เทคโนโลยีที่สำคัญและน่าสนใจในปี 2023

เราได้ดูการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์แล้ว และนี่คือเทคโนโลยีและประเด็นสำคัญสำหรับคุณในปี 2566

เมื่อใกล้ถึงช่วงผลัดเปลี่ยนปี การระบุแนวโน้มเทคโนโลยีและการคาดการณ์ในปีถัดไปจะเริ่มขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่าสนใจเสมอแต่ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน อย่างเช่นเวลาที่เราเพิ่งเจอมาและเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตต่อไป

ตัวอย่างเช่น ในช่วงสิ้นปี 2562 มีเพียงไม่กี่คนที่คาดการณ์ว่าโลกของการทำงานจะกลับตาลปัตรในปีต่อไปเนื่องจากการเกิดโรคระบาดทั่วโลก ส่งผลให้นำไปสู่การมุ่งเน้นไปที่อุปกรณ์และบริการที่อำนวยความสะดวกในการทำงานจากระยะไกลอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนและรูปแบบการทำงานก็ได้เปลี่ยนเเป็นไฮบริด

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังปรับตัวและฟื้นตัวจากโรคระบาด การรุกรานยูเครนของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ทำให้ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และความหวาดกลัวต่อภาวะถดถอยในวงกว้าง ซึ่งผลกระทบต่อเนื่องนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมไอทีที่คาดว่าจะดำเนินต่อไปในปี 2566 และปีต่อๆ ไป

ดังนั้น บางทีประโยชน์ของคำทำนายทางเทคโนโลยีประจำปีอาจไม่ใช่รายละเอียดที่ละเอียดมากนัก เพราะมักถูกทำให้ไขว้เขวจาเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่นเดียวกับโอกาสในการพิจารณาทิศทางทั่วไปของการเดินทาง

มาดูแนวโน้มและการคาดการณ์ล่าสุดกัน

สิ่งที่นักวิเคราะห์พูด

แนวโน้มเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ 10 อันดับแรกของ Gartner สำหรับปี 2566 แบ่งออกเป็น 3 หัวข้อ:

เพิ่มประสิทธิภาพระบบ IT เพื่อความน่าเชื่อถือที่มากขึ้น ปรับปรุงการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและรักษาคุณค่าความสมบูรณ์ของระบบ AI ในการผลิต
ปรับขนาดข้อเสนอแนวตั้ง เพิ่มความเร็วในการจัดส่งผลิตภัณฑ์และเปิดใช้งานการเชื่อมต่อทุกที่
บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ สร้างการมีส่วนร่วมกับพนักงานและลูกค้าใหม่ และเร่งกลยุทธ์เพื่อเจาะตลาดเสมือนจริงใหม่

David Groombridge จาก Gartner กล่าวว่าการครอบคลุมแนวโน้มทั้งหมดเหล่านี้คือความยั่งยืน: "การลงทุนด้านเทคโนโลยีทุกอย่างจะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงคนรุ่นต่อไปในอนาคต โดยมุ่งเน้นไปที่ 'ความยั่งยืน' เป็นหลัก เนื่องจากมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการเทคโนโลยีที่ยั่งยืน" อีกทั้งการสนับสนุนสำหรับมุมมองนี้ยังมาจากแบบสำรวจ CEO และผู้บริหารธุรกิจอาวุโสประจำปี 2565 ของ Gartner ซึ่งพบว่าความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นตัวขับเคลื่อนที่ใหญ่เป็นอันดับสามรองจากประสิทธิภาพและคุณภาพ โดยในบรรดา 80% ของ CEO ที่วางแผนลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2565/2566

ระบบภูมิคุ้มกันดิจิทัล (DIS) ใช้เทคนิคที่หลากหลาย รวมถึงการทดสอบด้วย AI และการรักษาความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานของซอฟต์แวร์ เพื่อปรับปรุงคุณภาพและความยืดหยุ่นของระบบที่สำคัญต่อธุรกิจ โดยความสามารถในการสังเกตที่ใช้นั้นคือการใช้ข้อมูลดิบ เพิ่มบริบทและการวิเคราะห์ และสร้างการตัดสินใจทางธุรกิจและไอทีที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล นอกจากนั้น การจัดการความน่าเชื่อถือ ความเสี่ยง และความปลอดภัยของ AI (AI TRiSM) ยังครอบคลุมการกำกับดูแลโมเดล AI ความน่าเชื่อถือ ความยุติธรรม ความทนทาน ประสิทธิภาพ และความเป็นส่วนตัว

แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ของอุตสาหกรรมได้รวมเอาซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์ม และโครงสร้างพื้นฐานเข้าด้วยกันให้เป็นการบริการที่มีฟังก์ชันการทำงานที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรม โดยวิศวกรรมแพลตฟอร์มมอบเครื่องมือ ความสามารถต่างๆ และกระบวนการที่จำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ของนักพัฒนาและเร่งการส่งมอบดิจิทัล การรับรู้มูลค่าแบบไร้สายครอบคลุมการส่งมอบคุณค่าทางธุรกิจผ่านการประมวลผลของผู้ใช้ปลายทาง อุปกรณ์เอดจ์ และการแท็กดิจิทัล (RFID)

Superapps เป็นการรวมตัวกันของแอพ แพลตฟอร์ม และระบบนิเวศ ซึ่งบุคคลที่สามสามารถพัฒนาและเผยแพร่มินิแอพของตนเองได้ โดยระบบ AI ที่ปรับเปลี่ยนได้จะใช้ความคิดเห็นแบบเรียลไทม์เพื่อปรับการเรียนรู้และปรับให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่ง Metaverse เป็น 'พื้นที่แบ่งปัน 3 มิติเสมือนจริงแบบรวม' ที่มีระบบเศรษฐกิจตามสกุลเงินดิจิตอลและ NFT

IDC

การคาดการณ์อุตสาหกรรมไอทีทั่วโลกของ IDC สำหรับปี 2566 ครอบคลุมถึงปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งตามที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดความวุ่นวายทางเศรษฐกิจอย่างมาก หรือดังที่นักวิเคราะห์อย่าง Rick Villars กล่าวไว้ว่า "ในอีกหลายปีข้างหน้า ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำจะต้องมีบทบาทเป็นผู้นำในการช่วยให้องค์กรต่างๆ ใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมเพื่อก้าวผ่านมรสุมของการหยุดชะงักในปัจจุบัน"

Villars ชี้ให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ใกล้เข้ามาจะเป็นครั้งแรกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ 'ธุรกิจการให้บริการ' ซึ่งกลยุทธ์แบบเก่า เช่น ความล่าช้าในโครงการ capex (เช่น การอัปเกรดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์) จะไม่สามารถใช้ได้สำหรับผู้นำด้านไอที อีกทั้ง Villars ยังกล่าวว่า การมุ่งเน้นในปี 2566 จะเปลี่ยนไปสู่การลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายบนคลาวด์ เจรจาสัญญา XaaS ใหม่ กำจัดเครื่องมือ SaaS ที่ซ้ำกัน และมุ่งเน้นไปที่โครงการที่ให้มูลค่าทางธุรกิจสูงสุด) โดยต้องการการลด opex อย่างถาวรมากขึ้นใน 2567 และหลังจากนั้น (ด้วยต้นทุนต่อหน่วยไอทีที่ลดลงและต้นทุนแรงงานที่ลดลงสำหรับการบริหาร)

อย่างไรก็ตาม ยิ่งข้อความกว้างมากเท่าใดก็ยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น: "เทคโนโลยีและไอทีไม่เกี่ยวกับจุดที่เราตัด เพราะเทคโนโลยีคือจุดที่เราลงทุนเพื่อช่วยให้ธุรกิจที่เหลือรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย" Villars กล่าว "นี่คือการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องซึ่งเราเริ่มเห็นเมื่อสองปีที่แล้วไปสู่ธุรกิจดิจิทัล"

สำหรับ IDC แล้ว 'ธุรกิจดิจิทัล' ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่กระบวนการไปจนถึงผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดถึงประสบการณ์ และจะถูกส่งโดย 'ทีมในฝัน' ที่ผสมผสานระหว่างไอทีและหน่วยธุรกิจ

ต่อไปนี้จะเป็นการคาดการณ์ที่สำคัญของ IDC:

·        ในปี 2568 60% ของโครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย ข้อมูล และเครือข่าย จะต้องใช้แพลตฟอร์มการควบคุมบนคลาวด์ที่เปิดใช้งานระบบอัตโนมัติ ที่ครอบคลุมและสัญญาว่าจะลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องจำนวนมาก
·        ภายในปี 2567 ข้อบกพร่องในการสร้างทักษะที่สำคัญและความพยายามในการฝึกอบรมโดยผู้นำในอุตสาหกรรมไอทีจะทำให้ 65% ของธุรกิจไม่สามารถบรรลุมูลค่าสูงสุดจากการลงทุนบนคลาวด์ ข้อมูล และระบบอัตโนมัติ
·        การยืนยันอำนาจอธิปไตยในด้านความยั่งยืน ความยืดหยุ่น และการอยู่อาศัยของสินทรัพย์จนถึงปี 2568 จะบังคับให้ซีไอโอเปลี่ยนพนักงาน งบประมาณ และกระบวนการดำเนินงานมากกว่า 35% ของสินทรัพย์ด้านไอทีและข้อมูล
·        ในปี 2566 70% ของการนำโครงสร้างพื้นฐาน/ซอฟต์แวร์ในฐานะการบริการ มาใช้ขององค์กรจะถูกจำกัดมากขึ้นเนื่องจากไม่สามารถประเมินคำมั่นสัญญาของนวัตกรรมที่เร็วขึ้นและผลกำไรจากการดำเนินงานมากกว่าความกังวลด้านต้นทุน
·        ภายในสิ้นปี 2567 60% ของข้อเสนอ aaS ระดับแพลตทินัมในด้านความปลอดภัย การดำเนินธุรกิจ และ DaaS จะรวมการเข้าถึงแบบรวมสำหรับทีม SME ที่เชี่ยวชาญเพื่อช่วยลดผลกระทบของการขาดแคลนด้านทักษะ
·        ในปี 2569 45% ขององค์กร G2000 จะยังคงเผชิญกับความเสี่ยงที่สำคัญ เนื่องจากพนักงานแนวหน้าและผู้นำธุรกิจที่ไม่เต็มใจที่จะไว้วางใจการดำเนินการที่ริเริ่มโดยระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติที่ได้รับการตรวจสอบ

ความคิดสุดท้ายของ IDC สำหรับปี 2567 และหลังจากนั้นคือ ระบบอัตโนมัติของการดำเนินงานด้านไอที กระบวนการทางธุรกิจ และการพัฒนาแอปพลิเคชัน จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายขนาดธุรกิจดิจิทัล

"เรากำลังสร้างระบบส่งมอบเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นระบบที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัยกว่า ยั่งยืนกว่า และนั่นจะเป็นภารกิจที่ CIOs จะต้องจัดการ" Villars กล่าว

Forrester

Forrester กล่าวว่าองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องมุ่งความสนใจไปที่ภารกิจหลักและจุดแข็งของตนในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ “ในปี 2023 ผู้นำทางธุรกิจที่ชาญฉลาดจะต้องมีสติ พยายามในสิ่งที่ยังไม่เกิดผลและการให้ความสำคัญกับการเติบโตในระยะยาว และถึงแม้ความวุ่นวายทางเศรษฐกิจและการเมืองจะถาโถม แต่ความกลัวและการหยุดชะงัก ความตื่นตระหนก การมองรายได้ระยะสั้น และการกลับไปที่สำนักงานที่วางแผนไว้ไม่ดีมีก็แต่จะทำให้สิ่งต่างๆ แย่ลง"
นี่คือคำทำนายที่สำคัญบางส่วนของ Forrester:

ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นแต่ไม่หยุดการใช้จ่าย
การขาดแคลนทักษะท้าทายความสามารถของทีม CX ในการเติบโต
การตรวจสอบเทคโนโลยีทำให้พนักงานไม่พอใจ
Greenwashing กลายเป็นความเสี่ยงทางธุรกิจที่ร้ายแรง
ผู้นำพยายามบังคับให้พนักงานกลับไปทำงานในสำนักงาน ซึ่งผลลัพธ์นั้นเลวร้าย
การทดลอง Metaverse ไม่สามารถจับภาพจินตนาการของสาธารณชนได้
วิกฤตความสามารถผลักดันให้ผู้บริหารด้านเทคโนโลยีแสวงหาแหล่งที่มาของผู้สมัครใหม่ๆ
เรื่องอื้อฉาวในบริษัทเทคโนโลยีทำลายความเชื่อใจของผู้บริโภค

Forrester กล่าวว่าสิ่งสำคัญทางธุรกิจ/เทคโนโลยีที่สำคัญในปี 2566 คือความไว้วางใจในรูปแบบต่างๆ "ลูกค้ารู้สึกเบื่อหน่ายมากขึ้นกับการที่องค์กรต่างๆ ที่เล่นข้อมูลส่วนตัวอย่างรวดเร็วและหลวมตัว ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลนั้นก็ไม่ได้ล้าหลัง และมันจะไม่หยุดเพียงแค่นั้น เพราะมันจะขับเคลื่อนโดยความเดือดดาลของลูกค้าและพนักงานที่เบื่อหน่าย และการตรวจตราพนักงาน"

CCS Insight

บริษัทวิจัยแห่งหนึ่งที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการพยากรณ์อย่างละเอียดคือ CCS Insight ที่เพิ่งจัดงานออนไลน์สามวันที่มีการนำเสนอของนักวิเคราะห์ การสัมภาษณ์ผู้บริหารจาก Samsung, EE และ Qualcomm และการคาดคะเนไม่ต่ำกว่า 100 รายการ

การคาดการณ์ปี 2023 ของ CCS Insight แบ่งออกเป็น 10 หมวดหมู่ ได้แก่ รากฐานของซิลิคอน, ความยั่งยืน ความก้าวหน้าด้านโครงสร้างพื้นฐาน ผู้ให้บริการการเชื่อมต่อ กฎระเบียบ โอกาสใหม่ อนาคตส่วนบุคคล สถานที่ทำงานเปลี่ยนแปลง โลกเสมือนจริง และอุปกรณ์เชื่อมต่อ

แทนที่จะแสดงรายการคำคาดการณ์ทั้งหมด 100 รายการ (คุณสามารถค้นหาได้ที่นี่) เราได้เลือกสองสามรายการจากแต่ละหมวดหมู่ที่ดูน่าสนใจมาแล้ว:

หมวดหมู่	การคาดการณ์
รากฐานของซิลิคอน (Silicon Foundations)	ความพยายามที่จะปรับสมดุลของความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ล้มเหลว ซึ่งไต้หวันยังคงเป็นผู้นำ
	คอมพิวเตอร์ควอนตัมบรรลุเวลาเชื่อมโยงกัน 60 วินาทีภายในปี 2568
ความยั่งยืน (Sustainability)	ภายในปี 2560 แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามรอยเท้าคาร์บอนได้แบบเรียลไทม์
	ภายในปี 2567 มาตรฐานสากลจะพัฒนาการคำนวณการปล่อยคาร์บอนของบริการคลาวด์
ความก้าวหน้าของโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Advances)	การพัฒนา 6G ในช่วงแรกของจีนส่งผลให้มาตรฐานการแข่งขันอย่างน้อยสองมาตรฐานในตะวันออกและตะวันตก
	ภายในปี 2567 เครือข่ายมือถือหลักจะประสบปัญหาการหยุดทำงานเนื่องจากเกตเวย์ DNS หลายตัวทำงานล้มเหลวพร้อมกัน
ผู้ให้บริการการเชื่อมต่อ (Connectivity Providers)	ภายในปี 2568 Starlink ผู้ให้บริการบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียมจะแยกตัวออกจาก SpaceX เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
	ายในปี 2568 ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอย่างน้อย 25 รายจะเสนอบริการรถยนต์ที่เชื่อมต่อเป็นส่วนเสริมในแผน 5G สำหรับผู้บริโภค
ระเบียบข้อบังคับ (Regulation)	Digital Markets Act ของสหภาพยุโรปยุติการแสดงผลิตภัณฑ์ที่ต้องการในผลการค้นหาภายในปี 2567
	สัญญาณที่ชัดเจนของ "splinternet" ของรัสเซียและจีนจะเกิดขึ้นภายในปี 2566
โอกาสใหม่ๆ (New Opportunities)	Apple เข้าสู่ธุรกิจประกันสุขภาพของสหรัฐอเมริกาในปี 2567
	ภายในปี 2569 มีบริษัทจำนวนมากขึ้นจะตามเทสลาในการลงทุนในห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุ
อนาคตส่วนบุคคล (Personal Futures)	ภายในปี 2571 "บล็อกเชนของคุณ" จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฝาแฝดดิจิทัลที่ทำงานได้เพื่อสนับสนุนบริการส่วนบุคคล
	ภายในปี 2573 การตรวจติดตามร่างกายแบบไร้สายอัจฉริยะจะนำไปสู่การดูแลสุขภาพที่แพร่หลายและเป็นส่วนตัว
การเปลี่ยนแปลงสถานที่ทำงาน(Changing Workplace)	ภายในปี 2567 เครื่องมือการทำงานร่วมกันขององค์กรจะเพิ่มพื้นที่เสมือนจริงเพื่อช่วยจำลองประสบการณ์ในสำนักงาน
	ความต้องการซอฟต์แวร์ที่วัดและติดตามความเชื่อมโยงระหว่างประสบการณ์ของพนักงานและประสบการณ์ของลูกค้าจะเร่งตัวขึ้นในปี 2566
โลกเสมือนจริง (Virtual Worlds)	ความพยายามของ Apple ในการประมวลผลเชิงพื้นที่หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์เฉพาะ เช่น ความจริงเสมือน ความจริงเสริม หรือเมตาเวิร์ส โดยสิ้นเชิง
	ภายในปี 2568 Meta จะเปิดตัวชุดหูฟังเสมือนจริงที่ควบคุมโดยเซ็นเซอร์ประสาทในตัว
อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ (Connected Devices)	ภายในสิ้นปี 2569 ผู้คนมากกว่า 25 ล้านคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อกับดาวเทียมโดยตรง
	Apple เปิดตัว iPad แบบพับได้ในปี 2567

ในการอภิปรายในงาน นักวิเคราะห์ของ CCS Insight ได้อภิปรายถึงวิธีที่การเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมมีแนวโน้มที่จะช่วยเสริมมากกว่าการแย่งชิงเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรศัพท์เคลื่อนที่บนบก ในขณะที่สังเกตการประกาศบริการผ่านดาวเทียมที่วุ่นวายล่าสุดจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมอภิปรายยังพูดถึงสถานะของการเล่นใน metaverse, เทคโนโลยีที่ยั่งยืน และบ้านอัจฉริยะ

ไม่น่าแปลกใจที่การเชื่อมต่อ Wi-Fi บรอดแบนด์ทั้งแบบประจำและแบบเคลื่อนที่ และดาวเทียม ตามลำดับ เนื่องจากสิ่งนี้เป็นรากฐานของโลกดิจิทัลทั้งหมด ในทำนองเดียวกัน การแสดงที่โดดเด่นสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (ML) ความปลอดภัยทางไซเบอร์ คลาวด์คอมพิวติ้ง และการพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด ตำแหน่งรองชนะเลิศของ metaverse พร้อมด้วย VR/AR/MR/XR ยืนยันสถานะว่าเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ ในขณะที่การมีอยู่ของ 'Geopolitics & tech supply chain' ในอันดับที่หกเป็นสัญญาณของเวลา

และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นผู้ครอบครองตำแหน่งที่สี่: ความยั่งยืน เมื่อทุกคนยอมรับความสำคัญของการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยกเว้นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียหรือมีอุดมการณ์ เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากสร้างการพิจารณาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการคาดการณ์เกี่ยวกับอุปกรณ์ ส่วนประกอบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที และเครือข่ายที่เชื่อมต่อพวกเขา

ที่มา: https://zd.net/3I37HCm