมีเจตนาดีดังกล่าวกลับมีแนวโน้มที่จะแปรเปลี่ยนเป็นฝันร้ายด้านความปลอดภัย ในบรรดาคอมพิวเตอร์มือสอง 649 เครื่อง มี 13% ที่มีข้อมูลติดต่อของเจ้าของเดิม หนึ่งในสิบมีข้อมูลทางธุรกิจ และอีก 10% ที่เหลือเป็นเอกสารราชการอย่างพาสปอร์ตและใบขับขี่ โทรศัพท์มือถือ USB และฮาร์ดไดรฟ์เองก็มีสถิติประมาณเดียวกันนี้
นักวิจัยยังพบว่ามีเอกสารที่มีรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบของเจ้าของคนเดิมอยู่ ซึ่งสามารถถูกนำไปใช้เพื่อเจาะระบบเข้าสู่องค์กรได้ง่าย ๆ
คริสเตียน ฟังค์ หัวหน้า GReAT DACH (เยอรมนี, ออสเตรีย, สวิตเซอร์แลนด์) เตือนว่า “ความสำคัญของข้อมูลส่วนตัวที่เป็นข้อมูลอ่อนไหวนั้นแทบไม่มีทางลดน้อยลงเลย แม้เวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ก็ตามที”
“มีเพียงการเขียนทับข้อมูลทั้งหมดลงบนสื่อข้อมูลนี้เท่านั้นที่จะแก้ไขปัญหาได้” เขากล่าวเสริม
ที่มา: https://bit.ly/32GYWYG